คนสร้างสุข

• จัดทำรายงาน ส.3
• ตรวจเช็คข้อมูลให้สมบูรณ์ เรียบร้อย

• ได้รายงานฉบับสมบูรณ์ 1 ฉบับ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ในประเด็น เกษตร /อาหาร/ ศก.พอเพียง และเด็กเยาวชน

• ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ในประเด็น เกษตร /อาหาร/ ศก.พอเพียง และเด็กเยาวชน

-

-

-

• รวบรวมข้อมูลและจัดทำหนังสือพันธุ์พืชสมุนไพรในป่าชุมชนบ้านควนยูง จำนวน 1 เล่ม เป็นเอกสารสี 71 หน้้ากระดาษ

• รวบรวมข้อมูลและจัดทำหนังสือพันธุ์พืชสมุนไพรในป่าชุมชนบ้านควนยูง จำนวน 1 เล่ม เป็นเอกสารสี 71 หน้้ากระดาษ

-

-

-

• ออกแบบ ป้ายนิทรรศการ จำนวน 7 ป้าย
  

1. ความเป็นมา แรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ป่า 1 ป้าย
2. บุคคลต้นแบบในการอนุรักษ์ป่า ( ในชุมชน) กับสิ่งที่พบเจอที่น่าอัศจรรย์  1ป้าย
3. กิจกรรมที่ ร่วมกันทำในป่าชุมชน ผลที่ได้รับแต่ละกิจกรรม 5 ป้าย

• นำแบบป้ายนิทรรศการที่ออกแบบ ไปสั่งทำที่ร้าน

• ได้ป้ายนิทรรศการ 7 แผ่น เพื่อนำไปใช้ในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธุ์กิจกรรมด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชน

• งบประมาณทีใช้ถัวเฉลี่ยมาจาก งบอื่นๆ เพื่อที่จะใช้ในการนี้โดยเฉพาะ
  
• ต้องนำนิทรรศการนี้ไปแสดงในวันที่ 28-29 ที่ มอ.หาดใหญ่ จึงมีความจำเป็นต้องทำ

-

- 

• แกนนำชุมชน กลุ่มเยาวชน ลงพื้นที่เก็บข้อมูลทรัพยากรในป่าชุมชน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลทรัพยากรในป่าชุมชน โดยนักวนศาสตร์ชุมชน จากศูนย์วนศาสตร์ชุมชนที่ 12 ลงพื้นที่ป่าชุมชนเพื่อยืนยันข้อมูลที่เยาวชนและผู้ใหญ่ในชุมชนร่วมกันค้นหา

• แกนนำและนักวนศาสตร์ชุมชน เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 8คน
• ได้ทราบพันธุ์พืชและพันธุ์สมุนไพร ราวๆ 25 เปอร์เซนต์
• ได้เยาวชนที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเป็นรูปเล่ม
• ทราบว่าในป่าชุมชนแห่งนี้มีพันธ์ไม้หายาก เช่น ต้น ไข่เน่า เยอะมาก
• แกนนำป่าชุมชน มีรายชื่อพันธุ์ไม้เดิมในมือ
• นักวนศาสตร์เข้าไปในป่าเพื่อหาพันธุ์ไม้ที่คนในชุมชนไม่ทราบเพิ่มเติม
• ช่างภาพ ( เยาวชนในชุมชน )เก็บภาพแต่ละพันธุ์พืช
• แกนนำทำแผนที่ต้นไม้นั้นๆอยู่ตรงไหน

• แกนนำและเยาวชนมาร่วมกิจกรรมน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้ได้ข้อมูลไม่เป็นไปตามเป้า

-

-

• รายงานความก้าวหน้าของงานป่าชุมชน -แจ้งให้ที่ประชุมทราบเรื่องการทำกิจกรรมในป่าชุมชน
• หาเวลาให้ตรงกันเพื่อทำกิจกรรมอีก

• ทุกคนรับทราบข้อมูล การทำงานป่าชุมชน
  
• ทุกคนทราบว่า โครงการกำลังจะปิดแล้ว
• ทุกคนร่วมกันสมทบค่าอาหาร โครงการออกเฉพาะ อาหารว่าง 2มื้อ

• ทีมงานที่เป็นแกนนำ อยากทำงานชุมชนตามธรรมชาติที่เป็นอยู่ ไม่ชอบการเร่งรีบ และไม่เห็นความสำคัญของการของบจากองค์กรภายนอก
• ทีมงานบางท่านวิเคราะห์ว่า งานหนักอยู่ที่คนคนเดียว เพราะเราเป็นชาวบ้านทำงานเอกสารไม่เป็น
  
• ไม่มีคนทำงานต่อ
• หลายคนแสดงความคิดเห็นว่า ดีที่สุดแล้วที่ โครงการจบเร็วๆ คนทำงานจะได้ไม่หนักใจมาก

ไม่มี

ไม่มี

• ประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการ
• จัดทำรายงานผลการดำเนินงานโครงการทางเว็บไซด์คนใต้สร้างสุข
• ถอดบทเรียนการทำงานโครงการโดยทีมงาน สจรส. มอ.

• เอกสารต่างๆ ยังไม่เรียบร้อย
• ทำรายงานผลการดำเนินงานเพิ่มเติม
• ได้ถูกถอดบทเรียนโดย สื่อของ สจรส. ทำให้เห็นประสบการณ์และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา

• เรื่องเอกสารไม่เรียบร้อย
• คนทำงานไม่มีเวลาทำเอกสาร

• ไม่มี ผู้ประสานงานต้องจัดการเวลาของตนเองให้ได้ก่อน

• ไม่มี

• ติดตามความก้าวหน้าโครงการ
• ตรวจสอบเอกสารการเงิน
• ถอดบทเรียนการทำงานโครงการ

• ทีมงานโครงการ และเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้พูดคุยถอดบทเรียนการทำงานกับทางทีมงานของ สจรส.
• ได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงานโครงการเพิ่มเติม แต่ยังไม่เรียบร้อย สมบูรณ์ทั้งหมด
• รายงานการเงินยังไม่สมบูรณ์ ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง

• ชุมชนไม่มีอินเตอร์เน็ตในการทำงาน
• ชุมชนไม่ทำงานมาล่วงหน้า

-

• สามารถเข้ามาใช้อินเตอร์เน็ตใน มอ.ได้ เพื่อความสะดวกในการทำงาน

• ชาวบ้านแกนนำร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัชสุราษฎร์ธานี รวมกันที่ป่าชุมชน รับฟังคำชี้แจงจาก คณะกรรมการโครงการฯ/( ประธานธนาคารต้นไม้ )คุณประสาร มณีน้อย
  
