ชื่อโครงการ | (19)พัฒนามาตรฐานสินค้าปลอดภัยสู่การตลาดสีเขียวอำเภอละแม |
ภายใต้องค์กร | Node Flagship จังหวัดชุมพร |
รหัสโครงการ | 65-00240-0019 |
วันที่อนุมัติ | 30 เมษายน 2022 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2022 - 30 เมษายน 2023 |
งบประมาณ | 170,000.00 บาท |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน SDG PGS อำเภอละแม |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายวิเวก อมตเวทย์ |
เบอร์โทรผู้รับผิดชอบโครงการ | 081-597313 |
อีเมล์ผู้รับผิดชอบโครงการ | wiwag Amatawet |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสุดาภรณ์ ปัจฉิมเพ็ชร |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 พ.ค. 2022 | 30 ก.ย. 2022 | 1 พ.ค. 2022 | 30 ก.ย. 2022 | 68,000.00 | |
2 | 1 ต.ค. 2022 | 28 ก.พ. 2023 | 1 ต.ค. 2022 | 28 ก.พ. 2023 | 93,500.00 | |
3 | 1 มี.ค. 2023 | 30 เม.ย. 2023 | 1 มี.ค. 2023 | 30 เม.ย. 2023 | 8,500.00 | |
รวมงบประมาณ | 170,000.00 |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การรวมตัวของประชาสังคมในพื้นที่อำเภอละแม ภายใต้ เครือข่ายรักษ์ละแม ตั้งแต่ปี 53 มีสมาชิกจำนวน
255 คนในทุกตำบลเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ร่วมสร้างละแมให้น่าอยู่ โดยมีกิจกรรมสำคัญ เช่น การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ค่ายเยาวชนรักสิ่งแวดล้อม) การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน (ส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอาชีพ) การสร้างสรรค์สังคมวัฒนธรรมประเพณี (กิจกรรมมุทิตาคารวะผู้อาวุโส) เป็นต้น โดยเฉพาะการสร้างความเป็นอยู่ดีกินดี นั้นได้ระดมความร่วมมือ กระตุ้นกลุ่มอาชีพต่างๆ ให้ดำเนินการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาต่อเนื่อง บทเรียนสำคัญของการขับเคลื่อนเครือข่ายรักษ์ละแมที่ผ่านมา ตกผลึกร่วมกันในการจะสร้างสำนึกรักษ์ถิ่น สร้างละแมให้น่าอยู่นั้น ต้องทำการยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือน “กินอิ่ม นอนอุ่น ทุนมี หนี้หมด ” หรือสร้างเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่นให้อยู่ดีมีสุข
จวบจนเครือข่ายรักษ์ละแมได้ร่วมมือกับเครือข่ายเกษตรกรรมยั่งยืน และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชุมพร จัดตั้งสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนจังหวัดชุมพร (CHUMPHON SASTAINABLE AGGRICULTURE FEDERATION) และจัดตั้ง สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน SDGPGS อำเภอละแม เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2562 และมีการดำเนินงานที่ผ่านมาดังนี้ 1)จัดเวที“เขย่าทัศน์” ปรับทัศนคติ (Mindset) ให้กับเกษตรกรที่สนใจขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ทั้งจังหวัด 2)อบรมผู้ตรวจแปลงเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDGsPGS จำนวน 3 วัน มีเกษตรกรที่ผ่านการอบรมและเป็นผู้ตรวจแปลงตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDGsPGS กว่า 80 คน 3) พัฒนาคณะทำงานฐานข้อมูลสารสนเทศที่ทำการตรวจแปลง 4)ประชุมคณะทำงานกลั่นกรองข้อมูลแปลงเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDGsPGS และคณะกรรมการรับรองระดับจังหวัดได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDGPGS แล้ว 178 ราย/แปลง
สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน SDGPGS อำเภอละแม จัดโครงสร้างการดำเนินงานดังนี้ 1)มีคณะกรรมการ
สมาพันธ์ฯระดับอำเภอและคณะทำงานระดับตำบลทั้ง 4 ตำบลซึ่งดำเนินการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน SDGPGS ระดับตำบล 2)มีคณะทำงานตรวจแปลงตามมาตรฐาน SDGPGS 3) มีคณะทำงานระบบข้อมูลสารสนเทศ(กลั่นกรองข้อมูล) ก่อนนำเข้าสู่คณะกรรมการรับรอง 4) คณะทำงานบริหารจัดการร้านค้า Out let เกษตรอินทรีย์ชุมพร 5)ร่วมกับกลไกระดับจังหวัด 3 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการรับรองมาตรฐาน SDGPGS จังหวัดชุมพรซึ่งมี ผอ.มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการติดตามประเมินผล และคณะกรรมการอำนวยการซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และได้ร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตรอำเภอละแม สหกรณ์การเกษตรนิคมหลังสวน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร ธกส.ชุมพร ขับเคลื่อนพัฒนาการเกษตรกรรมยั่งยืนมาตามลำดับ ในส่วนของกลไกสนับสนุนคือเครือข่ายรักษ์ละแม ในรอบปีที่ผ่านมาได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล สมาคมเครือข่ายรักษ์ละแม ซึ่งจะได้ดำเนินงานร่วมกับ สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน SDGPGS อำเภอละแม
สถานการณ์การเกษตรพื้นที่อำเภอละแม มีการทำเกษตรเชิงเดี่ยวหรือเกษตรเคมีในพื้นที่อำเภอละแม 150,379
ไร่ (ปาล์มน้ำมัน 48,096 ไร่ ,ยางพารา 37,575 ไร่ ,ทุเรียน 27,054 ไร่ ,มังคุดและลองกอง 10,521 ไร่ ,เงาะ 7,515 ไร่ ,มะพร้าว 7,515 ไร่ ,กาแฟ 4,509 ไร่ ,กล้วยหอมทอง 4,509 ไร่ ,หมากและพืชอื่นๆ 3,006 ไร่ ) การดำเนินงานของสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนละแม กับ สมาคมเครือข่ายรักษ์ละแม ในปี 2564 นั้นมีสมาชิกที่สนใจเข้าร่วมขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน 270 ราย และได้เข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรแบบมีส่วนร่วม SDGPGS จำนวน 77 แปลง มีพื้นที่เพาะปลูกทั้งพืชผักและไม้ผลจำนวน 850 ไร่ การจัดตั้งจดแจ้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนระดับตำบล ไปแล้ว 3 องค์กร และดำเนินการจัดสร้างตลาดสินค้าเกษตร รูปแบบ Out let เกษตรอินทรีย์ชุมพรเพื่อเป็นแรงจูงใจในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ แต่ต้องหยุดและชะลอการดำเนินไปด้วยสถานการณ์โควิท-19 ทั้งนี้ยังได้พัฒนาการผลิตแปรรูปสินค้าจากแปลงเกษตรอินทรีย์ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น ไตปลาแห้ง หน่อไม้ดองและแห้ง น้ำอ้อยคั้น ข้าวยำใบบัว แยมหม่อน ฯลฯ แต่ด้วยสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนจังหวัดชุมพร เป็นองค์กรเครือข่ายที่ไม่ได้จดทะเบียนกับทางราชการ การเข้าถึงงบประมาณของราชการเป็นไปได้ยาก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ใช้การออกทุนสมทบส่วนตัว ระบบอาสาสมัครมาร่วมด้วยช่วยกัน จัดประชุมโดยการหิ้วปิ่นโต ยังเป็นข้อจำกัดในการขับเคลื่อนที่ต่อเนื่อง ให้เท่าทันสถานการณ์ที่เข้ามากระทบ และประเด็นสำคัญที่สมาพันธ์ฯ ยังดำเนินการไม่สำเร็จในรอบปีที่ผ่านมาคือ การจัดทำแผนการผลิตรายครัวเรือน และ แผนธุรกิจชุมชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการจัดการสินค้าอาหารปลอดภัยของพื้นที่และมวลสมาชิก
อย่างไรก็ตามทางสมาพันธ์ฯ และสมาคมเครือข่ายรักษ์ละแม ยังคงขับเคลื่อนทางสังคมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เกษตรกรรมยั่งยืน มีอาหารและมีรายได้ โดยมียุทธศาสตร์ “ ร่วมสร้างละแมน่าอยู่ ” และ “เกษตรอินทรีย์วิถีชุมพร ” มีสโลแกน “คิด ทำ นำ เปลี่ยน ” กำหนดแนวทางในการยกระดับและขยายผลไว้ ดังนี้ 1) ขยายสมาชิกและเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 2)แสวหารูปแบบและกระบวนการลดต้นทุนการผลิตให้แก่สมาชิกผู้ทำเกษตรกรรมยั่งยืน 3) พัฒนาระบบการตลาดหลายรูปแบบ (ออฟไลนและออนไลน์) ทำให้เกิดรายได้ครัวเรือนหรือตลาดนำการผลิต อันเป็นแรงจูงใจให้มีสมาชิกรายใหม่เพิ่มขึ้น 4)เชื่อมและสานพลัง คน องค์กร และทุนต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่ ซึ่งมีผังภาพสรุปดังนี้
การจัดเวทีพัฒนาข้อเสนอโครงการ สสส. ในปี 2565 นั้นยังเป็นความเป็นความท้าทายของการผลิตเกษตรปลอดสาร อาหารปลอดภัยในพื้นที่ละแม เพื่อให้เกิดการลดผลกระทบต่อสุขภาวะคนละแม มีข้อสรุปดังนี้
1) ด้านสุขภาพ ภาวะการณ์เจ็บป่วยตาย โดยเทียบเคียงกับข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร
สาเหตุการตายจังหวัดชุมพรพบว่า โรคมะเร็ง เป็นโรคที่เป็นสาเหตุการตายเป็นอันดับที่ 1มาตลอด และสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปีที่ผ่านมา (อัตรา 103.72 ต่อประชากร 100,000 คน) รองลงมาคือโรคระบบหายใจ (อัตรา 55.14 ต่อประชากร 100,000 คน) และ โรคโลหิตเป็นพิษ ซึ่งมาอัตราตายเท่ากับโรคหลอดเลือดสมอง (อัตรา 36.43 ต่อประชากร 100,000 คน) ตามลำดับ และสาเหตุการป่วยของผู้ป่วยนอก จังหวัดชุมพร อันดับ 1 คือ โรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ โภชนาการ และเมตะบอลิสึม อันดับ 2 คือ โรคระบบไหลเวียนเลือด และอันดับ 3 คือ โรคระบบหายใจ และในภาวะการณ์ปัจจุบันที่เกิดโรคระบาดของไวรัสโควิดจึงทำให้เกิดการติดเชื้อและเจ็บป่วยเรื้อรังเป็นจำนวนมาก
2) ด้านสังคม ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ยังเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย ราคาเป็นธรรมได้น้อย ด้วยการทำเกษตร
เชิงเดี่ยวต้องซื้ออาหารอื่นเป็นหลัก ค่าครองชีพค่อนข้างสูงเมื่อเทียวกับอำเภอใกล้เคียง ในอนาคตจะต้องทำให้ดำรงชีพของคนในสังคมเป็นปกติสุขมีอายุขัยเฉลี่ยตามเกณฑ์ 77 ปีของประชากรภาคใต้
3) ด้านเศรษฐกิจ ภาระหนี้สินครัวเรือนและการว่างงานจากสถานการณ์โควิดจึงทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอกับการ
ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเนื่องจากราคาของใช้ ของบริโภคและต้นทุนภาคการเกษตรมีราคาเพิ่มขึ้นรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล (ข้อมูลสำรวจจากโครงการชุมชนน่าอยู่ มีหนี้สินครัวเรือน 320,000 บาทต่อครัวเรือน) จากสถานการณ์นี้ต้องใช้เวลาเปลี่ยนแปลงการผลิตจากเกษตรเคมีสู่เกษตรกรรมยั่งยืนในห้วง 3-5 ปี จึงจะลดค่าใช้จ่ายในปัจจัยการผลิต
4) ด้านสิ่งแวดล้อม การปนเปื้อนสารเคมีสภาพภูมิอากาศ (พื้นที่ฉีดพ่นสารเคมีในแปลงทุเรียน) และในแม่น้ำ
ลำคลอง ดินส่งผลให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงดังนั้นจึงต้องเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับมาสมบูรณ์
ฉะนั้นจะลดผลกระทบต่อสุขภาวะคนละแม จำเป็นต้องจัดการปัจจัยทางสังคมที่กำหนดสุขภาพ ซึ่งจากการ
ปรึกษาหารือวิเคราะห์พบว่ามีสาเหตุที่สำคัญ ได้แก่
- ด้านพฤติกรรมบุคคล เกษตรกรทั่วไปยังเน้นความสะดวกสบายในการใช้สารเคมีเกษตรและมีความเชื่อว่าการทำ
เกษตรอินทรีย์นั้นทำได้ยากและไม่นิยมปลูกพืชอาหารเพื่อการบริโภคจึงหาซื้อพืชผักอาหารที่ผลิตโดยใช้สารเคมีเพราะมีราคาถูกและเก็บได้นานหาซื้อได้ง่าย
- ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคมและกายภาพ เกษตรกรส่วนใหญ่ในสังคมยังทำเกษตรเชิงเดี่ยวมุ่งเน้นการผลิตเพื่อ
การพาณิชย์ และขายตามราคาตลาด ร้านค้าจำหน่ายเคมีภัณฑ์มีทั่วไป โฆษณาตามสื่อกระแสหลักต่อเนื่อง และสถานที่ทีหรือโรงผลผลิตปุ๋ยชีวภาพสารชีวภัณฑ์ยังมีน้อยอีกทั้งราคายังแพง ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ไม่มีในพื้นที่ผู้ผลิตจึงไม่มีแหล่งจำหน่ายสินค้าอินทรีย์
- ด้านกลไกหรือระบบที่เกี่ยวข้อง สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน เป็นรูปแบบใหม่เพิ่งเรียนรู้และพัฒนากลไกการทำงานที่สอดคล้องกับพื้นที่ เกษตรกรทั่วไปยังไม่ให้การยอมรับจากสังคมและเป็นองค์กรที่ไม่เป็นทางการโอกาสที่จะเข้าถึงแหล่งทรัพยากรได้ยาก ระบบราชการกระทรวงเกษตรยังไม่เอาจริงเอาจังกับวาระชุมพรเกษตรอินทรีย์ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศวาระนี้มา 3 ปีแล้วตั้งเป้าหมายมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 8,000 ไร่ แต่ไม่มีระบบข้อมูลหรือการส่งเสริมอย่างเป็นระบบขาดกลไกการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค
ดังนั้นสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน SDGPGS อำเภอละแม จึงได้มีฉันทามติร่วมกันที่จะร่วมสานต่อพัฒนา
มาตรฐานสินค้าปลอดภัยสู่การตลาดสีเขียวในพื้นที่อำเภอละแมและพื้นที่ต่างๆ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาดังนี้
1) มีระบบบริหารจัดการที่เท่าทันนโยบายรัฐและความต้องการของเกษตรกร และยึดหลักการแบ่งปัน
ผลประโยชน์ จัดความสัมพันธ์ใหม่สร้างกลไกการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค
2) การพัฒนาระบบการผลิตเกษตรกรรมยั่งยืนใน 5 รูปแบบได้แก่เกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ เกษตรผสมผสาน
