ข้อสังเกตงานสร้างสุขภาคใต้ จากหมอบัญชา
มีการเลื่อนวันจัดงานจาก ๕-๗ มีนาคม ออกไปเป็น ๑-๓ เมษายน เนื่องจากสถานที่จัดงานไม่พร้อม โดยได้ปรับกำหนดการใหม่แล้ว
กำหนดการยังเห็นเป็นตอน ๆ เป็นส่วน ๆ ไม่ได้แสดงให้เห็นภาพรวมของงานที่น่าสนใจ เช่น
- การออกแบบให้งานทั้งงาน หมายถึงทั้งสถานที่ ระบบบริการและเนื้อหาให้เป็นเสมือนการมาเข้าค่ายประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพที่เน้นในเรื่อง ‘ปัญญา’ โดยการเลือกจัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีหอพุทธทาสธรรมโฆษณ์ แทนการใช้พื้นที่ทางปัญญาที่สวนโมกข์ การเลือกบริการที่พักด้วยการพักหอพักนักศึกษา โรงแรมของมหาวิทยาลัย รวมทั้งการพักรวม และพักแรมแบบเรียบง่ายในเต้นท์ในกลดให้เลือกได้ จนแม้กระทั่งการรับประทานอาหารก็ออกแบบให้มีบรรยากาศพิเศษอย่างสถานศึกษาและปฏิบัติเพื่อฝึกฝนและพัฒนาตน ทุกคนต้องล้างภาชนะด้วยตนเอง เป็นต้น ประเด็นและบรรยากาศเหล่านี้หากไม่ชี้แจงให้เห็นชัดจนเกิดเป็นอารมณ์ร่วม อาจเกิดกระแสลบทำลองติต่อว่าหรือไม่ร่วมจนแทนที่จะเป็นบวก สร้างเสริมสุขภาวะทางสติปัญญาและสังคม จะกลายเป็นทุกข์ก็ได้
- นอกจากนี้ เท่าที่ทราบ กำหนดการทั้ง ๒ วัน ได้ออกแบบให้ผู้เข้าร่วมได้มีโอกาสทดลองเรียนรู้วิถีศึกษาพัฒนาตนของ ๒ ศาสนิก กล่าวคือ ช่วงเช้า จัดให้มีการสวดมนต์ทำวัตรและทำสมาธิตามแบบพุทธ และ การละหมาดตามแบบมุสลิม ก็ควรที่จะประชาสัมพันธ์ให้เห็นเป็นโอกาสเข้าร่วมเรียนรู้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นกิจกรรมเหยาะแหยะของคนที่ถูกมองว่าเคร่งไม่เข้าเรื่อง ทำให้เสียโอกาสที่จะได้ลองสวดมนต์ทำวัตรทำสมาธิอย่างจริงจังตั้งใจตามแบบพุทธ และ และเสียโอกาสได้ลองอาบน้ำละหมาดและละหมาดสักครั้ง ตามอย่างมุสลิม ด้วยการชี้แนะและนำของเพื่อนพุทธ และหรือเพื่อนมุสลิม ซึ่งโอกาสอย่างนี้หาได้ไม่ง่าย พุทธอาจลองดูแบบพุทธสักวัน มุสลิมสักวัน มุสลิมก็ลองแบบมุสลิมสักวัน แบบพุทธสักวัน อย่างนี้แหละจึงจะเข้าใจ เข้าถึง และลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- กิจกรรมออกกำลังกายหลังสมาธิและละหมาด น่าแยกออกจากกิจกรรมทางศาสนา เพราะเป็นกายบริหารแบบฝึกกำลังทั้งกาย ทั้งใจ และ ปัญญา อย่าลืมว่าคุณสุพล โล่ชิตกุลผู้นี้ เป็นยอดของครูไท้เก็กชั้นแนวหน้าในโลก นอกจากเป็นครูสอนที่โอเรียนเต็ลแล้ว ยังมีเทียบเชิญไปสอนทั่วทั้งโลก โดยคุณสุพลถือเป็นศิษย์ท่านอาจารย์พุทธทาสคนสำคัญเช่นกัน การได้รำมวยไท้เก็กกับคุณสุพลที่มีลีลางดงามรื่มรมย์ได้กำลังพร้อมกับการน้อมนำใจสู่สมาธิ พร้อมทั้ง ‘ปัญญา’ อย่างยิ่ง ที่ใครก็ไม่ควรพลาด
- กิจกรรมภาคเย็นของทั้ง ๒ วัน ควรเน้นให้เด่นว่าเป็นกิจกรรม ‘ธรรมบันเทิง’ ที่ควรเรียนรู้เพื่อไปคิดอ่านขยายผลกันในพื้นที่ ทั้งวันแรกของเพื่อนพุทธที่จะทำเป็นมหรสพทางปัญญาต่อยอดงานของท่านพุทธทาสที่สวนโมกข์ด้วยเพลงธรรมกับการคุยคุ้ยธรรมจากบทเพลง โดยในวันที่สองของเพื่อนมุสลิมซึ่งตรงพอดีกับวันศุกร์นั้น จะจัดให้เป็นการละหมาดใหญ่พร้อมกับการบรรยายธรรม แถมชาชัก โดยอาจจะมีกิจกรรมอื่นที่ ‘เหลือเชื่อ’ อีกหลายอย่าง
- เพียงเท่านี้ก็มากพอต่อการน่าไปร่วม และต้องปรับกำหนดการพร้อมกับการประชาสัมพันธ์ด้วย