• แบ่งกลุ่ม และรับวัสดุอุปกรณ์ พร้อมพันธุ์ไม้
• ดำเนินการตามแผนงานที่ร่วมกันวางไว้
• สรุปจำนวนพันธุ์ไม้และจำนวนต้นที่ได้ลงไปในป่าชุมชน

• ได้พันธุ์ไม้เพิ่มมากกว่า 10ชนิด  ดังนี้ ต้นยมหอม ต้นหงอนไก่ ต้นหว้า ต้นเหรียง ลูกปราบ ต้นขุนไม้ ต้นเกาลัด ต้นมะขามป้อม ต้นผักเขลียง เทพทาโร ต้นยาง ต้นเปล้าน้อย ม่วงป่า และกลัวยไม้อีกหลากหลายชนิด
• ผู้เข้าร่วม 85 คน ซึ่งเกินเป้าที่วางไว้ โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีมาร่วมปลูกป่าด้วย( นักศึกษานั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเยาวชนอนุรักษ์ป่ายูงทอง ที่ไปเรียนต่อ )
• โอกาส หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนสุราษฎร์ธานี ให้ความสนใจและมีความตั้งใจที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้กับแกนนำของโครงการการจัดการป่าชุมชนมาก

• ปัญหา เวลาของชุมชนกับของหน่วยงานไม่ค่อยตรงกัน เลยทำให้ป่าชุมชนไม่สามารถเรียนรู้พันธุ์พืชและพันธุ์ไม้เชิงลึกได้ภายในเวลาที่กำหนด
• แนวทางแก้ไข  ต้องวางแผนร่วมกัน และ กำหนดกิจกรรมร่วมกันล่วงหน้า

ไม่มี

ไม่มี

• ประชุมสัญจร ที่บ่อน้ำร้อนท่าสะท้อน

• ทีมงานโครงการจำนวน 30 คน เดินทางไปจัดประชุมสัญจรที่บ่อน้ำร้อนท่าสะท้อน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชุมชนมากนัดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการประชุม
• ผู้เข้าร่วมประชุมรู้สึกผ่อนคลายในการทำงาน และสามารถเสนอแนวทางการทำงานได้

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ตอนเช้าทำความเข้าใจเรื่อง ภาวะโลกร้อน
• ตอนบ่าย เยาวชน นักศึกษา ลงพื้นที่ป่าชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่ทำได้

• เบ็นกิจกรรมแรกที่ได้มีโอกาสทำกับเยาวชนกลุ่มเสี่ยงตามความตั้งใจเดิม ทุกคนที่เป็นเป้าหมาย มารวมกันในเวทีนี้

-

-

-

• รายงานกิจกรรมที่ผ่านมาในรอบเดือน
• รายงานการเงิน และค่าใช้จ่ายต่างๆ
• แผนงานเดือนกรกฎาคม ปรับให้สอดคล้องกับบริบท

• คณะทำงานเข้าร่วมประชุมจำนวน 20คน
• ได้แผนงานที่ชัดเจน และกำหนดวันทำงานต่อ

-

-

-

• ร่วมกิจกรรมกับชุมชน วันพระ
• ประชาสัมพันธ์โครงการ การจัดการป่าชุมชนฯ แบบมีส่วนร่วม
• แจกแผ่นพับแผ่นปลิว
• เชิญชวนให้ทำกิจกรรม แบบเดียวกันที่ ป่าชุมชน ของสวนป่าไทรงาม

• ร่วมกิจกรรมกับชุมชน ในวันพระ เพื่อสร้างเครือข่ายการทำงาน
• ประชาสัมพันธ์โครงการ การจัดการป่าชุมชนฯแบบมีส่วนร่วม โดยการบอกเล่าเรื่องราวและแจกแผ่นพับแผ่นปลิว
• เชิญชวนให้ทำกิจกรรม แบบเดียวกันที่ ป่าชุมชน ของสวนป่าไทรงาม
• ชาวบ้าน เห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ชุมชนไร่ยาวก็มีป่า  อยากทำบ้าง
• ได้ประชาสัมพันธ์ งานและเชิญชวนให้ทำกิจกรรมแบบเดียวกัน

• เป็นการเปลี่ยนแปลงรูบแบบประชาสัมพันธ์ แตกต่างจากแผนงานที่เขียนไว้ในโครงการซึ่งเป็นการจัดรายการวิทยุ
• แนวทางแก้ไข ครั้งต่อไปควรจะกำหนดรูปแบบที่หลากหลาย ไม่เฉพาะเจาะจง ยืดหยุ่น

ไม่มี

• พี่เลี้ยงมีความพร้อมที่จะให้คำปรึกษาแนะนำตลอดเวลา แต่ทางชุมชน มีกิจกรรมของชุมชนต่อเนื่องติดต่อกันไม่มีวันหยุด จึงไม่มีเวลาให้พี่เลี้ยงช่วยเหลือ

• อธิบายวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม
• เดินทางสู่ป่าชุมชน ลงพื้นที่จริง เห็นของจริง เรียนรู้จากของจริง
• ปฏิบัติการจัดทำร่างแผนที่ทางเดิน พร้อมระบุต้นไม้สำคัญ
• จัดทำแผนที่ป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วม
• ฝึกอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับป่าชุมชน การเป็นไกด์นำเที่ยวป่าชุมชนบ้านควนยูง

• มีคนในชุมชนและเยาวชนข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 30 คน
• เยาวชนและแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถอธิบายเรื่องราวของป่าได้ โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา พันธุ์พืชพันธุ์ไม้ที่มีในป่าชุมชน และแผนที่ป่าชุมชน

• เนื่องจากเบ็นหน้าฝน ทำให้ไม่สะดวกที่จะทำงานในบ่าชุมชน

• ไม่มี

• ไม่มี

• ผู้รู้ในชุมชน และเยาวชน รวมตัวกันที่ หน้าบริเวณทางเข้าป่าชุมชน
• นำพันธุ์ไม้หายาก มาลงทะเบียนต้นไม้
  
• แบ่งกลุ่ม เด็กและผู้ใหญ่ เพื่อลงไปขยายพันธุ์พืชหายาก ในแปลงป่าชุมชน
• นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนและหาข้อบกพร่อง เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุง

• ผู้สูงวัยได้นำพันธุ์ไม้ที่เพาะชำไว้แล้วมาจากบ้าน (สำเร็จแล้ว) แล้วมา บอกเล่าให้เด็กฟังว่าทำยังไง
  