วนเกษตรหรือธนาคารต้นไม้ เกษตรอินทรีย์ และเกษตรธรรมชาติ ทั้งนี้โดยยกระดับการผลิตตามบริบทพื้นที่ของเกษตรกรรายครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันมีแปลงต้นแบบในแต่รูปแบบต่างๆ จำนวน 15 แปลงที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ขยายผลให้กับเกษตรผู้สนใจทั่วไป ควบคู่กับการลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตได้ง่าย ราคาที่เป็นธรรม และการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มของนักประกอบการชุมชน
3) พัฒนาระบบการตลาดหลายรูปแบบ (ออฟไลนและออนไลน์) ทำให้เกิดรายได้ครัวเรือนหรือตลาดนำการผลิต
4) เชื่อมและสานพลัง คน องค์กร และทุนต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่
เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์สำคัญ 4 ผลลัพธ์ได้ ได้แก่
1) กลไกสมาพันธ์เกษตรฯ มีขีดความสามารถขับเคลื่อนงานเกษตรกรรมยั่งยืน
2) เกิดความร่วมมือกับภาคีเครือในพื้นที่
3) เกิดการจัดการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อสุขภาพ
4) เกิดการเพิ่มการผลิตและรายได้ครัวเรือน 10%
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | |||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | พ.ค. 65 | มิ.ย. 65 | ก.ค. 65 | ส.ค. 65 | ก.ย. 65 | ต.ค. 65 | พ.ย. 65 | ธ.ค. 65 | ม.ค. 66 | ก.พ. 66 | มี.ค. 66 | เม.ย. 66 | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | กิจกรรมที่่ 3 การจัดการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อสุขภาพ(1 พ.ค. 2022-31 มี.ค. 2023) | 31,300.00 | |||||||||||||
2 | ส่วนที่ สสส. สนับสนุน(1 พ.ค. 2022-30 เม.ย. 2023) | 10,000.00 | |||||||||||||
3 | กิจกรรมที่ 1 ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำและประเมินผลลัพธ์(7 พ.ค. 2022-24 มี.ค. 2023) | 52,500.00 | |||||||||||||
4 | กิจกรรมที่ 2 ความร่วมมือภาคีเครือข่ายในพื้นที่(1 ก.ค. 2022-31 มี.ค. 2023) | 62,700.00 | |||||||||||||
5 | กิจกรรมที่ 4 การเพิ่มพื้นที่การผลิตและรายได้(1 ต.ค. 2022-31 มี.ค. 2023) | 14,000.00 | |||||||||||||
รวม | 170,500.00 |
1 กิจกรรมที่่ 3 การจัดการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อสุขภาพ | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 140 | 31,300.00 | 3 | 31,300.00 | |
21 พ.ค. 65 | พัฒนาผู้ประกอบการชุมชน (โดย ม.แม่โจ้-ชุมพร) | 50 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
20 ส.ค. 65 | ส่งเสริมการจัดการตลาด OUTLET (ออนไลน์/ออฟไลน์) | 30 | 19,500.00 | ✔ | 19,500.00 | |
16 ก.พ. 66 | จัดเวทีเชื่อมโยงการจัดการสินค้าตลาดภายในเครือข่ายสมาพันธ์ฯ จังหวัดชุมพร และภาคีที่เกี่ยวข้อง | 60 | 11,800.00 | ✔ | 11,800.00 | |
2 ส่วนที่ สสส. สนับสนุน | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 17 | 10,000.00 | 7 | 10,000.00 | |
1 มิ.ย. 65 | จัดทำป้ายโครงการและประชาสัมพันธ์งดสุราและบุหรี่ | 0 | 1,000.00 | ✔ | 1,000.00 | |
4 - 5 มิ.ย. 65 | จัดปฐมนิเทศน์โครงการย่อยNode Flagship Chumphon จำนวน 25 โครงการ | 6 | 3,690.00 | ✔ | 3,690.00 | |
30 ก.ค. 65 | อบรมพัฒนาศักยภาพโครงการย่อยด้านการบันทึกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ | 2 | 800.00 | ✔ | 800.00 | |
