พัฒนาการบริหารจัดการชุมชนแบบมีส่วนร่วมเพื่อแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธีด้วยหลักศาสนา
1.แกนนำชุมชนทำกิจกรรมร่วมกัน 2.กลุ่มเยาวชนให้ความสำคัญในการร่วมกิจกรรม 3.บรรยายความสำคัญการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชน
1.เชิญวิทยากรบรรยายการหลักการบริหารและการแก้ปัญหาชุมชนด้วยหลักศาสนา 2.ระดมความคิดโดยการแบ่งกลุ่มในแต่ละกลุ่มจะมีสมาชิกที่แตกต่างกันทั้งวัยวุมิและคุณวุฒิ 3.แกนนำชุมชน แกนนำศาสนาต่างๆให้ความสนใจกิจกรรม
ประกอบด้วย
พื้นที่เป้าหมาย ระบุ พื้นที่หมู่บ้านและชุมชน/ตำบล/อำเภอ/จังหวัด จำนวน เหตุผลที่เลือก และวิธีการเลือก หมู่ที่ 1 บ้านสุไหงปาแน หมู่ที่ 4 บ้านกำปงตารง หมู่ที่ 5บ้านกูวิง หมู่ที่ 6 บ้านจือโระ ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
1.การจัดงานเมาลิด 2.เตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมที่4
1.การประชุมเพื่อเตรียมพร้อมการทำกิจกรรมเปิดกิจกรรมโครงการ 2.ทบทวนเพื่อสอบถามความชัดเจนในการยอมรับมตินั้นๆ 3.การประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมที่ 4 และทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน 4.ปรึกษาหารือมีทั้งที่เป็นแบบทางการและแบบกึ่งทางการ
ประกอบด้วย
-บันทึกข้อมูลรายละเอียดโครงการ -ฝึกบันทึกข้อมูลกิจกรรม -บันทึกข้อมูลองค์กร
-ได้รายงานกิจกรรมผ่านเว็ปไซต์ จำนวน 4 กิจกรรม
ประกอบด้วย
ภาคประชาสังคมที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนตามโครงการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของภาคประชาคมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา จชต. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 (งบ 50 ล้าน)
1.แบ่งกลุ่มระดมความคิด 2.นำเสนอแต่ละกลุ่ม
1.การทำเวทีระดมความคิดควรเป็นเวทีที่เปิดให้ทุกคนได้มีสิทธิ์ในการนำเสนอความคิดเห็น 2.ชุมชนได้มีแกนนำที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอด ย่อมทำให้เกิดการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน ด้านศาสนา ด้านการปกครอง ด้านผู้ทรงคุณวุฒิและด้านเยาวชน 4 ชุมชนๆ ละ 20 คน พร้อมด้วยคณะกรรมการโครงการอีก 10 คน เป็นจำนวน 90 คน.... ณ.หอประชุมมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าปัญญาเลิศ.
1.รวบรวมเอกสารเพื่อจัดทำรายงาน
รายงาน 1 เล่ม
ประกอบด้วย
คณะกรรมจัดทำตามโครงการ
เรียนเชิญผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบไปด้วย.....แกนนำชุมชน ด้านศาสนา ด้านการปกครอง ด้านผู้ทรงคุณวุฒิและด้านเยาวชน 4 ชุมชนๆ ละ 20 คน พร้อมด้วยคณะกรรมการโครงการอีก 10 คน เป็นจำนวน 90 คน.... ณ.มัสยิดบ้านเหนือบ้านคูเต่า อำเภอ หาดใหญ่ จังหวัด สงขลา ในวันแรกช่วงเช้าได้ทีการอบรมการบริหารจัดการชุมชนที่มีประสิทธิภาพโดยมีกลักการศาสนาเป็นฐาน ท่านเลขาจุฬาราชมนตรีได้ให้ข้อคิดไว้มากมายในการบริหารจัดการชุมชน สรุปได้ว่าขั้นแรกเราต้องทำไห้ทุกคนมีความสำนึกในการรับผิดชอบ ในการใช้ชีวิตร่วมกัน ในการช่วยเหลือกันและกัน ในการรับผิดชอบชุมชนร่วมกัน ตลอดจนยังได้บรรยายหลักการศาสนาหลายๆ
1.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมถือโอกาสถ่ายรูปหมู่หน้ามัสยิดเพื่อเป็นที่ระลึก เป็นรูปที่แสดงถึงความสอดคล้องระหว่างการบริหารจัดการชุมชนที่มีกระบวนการทางศาสนาเป็นกิจกรรมขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี 2.ร่วมฟังการบรรยายจากท่านเลขาจุฬาราชมนตรี สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางความนึกคิดและทัศนคติที่ดีต่อกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี 3.ท่านเลขาจุฬาราชมนตรีกำลังบรรยายถึงรูปแบบและบทบาทของมุสลิมในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างปกติสุข 4.กลุ่มเยาวชนมีความพร้อมเพียงมากในการรักษาเวลามาร่วมรับประทานอาหาร 5.ตัวแทนนักกิจกรรมศาสนา ประจำหมู่ 6 บ้านจือโระ กำลังนำเสนอรูปแบบการบริหารชุมชนด้วยหลักศาสนา ที่ควรจะเป็น
ประกอบด้วย
จัดเวทีอบรม หรือเวทีศาสนสำพันธ์ระหว่างแกนนำต่างศาสนาในชุมเดียวกันหรือชุมใกล้เคียง
จัดเวทีอบรม หรือเวทีศาสนสำพันธ์ระหว่างแกนนำต่างศาสนาในชุมเดียวกันหรือชุมใกล้เคียง เพื่อหาความเหมือนที่ต่างศาสนามีกันและกัน เพราะแน่นอนทุกศาสนามีข้อปลีกย่อยที่คล้ายกันในแง่การปฏิบัติตนในทางที่ดีมากมาย การจัดอบรมเป็นไปด้วยความราบรื่นจนจบกิจกรรม
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน ด้านศาสนา ด้านการปกครอง ด้านผู้ทรงคุณวุฒิและด้านเยาวชน 4 ชุมชนๆ ละ 20 คน พร้อมด้วยคณะกรรมการโครงการอีก 10 คน รวมเป็นจำนวน 90 คน