• เยาวชนทุกคนสามารถทำการเพาะชำกล้าไม้ได้

• เวลาของเยาวชนในชุมชน กับเวลาของผู้ใหญ่ในชุมชน แตกต่างกัน  ต้องมีการปรับเปลี่ยน เวลาของการทำงานร่วมกัน ถ้าเป็นวันจันทร์-วันศุกร์ จะทำให้ได้เป้าหมายที่เข้าร่วม เป็นเยาวชนในโรงเรียนเท่านั้น

ไม่มี

ไม่มี

• ลงทะเบียน
• ชี้แจงวัตถุประสงค์
• เล่าความเป็นมาของโครงการการจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วม
• ความสำคัณของการทำงานร่วมกันในชุมชน
• ฉายวิดีโอเกี่ยวกับ กิจกรรมที่เคยทำในป่า วิทยากรพูดเกี่ยวกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
• วางแผนการทำกิจกรรมร่วมกัน ในคราต่อไป

• ผู้เข้าร่วมจำนวน 70 คน
• ไม่ได้มาจากทุกครัวเรื่อน แต่มาจาก คนที่ทำงานอาสาอยู่ในชุมชนเดิม เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม อสม. กลุ่ม องค์กรพัฒนาสตรีฯลฯ

• บุคคลที่เข้าร่วมไม่ได้มาจาก 448 ครัวเรือน แต่มาจากกลุ่มองค์กรต่างๆ ที่มีอยู่ในชุมชน ผู้สูงอายุ เครือข่ายใกล้บ้านใกล้ใจ อสม.อพม.ทสม.กลุ่มสตรี ส่วนเยาวชนไม่สามารถเข้าร่วมได้เลย

ไม่มี

• ขออนุญาตปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย ตามความเหมาะสมของพื้นที่

• ลำดับเนื้อหาและความสำคัญในการพูด สิ่งอยากให้เป็นไปตามเป้าหมาย

• เกิดความพร้อมในการทำงานมากขึ้น คณะทำงานเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเอง
  
• มีการวางแผนกาทำงานที่เป็นระบบ ทุกคนเข้าใจแผนการทำงานเหมือนกัน

-

-

-

• ประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการ
• จัดทำรายงานการประเมินคุณค่าของโครงการ
• จัดทำแนวทางการต่อยอดโครงการในปีที่ 2

• ทราบแนวทางการดำเนินงานโครงการที่ได้จากการประเมินคุณค่าของโครงการในปีแรก
• จัดทำรายงานความก้าวหน้าโครงการให้สมบูรณ์
• ตรวจสอบความถูกต้องของการใช้จ่ายงบประมาณ

-

-

-

• บรรยายสรุปภาพรวมโครงการของภาคใต้
• จัดทำแบบประเมินคุณค่าโครงการ
• แลกเปลี่ยนเรียนรู้คุณค่าของโครงการ

• คณะทำงานได้แนวทางในการดำเนินงานโครงการในปีที่ 2
• ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้คุณค่าโครงการกับพื้นที่อื่นๆ

-

-

• นำแบบประเมินคุณค่าโครงการกลับไปร่มกันทำในชุมชน เพื่อให้คนในชุมชน คนที่เข้าร่วมโครงการ ร่วมกันประเมินคุณค่าของโครงการ ตามกระบวนการทำงานแบบมีส่วนร่วมของชุมชน

• ชี้แจงกิจกรรมของคณะทำงานที่ผ่านมาในรอบ 1 เดือน ที่ทำงานร่วมกับผู้สูงอายุ
• สรุปบทเรียนการทำงานร่วมกัน ถึงความเป็นไปได้ และความยั่งยืนของป่า
• สรุปบทเรียนของชมรมผู้สูงอายุ รพ.สต.เฉลิมพระเกียรติฯถึงความยั่งยืนของกลุ่ม
• วางแผนทำงานในช่วงเดือนพฤษภาคม 56
• จัดทำรายงานการเงิน

• แกนนำโครงการ จำนวน 27 คน ได้แผนการทำงานร่วมกัน ทราบแนวทางการดำเนินงาน และเห็นเป้าหมายในการทำงานร่วมกันในชุมชน

-

-

-

• ให้เยาวชนเป็นผู้แจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการ
• ทีมงานพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่ที่มาร่วมงาน

• แจกแผ่นพับจำนวน 150 แผ่น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ป่าควนยูงให้คนที่มาร่วมงานทราบ
• มีการพูดคุยบอกเล่าสิ่งที่ำทำกับคนที่สนใจสอบถาม

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• แกนนำป่าชุมชน นายธนเทพ วาสินธุ์ และนายศุภวัฒน์ซุ่นห้วนได้ ชี้แจงสิ่งที่ได้ค้นหาพบเจอในชุมชน
• ปัญหาที่พบ
• แนวทางแก้ไข
• ร่วมกันทำโครงการที่พอทำได้ตามศักยภาพของชุมชน
• ออกแบบโครงการ

• คนในชุมชนได้รับรู้ข้อมูลและปัญหา
• ร่วมกันหาแนวทางแก้ไข
• เกิดโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

• แกนนำในชุมชนที่ทำงานทุกกลุ่มองค์กรเป็นคนกลุ่มเดียวกันทุกครั้ง ทำทุกเรื่อง
• ความหลากหลายทางความคิดยังไม่มากนัก

ไม่มี

ไม่มี

• แกนนำและเยาวชนรวมตัวกันที่เรียนรู้ป่าชุมชน
• แกนนำชี้แจงกระบวนการลงพื้นที่เรียนรู้ป่า
• แบ่งกลุ่มลงพื้นที่ในป่าตามโซน

• เยาวชนในชุมชน ในวันปกติจะเรียนหนังสือที่โรงเรียน จะมีเฉพาะนักศึกษาที่มาเรียนรู้และมาทำกิจกรรมในชุมชนมาร่วมทำกิจกรรมด้วย
• เยาวชนที่ลงมาศึกษาชุมชน มาจาก มรส.สาธารณสุข จะมุ่งเน้นหาข้อมูลด้านพืชสมุนไพร เป็นส่วนใหญ่ เพื่อจะ เอาข้อมูลไปนำเสนอในเวทีประชาคม อีก 2วันข้างหน้าเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในชุมชน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ขอโอกาสจากท่ายนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลขุนทะเล พูดถึงโครงการการจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วม
• ชี้แจงแผ่นพับที่ต้องการประชาสัมพันธ์
• คณะทำงานร่วมแจกแผ่นพับ