26 ต.ค. 65 | เวทีสมัชชาสุขภาพจังหวัดชุมพร | 3 | 1,000.00 | ✔ | 1,000.00 | |
31 ต.ค. 65 | ประชุมติดตามประเมินผลลัพธ์โครงการย่อย (ARE 1) | 3 | 1,000.00 | ✔ | 1,000.00 | |
10 เม.ย. 66 | ประชุมติดตามประเมินผลลัพธ์โครงการย่อย (ARE 2) | 2 | 510.00 | ✔ | 510.00 | |
28 เม.ย. 66 | จัดทำเอกสารและบันทึกข้อมูลลงระบบออนไลน์ | 1 | 2,000.00 | ✔ | 2,000.00 | |
3 กิจกรรมที่ 1 ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำและประเมินผลลัพธ์ | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 230 | 52,500.00 | 10 | 52,500.00 | |
1 พ.ค. 65 | ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำ ครั้งที่ 1 | 25 | 7,000.00 | ✔ | 7,000.00 | |
22 พ.ค. 65 | พัฒนาฐานข้อมูล สำรวจกลุ่มการผลิต สำรวจชนิดการปลูก ปริมาณการผลิต | 50 | 4,000.00 | ✔ | 4,000.00 | |
8 มิ.ย. 65 | จัดทำแผนดำเนินงานสมาพันธ์เกษตรฯละแม | 30 | 12,000.00 | ✔ | 12,000.00 | |
1 ก.ค. 65 | ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำ และประเมินผลลัพธ์ ครั้งที่ 2 | 25 | 6,500.00 | ✔ | 6,500.00 | |
1 ก.ค. 65 - 30 เม.ย. 66 | สื่อสารประชาสัมพันธ์เพจ Facebook | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
1 ก.ย. 65 | ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำ ครั้งที่ 3 | 25 | 5,500.00 | ✔ | 5,500.00 | |
19 ต.ค. 65 | หักเงินยืมเปิดบัญชีโครงการ | 0 | 500.00 | ✔ | 500.00 | |
1 พ.ย. 65 | ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำและประเมินผลลัพธ์ ครั้งที่ 4 | 25 | 6,000.00 | ✔ | 6,000.00 | |
5 ม.ค. 66 | ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำ ครั้งที่ 5 | 25 | 5,000.00 | ✔ | 5,000.00 | |
2 มี.ค. 66 | ประชุมติดตามงานคณะทำงานแกนนำ และประเมินผลลัพธ์ ครั้งที่ 6 | 25 | 6,000.00 | ✔ | 6,000.00 | |
4 กิจกรรมที่ 2 ความร่วมมือภาคีเครือข่ายในพื้นที่ | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 190 | 62,700.00 | 4 | 62,700.00 | |
3 มิ.ย. 65 | อบรมเชิงปฎิบัติเทคนิคและรูปแบบการผลิต ครั้งที่ 1 (น้ำมันปาล์มแดง) | 40 | 16,200.00 | ✔ | 16,200.00 | |
10 ก.ค. 65 | จัดเวทีทำแผนการผลิต/แผนธุรกิจและปฎิทินการผลิตรายครัวเรือน | 60 | 12,800.00 | ✔ | 12,800.00 | |
18 ก.ค. 65 | อบรมเชิงปฎิบัติเทคนิคและรูปแบบการผลิต ครั้งที่ 2 (สารชีวภัณฑ์) | 40 | 16,200.00 | ✔ | 16,200.00 | |
1 - 30 ก.ย. 65 | ตรวจรับรองมาตรฐานฯแปลงสมาชิกเก่า-ใหม่ | 50 | 17,500.00 | ✔ | 17,500.00 | |
5 กิจกรรมที่ 4 การเพิ่มพื้นที่การผลิตและรายได้ | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 60 | 14,000.00 | 2 | 14,000.00 | |
17 ก.พ. 66 | ติดตามประเมินผลพื้นที่การผลิตและเชื่อมโยงการจัดการสินค้า | 0 | 4,000.00 | ✔ | 4,000.00 | |
21 เม.ย. 66 | จัดเวทีนำเสนอผลงานและข้อเสนอสมาพันธ์เกษตรจังหวัดชุมพรต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | 60 | 10,000.00 | ✔ | 10,000.00 | |
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2022 11:54 น.