คนสร้างสุข

สภาผู้นำประมาณ5คน ช่วยกันรวบรวมข้อมูลและชุดความรู้

วันที่15 ตุลาคม 59ตามกำหนดจะมีกิจกรรมการประชุมร่วมกัน สสส. สจรส. ม.อ. และพี่เลี้ยงผู้ติดตาม (ครั้งที่ 4)โดยมีตัวแทนกลุ่มเข้าร่วมประชุมอย่างน้อย 2คน เพี่อปิดโครงการและตรวจเอกสารทางด้านการเงินซึ่งทางผู้รับผิดชอบโครงการได้นำเอกสารไปตรวจและได้มอบหมายให้ฝ่ายการเงิน และ จนท. คอมพิวเตอร์อยู่เพื่อรอรับการตรวจเอกสารจาก สจรส.ม.อ และเวลาประมาณ 16.00 น.ส่วนหนึ่งในพื้นที่สมาชิกที่ร่วมกันรับผิดชอบโครงการได้ร่วมกันปรึกษาหารือ ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันสรุปโครงการ เพื่อจัดทำชุดความรู้แผ่นพับ และป้ายประชาสัมพันธ์ ผลที่เกิดขึ้นและผลที่ชุมชนได้รับจากโครงการ เป็นต้นว่าการปลูกพืชที่ปลอดสารพิษซึ่งได้จัดกิจกรรมให้ความรู้และปฏิบัติจริงในเรื่องของการทำน้ำหมัก,ปุ๋ยหมัก,การผลิต และการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่แข็.แรงสมบูรณ์ การร่วมกันดูแลรักษาสิ่งเเวดล้อมในชุใชนให้น่าอยู่ โดยร่วมกันสรุปและนำเสนอให้ชุมชนได้ชื่นชม ซึ่งทุกคนร่วมกันสรุปและนำเสนอให้ชุมชนได้ชื่นชม ทุกคนร่วมกันเสนอพูดคุยอย่างตั้งใจและมีความสุขร่วมกันทำงานจนสำเร็จและเลิกกิจกรรมทุกคนได้ร่วมกันสรุปโครงการและจัดทำชุดความรู้พร้อมเสนอให้ชุมชนได้ชื่นชม

ผู้รับผิดชอบโครงการและสมาชิก5คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ะ

ะ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

พี่เลี้ยงโครงการและผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมประชุมเพื่อติดตามโครงการงวดที่ 2  และการบันทึกรายงานกิจกรรมให้ครบถ้วน ถูกต้องบนเวบ  พร้อมทั้งตรวจหลักฐานค่าใช้จ่ายโครงการ ว่าเป็นไปตาม TOR
จัดทำรายงาน ส1 ส3 ส4  ง1 งวด2 และ ง2 ฉบับสมบูรณ์ส่ง สสส.

พี่เลี้ยงโครงการและผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมประชุมเพื่อติดตามโครงการงวดที่ 2และการบันทึกรายงานกิจกรรมให้ครบถ้วน ถูกต้องบนเวบพร้อมทั้งตรวจหลักฐานค่าใช้จ่ายโครงการ ว่าเป็นไปตาม TOR
จัดทำรายงาน ส1 ส3 ส4ง1 งวด2 และ ง2 บับสมบูรณ์ส่ง สสส. พบว่า 1.โครงการมีการบันทึกรายงานกิจกรรมไม่ครบถ้วน ภาพถ่ายไม่สมบูรณ์ ให้แก้ไขและทำกิจกรรมเพิ่มเติมและรายงานบนเวบให้ครบถ้วน 2.ตรวจหลักฐานค่าใช้จ่ายโครงการ ว่าเป็นไปตาม TOR หลักฐานมีแก้ไขใบสำคัญรับเงินไม่ครบถ้วนถูกต้อง บางฉบับไม่ถูกต้อง ให้แก้ไขและดำเนินการให้ถูกต้อง ตามระเบียบ 3.จัดทำรายงาน ส1 ส3 ส4ง1 งวด2 และ ง2 ฉบับสมบูรณ์ส่ง สสส. โดยจนท.สนับสนุนวิชาการจาก สจรส. ให้ดำเนินการจัดส่ง ในวันที่27 ตค 4. รอรตรวจ เอกสารการเงินและการบันทึกรายงาน ภาพถ่าย ผ่านการตรวจสอบ และพิมพ์รายงานส่ง ในวันที่ 27 ตค

พี่เลี้ยงโครงการและผู้รับผิดชอบโครงการ

มีการดำเนินกิจกรรม และภาพถ่ายไม่ครบถ้วน ให้ดำเนินการเพิ่มเติม ตามสัญญา พบว่าผู้รับผิดชอบเข้าใจและดำเนินการให้แล้วเสร็จใน สัปดาห์ก่อน 27 ตค

ไม่มี

สามารถตรวจสอบกิจกรรมดำเนินงานของโครงการและมีส่วนร่วมในกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมโครงการและภาคีเครือข่ายจาก อบต .ท้องลำเจียก และจนท. รพ.สต.ท้องลำเจียก ลงทะเบียน

ทางกลุ่มได้เข้าร่วมทำพิธี มีนายดัด ดิษฐรักษ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ทำพิธีทางศาสนา นำทุกคนสวดมนต์ไหว้พระถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศและร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภัคดี ในที่ประชุมทุกคนมีความพร้อมเพรียงกัน บรรยากาศเงียบสงบหลายคนน้ำตาคลอเบ้า โดยมีนาย ดัด ดิษฐรักษ์ได้นำทุกคนกรวดน้ำโดยขอให้ทำสาธิ ทำด้วยใจ เพื่อร่วมกันส่งพระองค์สู่สวรรคาลัยเกิดชาติใดทุกคนจะขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป เมื่อเสร็จพิธีทุกคนน้อมก้มกราบโดยพร้อมเพรียงกันผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านและชี้แจงกิจกรรมที่ต้องทำในวันนี้ เป็นกิจกรรมการถอดบทเรียนซึ่งมีพี่เลี้ยงโครงการ นาย สุธรรมแก้วประดิษฐ์ มาร่วมกิจกรรมและดำเนินการถอดบทเรียน พี่เลี้ยงโครงการทบทวนกิจกรรมที่ทำมา1ปีว่ามีกิจกรรมที่ร่วมกันทำดังนี้ 1.ประชุมสภาผู้นำจำนวน 20 คน เพื่อจัดเวทีชี้แจงการดำเนินโครงการ(จำนวน 12 ครั้ง) และ2.การประชุมปฐมนิเทศโครงการ 3.ทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ 4.จัดเวทีชี้แจงการดำเนินโครงการครัวเรือนที่เข้าร่วม 5.ตัวแทนเยาวชนในวัยเรียนอาสาเก็บข้อมูล 6.ศึกษาดูงาน สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ 7.จัดกระบวนการเรียนรู้ครั้งที่1 การทำบัญชีครัวเรือน 8.จัดกระบวนการร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็น ระบบการผลิตและการบริโภคอาหารปลอดภัย 9.จัดกระบวนการร่วมสรุปข้อมูลที่ได้คืนสู่ชุมชน วิเคราะห์ข้อมูล 10.จัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อปรับทัศนคติผู้เข้าร่วมโครงการหลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 11.จัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งที่3 12.จัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งที่4 13.จัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สรุปผลการดำเนินโครงการ การพัฒนาแกนนำครอบครัว(จำนวน 6ครั้ง) 14.แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนากองทุนสู่สวัสดิการชุมชน 15.แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพและปฎิบัตืทำน้ำหมัก 16.จัดกิจกรรมคืนข้อมูลผลการดำเนินโครงการ 17.จัดเวทีถอดบทเรียน และสรุปชุดความรู้ พี่เลี้ยงโครงการถามผู้รับผิดชอบโครงการให้พูดคุยถึงเหตผลในการขอรับงบประมาณจากทาง สสส.