• ได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของโครงการอนุรักษ์ป่าควนยูงให้คนในชุมชนทราบมากขึ้น โดยได้รับโอกาสจากทางเทศบาลให้ใช้เวทีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในวันสงกรานต์ พูดคุยกับชาวบ้านเพื่อประชาสมัพันธ์โครงการ แจกแผ่นพับโครงการ
• คนในชุมชนสนใจการทำงานด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชนควนยูงเพิ่มมากขึ้น

• เอกสารน้อย คนเยอะ
  
• เอกสารตัวหนังสือเล็กคนอ่านยาก
• เอกสารเป็นขาวดำ ไม่น่าอ่าน แนวทางแก้ไข
• จะทำให้ฟร้อนใหญ่ขึ้นเหมาะแก่การอ่าน

ไม่มี

ไม่มี

• ชี้แจงทำความเข้าใจโครงการการจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วมให้ผู้สูงอายุเข้าใจ
• หาอาสาสมัครผู้สูงอายุที่มีภูมิปัญญาด้านสมุนไพรเพื่อทำงานคู่กับเยาวชนในชุมชน โดยวิธีการรับสมัครผู้ที่สนใจ
• กำหนดแผนงานกิจกรรมการทำงานร่วมกันในป่าชุมชน

• แกนนำจำนวน 27 คน เข้าร่วมประชุมร่วมกับกลุ่มผู้สูงอายุ
  
• แกนนำและผู้สูงอายุเข้าใจและพร้อมจะทำงานร่วมกัน
  
• ได้อาสาสมัครดูแลป่าชุมชนที่มาจากแกนนำผู้สูงอายุ เป็นการให้ความสำคัญ มอบบทบาทหน้าที่ และสร้างคุณค่าให้กับผู็สูงอายุในชุมชน

• เนื่องจากทีมงานที่มีอยู่เดิมต่างก็มีภาระงานที่หนักมากจน ไม่มีเวลามาร่วมประชุมกันหลายคน  ต้องหาทีมคนทำงานเพิ่ม

แก้ไขโดยการ - ขยายฐานคนอาสาทำงาน ทุกกลุ่มองค์กร โดยเฉพาะองค์กรที่ตนเองเกี่ยวข้องและทำงานร่วมกันอยู่ประจำ

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้เข้าร่วมประชุม ลงทะเบียนอยากพร้อมเพรียง
• ที่ประชุมบอกเล่าถึงงานที่เยาวชนทำในชุมชน รอบ สามเดือนที่ผ่านมา
• บอกเล่าถึงงานประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาในระยะ สามเดือน ทำเรื่องอะไรบ้าง ผลของงานที่ทำ  ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อชุมชน
• มีการวางแผนงานประชาสัมพันธ์งานของตนเอง (แต่ละประเด็น) ในสามเดือนต่อไป

• มีคณะทำงาน กลุ่มเยาวชน  จำนวน 50 คน
• ที่ประชุมได้แผนปฏิบัติการของเยาวชน เห็นถึงผลการดำเนินงานโครงการที่ดำเนินงานผ่านกลุ่มเยาวชน และร่วมกันวางแผนการทำงานในส่วนที่เหลือที่ยังต้องดำเนินงานต่อไป

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ประชุมคณะทำงาน
• ชี้แจงเรื่องการเงิน การส่งรายงาน และ การทำกิจกรรมครั้งต่อไป
• ชี้แจงกิจกรรมที่ยังคงค้างอยู่ และช่วยทำปฏิทินในการปฏิบัติงาน
• ร่วมกันใส่ข้อมูลสำคัญในแผ่นพับ

• ได้แผ่นพับ 2 แบบ แต่ก็ เป็นการออกมาจากความคิดของคนสอง สามคน

• แกนนำส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นมากนักเรื่องของเอกสาร จะปล่อยหน้าที่ให้กับลุกหลาน จึงออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ไม่มี

ไม่มี

• เผยแพร่ข่าวสารการดำเนินงานด้วยการออกบูท จัดนิทรรศการ

• คนในชุมชนและคนทั่วไปที่ได้เห็นนิทรรศการและการเผยแพร่ผลงานของชุมชนได้ทราบถึงผลการทำงานในการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูงอย่างมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และเห็นความสำคัญของการร่วมกันอนุรักษืป่าชุมชน

-

-

-

• ทำความรู้จักกับแกนนำ อนุรักษ์บ่าชุมชน ลุงอนุชา ลุงจำรัส ลุงประสาร
  
• ทำความรู้จักกับแผนที่เดินเท้าในบ่าชุมชน
• แบ่งกลุ่มเดินบ่า โดยมี แกนนำ นำทาง เบ็นโซนๆ
• คุณครูเดินตามเบ็นพี่เลี้ยง
• สรุบสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบ่าชุมชน
• เดินทางกลับโรงเรียนโดยสวัสดิภาพ

• เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 70  คน เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนป่าชุมชน
• เยาวชนได้เรียนรู้ รู้จักพันธุ์พืช สมุนไพร ที่มีในป่าชุมชน
• เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างวัย ผู้ใหญ่กับเด็กที่ได้กันทำกิจกรรมร่วมกัน

• เด็กเล็กเกินไป ไม่สามารถจดจำพันธุ์พืชทั้งหมดได้ ต้องสร้างการเรียนรู้หลายๆ ครั้ง

• ไม่มี

ไม่มี

• ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการเงิน
• จัดทำรายงานโครงการผ่านเว็บไซด์

• ตรวจสอบเอกสารการเงินโครงการแล้ว พบว่า บางกิจกรรมยังขาดเอกสารทางการเงิน จึงแนะนำให้กลับไปทำให้สมบูรณ์
• ให้ชุมชนจัดทำรายงานความก้าวหน้าโครงการทางเว็บไซด์ให้เรียบร้อยพร้อมส่ง แต่เนื่องจากชุมชนไม่มีความพร้อมเรื่องข้อมูล และมีอาการป่วย จึงทำให้ไม่สามารถลงรายงานจนเสร็ยสมบูรณ์ได้ ต้องกลับไปลงรายงานเพิ่มเองในชุมชน ตามคำแนะนำที่ให้ไปแล้ว

• ชุมชนมีปัญหาเรื่องอินเตอร์ ทำให้การรายงานผลการดำเนินงานโครงการล่าช้า แนะนำให้มาใช้อินเตอร์ของทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี

-

-

• นำเอกสารการเงินมาให้พี่เลี้ยงตรวจสอบ และให้คำแนะนำ
• จัดทำรายงานความก้าวหน้าโครงการทางเว็บไซด์

• นำเอกสารการเงินมาให้พี่เลี้ยงตรวจสอบ และให้คำแนะนำ ทำให้ได้เอกสารการเงินที่ถูกต้อง สมบูรณ์ เพื่อนำไปใช้ในการจัดทำรายงานการเงินโครงการ
• รายงานความก้าวหน้าโครงการมีความสมบูรณืมากขึ้น