ประเด็นเน้นหนักของงานตามชื่อ คือ สุขภาวะทางปัญญา วาระสร้างสุขของคนใต้ นั้นได้กำหนดชัดตั้งแต่ต้น และดูเหมือนว่าได้วางน้ำหนักจุดเน้นร่วมกันแล้ว แต่ยังไม่เห็นตัวเนื้องานที่เป็นสาระรายงานทั้งภาพรวม รายประเด็น และ ที่เป็นกรณีศึกษา ที่กำหนดให้ทุกกรณีต้องชี้ให้เห็นประเด็นของ ‘ปัญญา’ ของคนใต้กับการสร้างสุข ทั้งนี้ได้ชี้แนะว่าถ้าเป็นไปได้ แต่ละกรณีศึกษา แต่ละประเด็น น่าจะทำสรุปสาระสำคัญเชิงบทคัดย่อ อย่างย่อ สัก กรณีหรือประเด็นละ ๕ – ๖ บรรทัด เพื่อจะได้รับรู้และตื่นเต้น ตลอดจนสามารถนำไปสื่อสารเชิญชวนสื่อมวลชนในการขยายผลได้ด้วย
ได้รับทราบการเปิดประเด็นใหม่ของจังหวัดเจ้าภาพ สุราษฎร์ธานีที่ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดและปลัดจังหวัดให้ความสนใจอย่างมากที่จะให้โอกาสนี้ได้เป็นการประกาศพันธสัญญาร่วมกันของคนสุราษฎร์ทุกภาคส่วนในการขจัดอบายมุข บ่อนและอาชญากรรม ให้สมกับชื่อเมืองคนดี ‘สุราษฎร์ธานี’ โดยผู้ว่าจะชักนำส่วนราชการเข้าร่วม ขอให้ขับเคลื่อนภาคสังคม ชุมชนท้องถิ่นตลอดจน อสม.มาร่วมด้วย ทั้งนี้ได้แนะว่าหากจะทำให้เป็นเรื่องการสร้างเสริมสุขภาวะด้วยปัญญา ก็น่าจะเริ่มจากการหาข้อมูลเท็จจริงของปัญหาออกมาให้เห็นเป็นประจักษ์ด้วยงานวิชาการ แล้วจัดการประชุมร่วมเพื่อไขปัญหาและสาเหตุพร้อมวางมรรควิธีที่เป็นจริงได้เอามาเสนอในวันประชุมที่อาจจัดให้มีห้องเพิ่ม ประเด็นเพิ่ม ก่อนที่จะนำสู่การประกาศสัตยาบันของคนสุราษฎร์นำโดย ผวจ.ในพิธีปิด ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเกิดการระดมคนเข้าร่วมเป็นการใหญ่ในวันนั้นให้คึกคักเป็นพิเศษได้ไม่ยาก สามารถกลายเป็นต้นแบบให้หลายฝ่ายเอาไปขบคิดขยายผลกันต่อได้
สำหรับประเด็นสุขภาวะทางปัญญานอกจากการประชุมตามกำหนดการ ยังจะมีกิจกรรมการแสดงและนิทรรศการร่วมของกรณีศึกษา ประเด็นและพื้นที่ต่าง ๆ เฉพาะประเด็นด้านสุขภาวะทางปัญญา จะมีการจัดพื้นที่พิเศษ ‘สวนโมกข์ลำลอง’ ขึ้น ณ บริเวณโถงหน้าของหอประชุมใหญ่ทีปังกร ฯ ประกอบด้วย ๕ ส่วน คือ ๑. โรงหนังหรือมหรสพทางวิญญาณย่อย ๒.กองตำราธรรมทานและสื่อธรรมท่านพุทธทาส ๓.หอจดหมายเหตุพุทธทาสที่กรุงเทพ ๔.ธรรมาภาคีเพื่อผู้มีส่วนร่วมในธรรม และ ๕.งานธรรมของยุวชนสร้างสรรค์สุราษฎร์ธานี โดยคณะธรรมภาคีจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช หอจดหมายเหตุพุทธทาส คระธรรมทาน และ สวนโมกขพลาราม.
เนื่องจากมีการเปลี่ยนกำหนดการ วิทยากรหลายคนจึงไม่สะดวก ท่าน ว.วชิรเมธี ติดกิจที่เชียงราย ดินป่า จีวัน ยังไม่ยืนยัน ท่านอาจารย์หมอประเวศ น่าจะไม่สะดวกนัก ได้มีการหารือเพื่อปรับกำหนดการใหม่ ในวันปิด ซึ่งมี ผวจ.สุราษฎร์มาเป็นหลักแล้ว ที่ประชุมจะพยายามหาบุคคลสาธารณะที่เป็นสัญลักษณ์ของการสร้างสุขมาร่วมอีก ๑ ท่าน ส่วนกิจกรรม ‘ธรรมะบันเทิง’ ในคืนวันแรกด้วยแนวพุทธนั้น กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์สุราษฎร์ธานีกับธรรมภาคีหอจดหมายเหตุพุทธทาส รับจัดดนตรี ในเบื้องต้น ศิลปินอิสระ สี่ ลานโพธิ์ รับมีส่วนร่วมในเชิงดนตรีแล้ว ตั้งใจว่าจะให้เป็นธรรมะบันเทิงที่ได้ทั้งบันเทิงและได้ธรรม คาดว่าจะเป็นซีรี่ส์เพลงที่สำคัญและไพเราะจับใจมาให้ได้ร่วมร้องอย่างคอนเสิร์ตน้อย ๆ โดยมีพระจากสวนโมกข์มาช่วยไขข้อธรรมสลับฉาก
งานวิชาการอื่น ยังไม่เห็นความคืบหน้า นอกจากของประเด็น ‘ปัญญาของคนใต้’ ได้รับต้นเรื่องแล้ว ๒ เรื่อง คือ ๑) สร้างสุขแบบพุทธทาสที่สวนโมกข์ และ ๒) โนราสร้างสุขที่เมืองนครศรีธรรมราช