เพื่อให้คนชุมชนร่วมกิจกรรมในชุมชน และรักษาขนบธรรมเนีมประเพณีที่มีมาแต่บรรพบุรุษ
ผู้นำชุมชน เด็กและเยาวชน คณะทำงาน
จำนวน 50 ครัวเรือน และประชาชนทั่วไปร่วมกิจกรรมงานชุมนุมวันทองสูง
-ผู้ร่วมกิจกรรมได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษด้วยการทำบุญถวายทานและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ แก่บรรพชนที่ล่วงลับไปแล้ว
-ทราบถึงภูมิปัญญาชุมชนบ้านโคกพยอม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
-
-
ควรมีการรวบรวมภูมิปัญญาที่มีในชุมชน และจัดทำเป็นแบบเรียน หรือ คู่มือชุมชน เพื่อที่จะไม่ให้ภูมิปัญญาเหล่านั้น สูญหายไปกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก
นำชุมชน ประชาชน เด็กและเยาวชน คณะทำงาน
จำนวน 50 ครัวเรือน และประชาชนทั่วไปร่วมกิจกรรมงานชุมนุมวันทองสูง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชนใช้วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นการเชื่อมโยงความสามัคคีของชุมชน
-เปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามาร่วมกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี อันดีงามนำไปสู่ความรักใคร่ สามัคคี ในหมู่คณะและชุมชน -ประชาชนได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว - เยาวชนจะได้อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีต่อไป
()
เด็กและเยาวชนและครอบครัว คณะทำงาน
จำนวน 60 คน ร่วมกันแบ่งกลุ่มเพื่อนำเสนอภูมิปัญญาดีๆของชุมชน
เด็กและเยาวชนนำเสนอภูมิปัญญาที่ได้เรียนรู้จากในชุมชน หรือกลุ่มอสม. เป็นต้น ซึ่งได้บันทึกลงในไดอารี่ จากนั้นก็นำภูมิปัญญาเหล่านั้นมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันโดยผ่านทางเวทีที่คณะทำงานจัดให้ เพื่อที่จะได้จัดเป็นกลุ่มๆภูมิปัญญา เพื่อนำไปเป็นหลักสูตรให้กับเยาวชนคนอื่นๆที่สนใจได้ นอกจากนี้จะได้เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ใหญ่ในชุมชนหันมาสนใจภูมปัญญาที่มีในชุมชนและสืบสานต่อได้
()
เด็กและเยาวชนจำนวน 50 คนและกศน.จำนวน 10 คน ตลอดจนครูและเจ้าหน้าที่อบต. เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ด้วยกิจกรรมเพาะพันธ์ต้นกล้าทางปัญญา นั่นคือ 1.สามารถคิดดี คิดเป็น 2. เกิดเครือข่ายเยาวชนต้นกล้าปัญญาบ้านโคกพยอม
เยาวชนต้นกล้าปัญญาค้นหากิจกรรมความดี(ระดับบุคคล ระดับกลุ่ม และระดับเครือข่าย)โดยนำภูมิปัญญาที่พบในชุมชนอาทิ การจัดงานเดือนสิบ เป็นต้นมาปรับใช้ ทำความดีเพื่อตนเองและชุมชน โดยระดับบุคคลเน้นไปที่การทำความดีที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว ในเบื้องต้นและค่อยขยายไปในระดับกลุ่มและ ระดับเครือข่ายต่อไป
()
เด็กและเยาวชนจำนวน 50 คนและกศน.จำนวน 10 คน ตลอดจนครูและเจ้าหน้าที่อบต. เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ด้วยกิจกรรมเพาะพันธ์ต้นกล้าทางปัญญา นั่นคือ 1.สามารถคิดดี คิดเป็น 2. เกิดเครือข่ายเยาวชนต้นกล้าปัญญาบ้านโคกพยอม
-อบรมตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อพัฒนาเยาวชนและแกนนำให้มีทักษะชีวิตเพื่อการแก้ปัญหา ใช้วิถีวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการเชื่อมโยงความสามัคคีของชุมชน -อธิบายความหมายของสุขภาวะกาย จิตใจ สังคม ปัญญา โดยให้กลุ่มเยาวชนเกิดการเรียนรู้นำมาสู่การคิดดี คิดเป็น สร้างความตระหนักให้กลุ่มเยาวชนให้กลุ่มเยาวชนเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี เยาวชนมีการบันทึกความรู้ที่ได้รับลงในสมุดบันทึก “ไดอารีต้นกล้าปัญญา” - เกิดการจัดตั้งเครือข่ายต้นกล้าปัญญา โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงเรียนวัดทุ่งโตนด กลุ่มโรงเรียนวัดเนินพิจิตร และกลุ่มโรงเรียนวัดพรหมประดิษฐ์
()
จากการลงพื้นที่ได้มีการอธิบายที่มาของโครงการ โดย -ให้มีรูปแบบการจัดกระบวนการให้เยาวชนได้แสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “ต้นกล้า” โดยแบ่งกลุ่มเพื่อให้เยาวชนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่สสส.ให้เงินสนับสนุนโครงการเพื่อพัฒนาให้ชุมชนเข็มแข็ง พึ่งพาตัวเองได้ โดยยึดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเงินที่ได้มาเป็นของชุมชน ซึ่งมีคณะทำงานที่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อมาดูแลงบประมาณและจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน -อธิบายถึง “สุขภาวะองค์รวม” เพื่อที่จะต่อยอดให้กับเยาวชนต้นกล้าได้เข้าใจ เกิดสุขภาวะทางปัญญาที่ดีได้
คณะทำงานผู้รับผิดชอบโครงการแต่ละจังหวัด โดยจะเป็นโครงการในจังหวัดภาคใต้และพี่เลี้ยงติดตามโครงการ
-แนะนำพี่เลี้ยงผู้ติดตามแต่ละโครงการ -ชี้แจงการเขียนรายงานส1,ส2และรายงานการเงินง1 -การลงข้อมูลผ่านเวบไซด์ -สสส.ลงพบพูดคุยถึงโครงการที่ผ่านมาในปี53และให้ทางทีมงานเสนอปัญหา/อุปสรรคของการเขียนโครงการ
()