• ที่ชุมชนไม่มีอินเตอร์เน็ต การทำรายงานทางเว็บไซด์แต่ละครั้งทำได้ยาก

ไม่มี

ไม่มี

• ทบทวนผลการประชุมจัดทำยุทธศาสตร์การจัดการป่าชุมชน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 ให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบ
• เชื่อมโยงปัญหา่ที่เกิดขึ้นในการจัดการป่าชุมชน
  
• ร่วมกันคิด ระดมสมอง สิ่งที่ชุมชนอยากเห็นในป่าชุมชน และแนวทางในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการป่าชุมชนบ้านควนยูง

• ยังไม่สามารถจัดทำร่างได้ ต้องอาศัยการประชุมเตรียมความพร้อมหลายๆ ครั้ง เพื่อให้กฏ กติกา การจัดการป่าชุมชนเกิดจากการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง
• ได้นำข้อมูลจากการลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีมาใช้ประโยชน์ในการจัดการป่าชุมชน ทำแผนพัฒนาชุมชน

• ยังไม่สามารถกำหนดกฏ กติกาการจัดการป่าชุมชนได้ ต้องจัดเวทีใหม่

ไม่มี

ไม่มี

• ประชุมคณะทำงานและแกนนำชุมชน
• ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา ทำไมจึงได้มี ป่าชุมชนนี้ มีปัญหาอะไร เมื่อได้ป่า มาเป็นป่าชุมชนแล้ว มีปัญหาอะไรบ้าง สาเหตุของปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหา

• ยังไม่ได้ตามแผนที่วางเอาไว้ ต้องประชุมอีก สองสามครั้ง จึงจะสามารถจัดทำยุทธศาตร์ได้

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ลงรายงานกิจกรรมทางเว็บไซด์สมบูรณ์ ทั้งรายงานความก้าวหน้า และรายงานการเงิน
• ตรวจสอบเอกสารทางการเงิน การเขียนเอกสารการเงิน การใช้จ่ายงบประมาณ

• โครงการไม่สามารถลงรายงานกิจกรรมได้ครบทุกกิจกรรม เพราะไม่สามารถจำเนื้อหาสาระของการทำงานได้
  
• ไม่สามารถตรวจเอกสารการเงินได้ครบ เพราะเอกสารที่นำมายังไม่สมบูรณ์

• โครงการไม่ได้เตรียมข้อมูล เตรียมเนื้อหาในการทำรายงานมาล่วงหน้า ทำให้เสียเวลาในการทำงาน ต้องให้กลับไปทำข้อมูลและลงข้อมูลเพิ่มเองในชุมชน

• ควรมีการบันทึกผลการทำงานในแต่ละกิจกรรมเบื้องต้นเอาไว้ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการลงบันทึกข้อมูล และใครก็สามารถบันทึกข้อมูลแทนได้

-

• เรียนรู้เกี่ยวกับการลงข้อมูล การรายงานความก้าวหน้าโครงการ ส.1 รายงานการติดตามโครงการ ส.2 และรายงานการเงิน ง.1 ผ่านเว็ปไซด์
• เพิ่มเติมรายงานในส่วนที่ดำเนินการผ่านมาแล้ว

• บันทึกข้อมูลได้ถูกต้อง
• รายงานการเงิน รายงานความก้าวหน้า รายงานการติดตามโครงการ มีความสมบูรณ์
• ทีมงานสามารถลงรายงานได้อย่างถูกต้องมากขึ้น และมีความเข้าใจมากขึ้น

• ชุมชนเตรียมข้อมูลไม่พร้อม ทำให้ไม่สามารถลงข้อมูลได้ครบ

ไม่มี

• อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้ ทุกเดือน

• ผู้ใหญ่ในชุมชนเดินร่วมกับเยาวชนที่เป็นลูกหลานของตนเอง
• มีการแนะนำ ลักษณะของสมุนไพรแบบง่ายๆ นี่คือต้น อะไร และมีสรรพคุณอย่างไร
• สรุปจำนวนสมุนไพรที่ได้เรียนรู้

• ผู้ใหญ่ในชุมชนเดินร่วมกับเยาวชนที่เป็นลูกหลานของตนเองทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 วัย
• เยาวชนได้ความรู้จากครูภูมิปัญญาในการแนะนำลักษณะของสมุนไพรแบบง่ายๆ นี่คือต้น อะไร และมีสรรพคุณอย่างไร
• มีการสรุปจำนวนสมุนไพรที่ได้เรียนรู้จากครูภูมิปัญญา
• ผลที่เกิดขึ้นเกินความคาดหวัง ก็คือ ในวันนั้นมีอดีตอาสาสมัครหน่วยสันติภาพสหรัฐอเมริกา คุณ Joel Gerstman ขอลงเยี่ยมพื้นที่ป่าด้วย
  
• ผลปรากฏว่าหลังจากที่ ครูภูมิปัญญาด้านสมุนไพร แนะนำสมุนไพร และสรรพคุณแล้ว คุณ โจซึ่งเข้าใจภาษาไทยเป็นอย่างดี ก็อธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ด้วย ไทยด้วย ทำให้เยาวชนได้ บูรณาการเรียนรู้
• ครูภูมิปัญญาด้านสมุนไพร คุณลุง อุดม ไสยรินทร์ ท่านตลึงกับความสมบูรณ์ของป่าชุมชนและ ตื่นเต้นที่เห็น สมุนไพร จำนวนมากมายมหาศาล ในผืนป่าแห่งนี้

• เยาวชนลงพื้นที่ป่า ได้บันทึกเฉพาะ ชนิดของสมุนไพรและ สรรพคุณของสมุนไพร แต่ไม่มีภาพประกอบ ทำให้ได้ข้อมูลไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเยาวชนทุกคนไม่มี กล้องถ่ายรูป
• พี่เลี้ยงเห็นควรให้กลุ่มมีกล้องถ่ายรูปไว้เพื่อเก็บภาพเป็นหลักฐานการทำงานทุกครั้ง

ไม่มี

ไม่มี

• กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ป่าชุมชน ร่วมกับกลุ่มยุวชนสร้างสรรค์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้ารับการอบรม กระบวนการจัดรายการวิทยุ การนำเสนอข่าวสาร อย่างสร้างสรรค์ โดยมีท่าน ผอ.สวท. ท่านหัวหน้าฝ่ายรายการ และนักสื่อสารมวลชน ที่มากด้วยประสบการณ์ มาถ่ายทอดประสบการและมีการปฏิบัติการจริงที่สถานีวิทยุ
• ทดลองเป็นนักจัดรายการวิทยุ ออกอากาศจริง

• เยาวชนได้ฝึกทักษะการเป็นนักสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านรายการวิทยุ สามารถสื่อสารเรื่องราวที่อยากนำเสนอสู่สังคมได้
• เยาวชนได้ทดลองฝึกปฏิบัติเป็นนักจัดรายการวิทยุด้วยการออกอากาศจริง
• เยาวชนมาจากหลากหลายที่ เกิดเครือข่ายเยาวชนที่ทำงานเพื่อสร้างสรรค์สังคม

• เยาวชนบางคนไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้จนจบหลักสูตร เนื่องจากมีภาระงาน ทำให้ขาดโอกาสในการเรียนรู้

ไม่มี

ไม่มี

• เยาวชนแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มๆ จำนวนเท่าๆ กัน เดินตามผู้ใหญ่ที่เป็นแกนนำเดิม พร้อมจดบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่พบเห็นในป่าชุมชน

• เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมรู้จัก เห็นความสำคัญของป่าชุมชนบ้านควนยูงมากขึ้น
• เยาวชนรู้สึกสนุกสนาน มีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูง

• การแบ่งเยาวชนออกเป็นกลุ่มๆ ทำให้ไม่มีกล้องถ่ายรูปครบทุกกลุ่ม ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพพันธุ์พืชตามที่ต้องการได้

ไม่มี

ไม่มี

1. ประชาสัมพันธ์กิจกรรมการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควรยูงผ่านรายการวิทยุ สวท. สุราษฎร์ธานี
   
2. เนื้อหาที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ คือ

• แนะนำป่าชุมชนบ้านควนยูง

• แนะนำกลุ่มองค์กรที่ทำงานอนุรักษ์ป่าชุมชน

• เล่าเกี่ยวกับกิจกรรมที่ได้ทำมาในอดีต และแผนงานที่จะทำในอนาคต
• เล่ากิจกรรมที่เพิ่งเสร็จสิ้น งานบวชต้นไม้ในป่าชุมชนเนื่องในวันพ่อและวันสิ่งแวดล้อมไทย
• ฝากบทกลอนอนุรักษ์ป่าด้วยทำนองเสนาะและสรภัญญะ

• ประชาสัมพันธ์รายการผ่านวิทยุ สวท. สุราษฎร์ธานี โดยนักประชาสัมพันธ์รุ่นเยาว์ของชุมชน
• มีผู้ฟังในจังหวัดสุราษฎร์ธานีรู้จักโครงการ การจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วม อย่างน้อย 100 คน
• สร้างแรงกระเพื่อมด้านการอนุรักษ์ป่าให้กับกลุ่มเยาวชน ที่ฟังรายการ
• เยาวชนได้มีประสบการณ์ตรงในการเป็นนักประชาสัมพันธ์

-

-

-

• พิธีบวงสรวงรุกขเทวดาเพื่อบูชาและระลึกบุญคุณในการปกปักรักษาต้นไม้ในป่าชุมชน
• พิธีสงฆ์ สวดมนต์ ไหว้พระ ถวายอาหารเพล
• พิธีบวชต้นไม้ โดยการนำจีวรขอรับบริจาคจากวัด และผู้มีจิตศรัทธามาห่มให้ต้นไม้ในป่าชุมชน
• ประกาศผลการประกวดคำขวัญคำกลอนและมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดคำขวัญ คำกลอน เกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูง
• ครูภูมิปัญญานำเอาบทกลอนมาร้องเป็นเพลงบอก

• ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 559 คน โดยเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีที่มาทำกิจกรรมที่วัดสานติไมตรี นักเรียนจากโรงเรียนพัชรกิตติยาภา โรงเรียนสอนคนตาบอด โรงเรียนอนุบาลบ้านควนยูง และชาวบ้านในพื้นที่ทุกเพศทุกวัย
• เกิดเครือข่ายคนอนุรักษ์ป่าชุมชนเพิ่ม ทั้งระดับเยาวชนและระดับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเครือข่ายจาก อ.ท่าชนะ ที่เข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่ได้นัดหมาย และชื่นชอบในกิจกรรม จึงเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การอนุรักษ์ป่า
• เกิดการเชื่อมโยงของคนทุกกลุ่มองค์กรในชุมชน ทั้งภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาคราชการ ที่เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ป่าควนยูง
• ต้นไม้ในป่าชุมชนบ้านควนยูงได้รับการดูแลรักษาดีขึ้น เพราะมีการบวชเอาไว้แล้ว ไม่มีใครสามารถมาตัดได้ เนื่องจากกลัวบาป
  
• ต้นไม้ที่ผ่านพิธีบวชป่าชุมชนบ้านควรยูงร่วม 300 ต้น จะยังคงอยู่ในป่าชุมชน เป็นสมบัติของชุมชนต่อไป

• สถานที่ไม่มีห้องน้ำ
• ไม่มีกฏกติกา การทำกิจกรรมในป่าร่วมกัน
• ระบบความปลอดภัยไม่สมบูรณ์
• เนื่องจากวันที่ 4 เป็นวันจัดกิจกรรมวันพ่อและวันสิ่งแวดล้อม ทางคณะทำงานจึงทำเป็นกิจกรรมเดียวกัน
• ทางเทศบาลไม่ได้ส่งคนเข้าร่วมกิจกรรมวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจที่เทศบาล(รับสมัคร สท.) แต่ได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของการเตรียมพื้นที่ 3วันติดต่อกัน
• ทางท้องที่ ท่านกำนันไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเนื่องจากติดภารกิจ (แต่ผู้ช่วยของท่านทั้งสามคนก็เข้าร่วมกิจกรรมตลอดงาน)

แนวทางแก้ไข

• ในการทำงานครั้งต่อไป ต้องประสานงานล่วงหน้าให้มากขึ้น
• ต้องมีการประชุมกับองค์การต่างๆในชุมชนและแบ่งภาระงานกัน
• มีงบประมาณ เพิ่มขึ้นจากที่วางแผนเอาไว้ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายจริง ต้องปรึกษาพี่เลี้ยงให้มากขึ้น

ไม่มี

• พี่เลี้ยงให้คำแนะนำที่ดีมากและสม่ำเสมอ

• พิธีบวงสรวงรุกขเทวดา โดย ครูภูมิปัญญา คุณตาเจียร ปานซัง
• พิธีสงฆ์ ทำวัตรเช้า ของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีและเจ้าอาวาสวัดศานติ - ไมตรี
• พิธีสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพล
• พิธีบวชต้นไม้ในป่า โดยการนำผ้าอาบน้ำฝน ผ้าไตร ห่มให้ต้นไม้ทุกต้น
• ประกาศและมอบรางวัลการประกวดคำขวัญ คำกลอนการอนุรักษ์ป่าชุมชน

• เป้าหมายเข้าร่วมประมาณ 500 คน ได้แก่ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี จำนวน 270 คน นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมพัชรกิตติยาภา 3 จำนวน 20 คน นักเรียนจากโรงเรียนบ้านควนยูง จำนวน 40 คน นักเรียนจากศูนย์เด็กและบ้านควนยูง จำนวน 20 คน และชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 100 คน
• นักเรียนและชาวบ้านในชุมชนช่วยกันบวชต้นไม้ในป่าชุมชนประมาณ 200 ต้น ซึ่งผ้าอาบน้ำฝนได้รับการอนุเคราะห์จากวัด และผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาค
• ชาวบ้านรู้สึกเป็นกิจกรรมที่ดี แปลก น่าสนใจ เพราะเพิ่งเคยเกิดขึ้นในพื้นที่เป็นครั้งแรก บางคนเพิ่งคนเข้ามาในป่าชุมชนเป็นครั้งแรก เห็นต้นไม้ในป่าแล้วรู้สึกภูมิใจ เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของพิธี ทำให้เกิดความรัก หวงแหนต้นไม้ที่มีในป่าชุมชน
• เกิดพื้นที่ในการทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ในชุมชนสำหรับเด็กและเยาวชน และคนที่สนใจกิจกรรมด้านการอนุรักษ์
• เกิดแผนการประชาสัมพันธ์กิจกรรมรูปแบบใหม่ คือ การนำบทกลอน คำขวัญ ที่ได้จากการประกวดไปร้อยเรียงเป็นเพลงบอก กลอนมโนราห์ โดยครูภูมิปัญยาในพื้นที่ เพื่อนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของชุมชนผ่านรายการเครือข่ายวิทยุชุมชนในพื้นที่
• มีการประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อโทรทัศน์ เพื่อสรา้งการรับรู้ในกิจกรรมได้อย่างกว้างขวาง

• ผ้าอาบน้ำฝนน้อยเกินไป ไม่สามารถห่มต้นไม้ใหญ่ได้ครบทุกต้น ทีมงานจะหาผ้ามาเสริมและห่มให้ต้นไม่ใหม่ในวันหลัง ให้ครบทุกต้น

• เป็นกิจกรรมที่เห็นการมีส่วนร่วมของคนทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย  โดยเฉพาะการสามารถดึงให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมและเห็นความสำคัญ จะทำให้การทำงานในพื้นที่ง่ายขึ้น

• ทักทาย แนะนำโครงการ ที่มา และหน่วยงานสนับสนุนงบประมาณ
• ฉายวีดิทัศน์ ความเป็นมาของป่าชุมชน
• แนวทางในการทำงานร่วมกัน
• สมัครสมาชิกกลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ป่าชุมชนเพิ่ม
• เขียนคำขวัญ คำกลอนอนุรักษ์ป่าชุมชน

• เยาวชนในโรงเรียนมัธยมพัชรกิตติยาภา จำนวน 63 คน มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูง
  
• ได้อาสาสมัครในการดูแลรักษาป่าควนยูงเพิ่มขึ้น 7 คน ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้
• นักเรียนโรงเรียนมัธยมพัชรกิตติยาภาช่วยกันแต่งคำขวัญ คำกลอน เพื่อนำมาใช้ในการอนุรักษ์ป่าควนยูง
• ได้คำขวัญ คำกลอนอนุรักษ์ป่าที่สามารถนำมาสื่อสารประชาสัมพันธ์ต่อได้

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ทักทายเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม
• แนะนำโครงการการจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วม โดยบอกเล่าถึง ที่มา และหน่วยงานที่มห้การสนับสนุนงบประมาณ
• ฉาย วีดีทัศน์เกี่ยวกับสถานการณ์โลกร้อน และความสำคัญของป่ากับภาวะโลกร้อน
• บอกเล่าถึงสถานการณ์ป่าชุมชนบ้านควนยูง
• บอกเล่าถึงกิจกรรมที่กลุ่มอนุรักษ์และกลุ่มเยาวชนร่วมกันทำมาแล้วในการอนุรักษ์ป่าชุมชน
• บอกเล่าถึงแผนงานการทำกิจกรรมที่เราจะทำต่อไป (พิธีบวชต้นไม้)
• หาแนวร่วมในการทำงานด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูง
  
• ชี้แจงการประกวดคำขวัญ คำกลอนเกี่ยวกับการอุรักษ์ป่าควนยูง

• ผู้เข้าร่วมมีความเข้าใจที่มาของโครงการ
• เยาวชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมประกวดคำกลอน คำขวัญ
• โรงเรียนอยากให้เยาวชนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์และดูแลป่าชุมชนบ้านควนยูง
• โรงเรียนมีความตั้งใจที่จะใช้ป่าชุมชนบ้านควนยูงเป็นสถานที่เรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับนักเรียน
• ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 56คน
• เกิดเครือข่ายการทำงานด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูง โดยโรงเรียนสนใจให้ป่าควนยูงเป็นพื้นที่การเรียนรู้ของเยาวชน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ชี้แจงกิจกรรมบวชป่า
• ได้แบ่งภาระงานตามความถนัด
• ลงมือทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น การพัฒนาป่า การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องเสียง เต้นท์ เก้าอี้ ลานกิจกรรม

• ทีมงานเข้าใจการจัดกิจกรรมการบวชป่าที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม2555  ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 100 คน โดยมีพระอาจารย์วิสุทธิ วิสุทธิจารี เจ้าอาวาสวัดสานติไมตรี เป็นประธานการบวชป่า
• ทุกคนสามารถทำงานตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ
• มีการกำหนดวันลงพัฒนาป่าชุมชน ช่วยกันลงแรงในการทำงาน เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุดก่อนถึงวันจัดงานจริง
• ชุมชนใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมการจัดงานวันรักษ์ป่าชุมชน (บวชป่าชุมชน) หลายวัน คือ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน - วันที่ 3 ธันวาคม 2555  เนื่องจากเป็นงานใหญ่ ที่สามารถสร้างกระแสด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชนให้กับคนได้อย่างกว้างขวาง

• คณะทำงานที่เป็นผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการ ที่มาจากภาคราชการ ค่อนข้างจะมีภาระงานมาก โอกาส ที่จะได้เข้าร่วมวางแผน หรือกำหนด ปฏิทินงานนั้น ยากมาก
• ไม่มีการถ่ายภาพการทำงานเก็บไว้เป็นหลักฐาน
• มีการเตรีมงานหลายวัน ทำให้ค่าใช่จ่ายมากกว่างบประมาณที่วางไว้

ไม่มี

อยากให้พี่เลี้ยง มีเวลาพักผ่อนบ้าง

• ปรับปรุงแผ่นป้าย ป่าชุมชน และ ป้ายโครงการการจัดการป่าชุมชนบ้านควนยูงแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้คนที่ผ่านไปผ่านมาสามารถเห็นได้เด่นชัด โดยการทาสีเพิ่ม และจัดทำไวนิลประชาสัมพันธ์

• ได้แผ่นบ้ายเบ็นไม้ขนาดใหญ่ จำนวน 2 แผ่นป้าย เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่โครงการให้เป็นที่รู้จักของคนในชุมชน

• เนื่องจากเป็นการทำงาน ของเยาวชนในเวลาหลังเลิกเรียน ทำให้ ต้องใช้เวลา ทำงานห้าวัน ติดต่อกัน
• ยังไม่มีเนื้อหาในการประชาสัมพันธฺกิจกรรมอื่นๆ ของโครงการ จึงจะประชาสัมพันธ์โครงการในรูปแบบอืื่นๆ ต่อไป

ไม่มี

ไม่มี

• ทำความเข้าใจ รายละเอียดกิจกรรมทั้งโครงการ
• จัดทำแผนปฏิบัติการ ปฏิทินงาน
• แบ่งภาระงาน ในทุกกิจกรรม

• มีผู้เข้าร่วม 13คน
• มีผู้ใหญ่ทั้งหมด  ไม่มีเยาวชนเลย
• ปฏิทินงานที่ได้เป็นปฏิทินงานที่ยืดหยุ่นมาก สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุตามปัจจัย และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของชุมชน

• ภาคีภาคส่วน เช่น รพ.สต. และ เทศบาล ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ด้วยภาระงานมากเกินไป
• การทำงานแบบมีส่วนร่วมไม่ครบทุกกระบวนการ

ไม่มี

ไม่มี

• ปฐมนิเทศสร้า้งความเข้าใจผู้รับทุนโครงการร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ถึงแนวทางการดำเนินงานโครงการ
• ชี้แจงการจัดทำเอกสารการเงินที่ถูกต้องและแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณโครงการที่เหมาะสม
• สอนการทำรายงานความก้าวหน้า รายงานการเงิน ผ่านเว็บไซด์ของโครงการ

• ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานโครงการชัดเจนขึ้น
• ชุมชนสามารถจัดทำเอกสารการเงินได้อย่างถูกต้อง
  
• ชุมชนสามารถจัดทำรายงานความก้าวหน้าโครงการ รายงานการเงิน ทางเว็บไซด์ได้

• เนื่องจากมีการใช้อินเตอร์เน็ตพร้อมๆ กันหลายเครื่อง ทำให้อินเตอร์ล่ม การทำงานเลยล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผน ถึงแม้จะขยายช่องทางอินเตอร์เน็ตแล้ว แต่ก็เสียเวลาในการทำงานไปมาก การลงข้อมูลเลยไม่ทัน เลยต้องให้ชุมชนกลับไปทำงานเพิ่มที่ชุมชน

• พยายามทบทวนการทำรายงานผ่านเว็บไซด์ และลงรายงานทุกครั้งที่ทำกิจกรรม จะทำให้ลงรายงานได้อย่างคล่องแคล่วและมีความชำนาญขึ้น

-

• สร้างความเข้าใจการดำเนินงานโครงการ
• สอนการทำรายงานความก้าวหน้า รายงานการเงิน ผ่านเว็ปไซด์

• ทีมงานมีความเข้าใจในการดำเนินงานโครงการมากขึ้น
• ทีมงานสามารถทำรายงานความก้าวหน้าโครงการ รายงานการเงิน ผ่านเว็ปไซด์ได้

• อินเตอร์เน็ตล่ม ทำให้ทำรายงานได้ช้า

ไม่มี

ไม่มี

1. เวทีทำความเข้าใจเรื่องสถานการณ์สิ่งแวดล้อม สถานการณ์ป่าชุมชนบ้านควนยูง พร้อมถอดบทเรียนการทำงานที่ผ่านมา กระบวนการ PL  (participatory learning ) ช่วงเช้า 10.00 - 12.00 น.

• Motivation ด้วยวีดีโอ ภาพป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติบ้านควนยูง กว่าจะได้มาเป็นป่าชุมชนทั้งภาพและ วีดีโอ (มีภาพของทุกคนในชุมชนที่ช่วยกันอนุรักษ์ป่า) ถกคิด สถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกทำลายและ สถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้ในประเทศ สถานการณ์ป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติบ้านควนยูง(สถานการณ์ปัญหา  ระดับโลก ระดับประเทศ ระดับชุมชน)

• แนวทางการจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วม

• รับสมัครอาสาสมัครจัดการป่าชุมชน
  ช่วงบ่าย

• กระบวนการจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วมของชุมชน

• มีผู้เข้าร่วมประชุม 23คน ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้
• ได้บทเรียนการทำงานด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูงจากผู้เข้าร่วมเวที เพื่อนำบทเรียนที่ได้ไปปรับใช้ในการอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านควนยูงต่อไป
• ผู้เข้าร่วมประชุมถอดบทเรียนมีความภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าชุมชนผืนนี้
• สามารถสร้างเครือข่ายการทำงาน โดยพระอาจารย์วิสุทธิ์ วิสุทธิจารีย์ ให้ความสนใจมาก
• ได้รูปแบบจัดการป่าชุมชนบ้านควนยูงที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
• ได้อาสาสมัครเยาวชนรักษ์ป่าควนยูงเพิ่มขึ้น
• ได้แกนนำ (ผู้ใหญ่ในชุมชน) ในการอนุรักษ์ป่าควนยูงเพิ่มขึ้น

ปัญหา

• ผู้รับผิดชอบโครงการขาดความเข้าใจในการเบิกเงินจากธนาคาร จึงเดินทางไปเบิกเงินต่างสาขา ทำให้ไม่สามารถเบิกเงินมาใช้ในการจัดกิจกรรมได้ ต้องทำการยืมเงินทดรองจ่ายจาก คุณจำรัส ปานซังเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรม

แนวทางแก้ไข

• การเบิกจ่ายเงินในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป ต้องทำล่วงหน้าก่อนวันจัดกิจกรรม และต้องเบิกในวันทำการเท่านั้น

ไม่มี

ไม่มี