และถามผู้เข้าร่วมโครงการสิ่งที่คาดหวังจากการเข้าร่วมโครงการพอสรุปได้ดังนี1.ต้องการเห็นคนในชุมชนมีความสามัคคี 2.อยากเห็นการรื้อฟื้นการปลูกผักและทำนาข้าวที่ปลอดสารพิษ 3.อยากมีแปลงผักรวมของชุมชน 4. อยากเห็นการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ พี่เลี้ยงโครงการถามได้อะไรบ้างจาการเข้าร่วมโครงการสรุปได้ดังนี้ได้รู้และตระหนักถึงการทำแผนทั้งสี่แผนแผนเวลา แผนการเงิน แผนอาชีพ แผนสุขภาพ ทุกอย่างมันสัมพันธ์และเกี่ยวเนื่องกันส่วนเรื่องการทำบัญชีครัวเรือนนั้นทางกลุ่มส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ทำอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตผลการลืมจดบันทึกและบางคนเบื่อเพราะรายรับไม่สมดุลกับรายจ่าย ส่วนเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์และน้ำหมักทุกคนร่วมกันตั้งกฏ กติกา ละ เลิกการใช้สารเคมีในภาคเกษตรไม่ว่าทำนา หรือปลูกผัก เพราะสุขภาพ ต้องมาก่อน ไม่ใช่มุ่งหาแต่เงิน เมื่อได้เงินมาต้องนำไปซื้ออยู่ ซื้อกิน ท้ายที่สุด ต้องเสียค่ายา หาหมอเกิดแนวคิดปลูกผักอินทรีย์บนแผงยกพื้นเพื่อหนีนำ้ เกิดการทำบัญชีต้นทุนเพื่อให้รู้ถึงจุดต้นทุน ขาดทุน ได้กำไร การนำภูมิปัญญาการทำน่ำหมักโดยเพิ่มประสิทธิภาพการไล่แมลงเพิ่มพืชที่มีกลิ่นร้อนและเผ็ดมาเพิ่มในน้ำหมักและมีพื้นที่สาธารณะเอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชนและการดำเนินงานแปลงไร่นาเกษตรอินทรีย์ ในกลุ่มที่ร่วมโครงการและมีการบูรณาการการจัดกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายอื่นๆ เช่น อบต. และ กศน. และพัฒนาชุมชน โดยอาศัยทุนร่วมกัน เช่น พื้นที่จัดกิจกรรม และวิทยากร และงบประมาณและการทำน้ำหมักชีวภาพ จากเศษผัก และจากหอยเชอรี่และนำมาเปรียบเทียบกัน เป็นความรู้ที่เกิดจากการทำเองและมีผู้เข้าร่วมโครงการสามารถ เลิกเหล้าและบุหรี่ได้ 1คน ส่วนเรื่องปัญหาหรือข้อเสนอแนะไปยัง สสส.อยากให้ทาง สสส.เพิ่มงบประมาณในการขอรับการจัดสรรงบประมาณให้มากกว่านี้ และตัดระบบการรายงานทางหน้าเวป บางอย่างออกไปบ้างที่มันเยิ่นเย้อ และซ็ำซ้อน ผู้ร่วมโครงการทุกคนเห็นด้วยในการขอต่อยอดโครงการ

ผู้เข้าร่วมโครงการและภาคีเครือข่ายจาก อบต .ท้องลำเจียก และจนท. รพ.สต.ท้องลำเจียก

ไม่มี

การต่อยอดสมควรจัดต่อเนื่องไม่เว้นวรรค

ถึงแม้สิ้นสุดโครงการไปแลัวแต่ขอให้ทางกลุ่มปฎิบัติและทำอย่างต่อเนื่อง

เวลา 11.00 น. แกนนำครอบครัวได้เข้าร่วมลงชื่อและประชุมกัน ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้านโดย ทางกลุ่มได้ร่วมทำพิธี มีนายดัด ดิษฐรักษ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ทำพิธีทางศาสนา นำทุกคนสวดมนต์ถวายความอาลัยแด่ในหลวงพ่อของแผ่นดินและร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภัคดี

เนื่องจากในวันที่14และวันที่15ตุลาคม 2559ตามกำหนดจะมีกิจกรรมการประชุมร่วมกัน สสส. สจรส. ม.อ. และพี่เลี้ยงผู้ติดตาม (ครั้งที่ 4) เพี่อปิดโครงการและตรวจเอกสารทางด้านการเงินซึ่งทางกลุ่่มยังดำเนินกิจกรรมไม่เสร็จอยู่ 2กิจกรรมจึงได้มอบหมายให้ฝ่ายการเงิน และ จนท. คอมพิวเตอร์ อยู่เพื่อรอรับการตรวจเอกสารส่วนพี่เลี้ยงโครงการและผู้รับผิดชอบโครงการกลับมาที่ชุมชนเพื่จัดกิจกรรมถอดบทเรียน เวลา11:00น แกนนำครอบครัวได้เข้าร่วมลงชื่อและประชุมกัน ณ ศาลาประจำหมู่บ้านทางกลุ่มได้ร่วมทำพิธี มีนายดัด ดิษฐรักษ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ทำพิธีทางศาสนา นำทุกคนสวดมนต์ถวายความอาลัยแด่ในหลวงพ่อของแผ่นดินและร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภัคดี.นางดรุณี เศียรประดับ ผู้รับผิดชอบโครงการได้เปิดการประชุมกล่าวทักทายและสวัสดีทุกคนแล้วได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่าวันนี้มี นายสุธรรม แก้วประดิษฐ์ ครูพี่เลี้ยงของโครงการเป็นผู้มาถอดบทเรียนร่วมกับทุกคน และหากมีข้อข้องใจหรือปัญหาอะไรก็ขอให้สอบถามได้ และได้เชิญให้ นายสุธรรม แก้วประดิษฐ์พบกับสมาชิกของโครงการและได้พูดคุยทำความรู้จักและได้ทำความเข้าใจถึงกิจกรรมที่ทำมาตลอดระยะเวลา1ปีที่มาของ สสส. พร้อมวัตถุประสงค์และที่มาของการถอดบทเรียน จากนั้นก็ได้นำเสนอไกิจกรรมของโครงการและได้ถามที่ประชุมว่าแต่ละกิจกรรมของโครงการทุกคนได้รับอะไรบ้างเเละได้ถามเป็นรายๆ คำตอบที่ได้คือ เกิดความสามัคคี เกิดความรู้ ทำน้ำหมัก -ปุ๋ยหมักเป็น ทำบัญชีครัวเรือนเป็นแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ครอบครัวเปลี่ยนเเปลไปในทางที่ดี สมาชิกในกลุ่มได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในสิ่งที่ได้ ลุงสมหมายซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ทำบัญชีครัวเรือนบอกว่าตัวคุณลุงเิงนั้นทำบัญชีครัวเรือนและส่วนหนึ่งทำบัญชี ต้นทุน ในการประกอบอาชีพเกษตรกร ซึ่งทำให้รู้ผลกำไร และขาดทุนส่วนนางรำเพย บอกว่าหลังจากได้ร่วมกิจกรรมกับทาง สสสในเรื่องของการปลูกผักปลอดสารพิษ แล้วนั้น ตนเองได้ทดลองทำ แปลงผักสวนครัวแบบยกพื้น เพื่อใช้แก้ปัญหาในฤดูน้ำท่วมส่วน นายธงชัยสรรเสริญคุณ ตนเองนั้นหลังจากมาร่วมกิจกรรมกับทาง สสส.ตอนนี้เลิกเหล้า ได้แล้ว และจะชักชวน เพื่อน ค่อย ลด ละ เลิก ไปตามลำดับ รู้สึกสุขภาพ ดีขึ้น กินข้าวได้เพิ่มขึ้น ทุกคนร่วมกันสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่าการทำกิจกรรมกับทาง สสส.ส่วนหนึ่งนั้น ชุมชนมีพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้น เพราะทุกคน ได้ช่วยกันทั้งกำลังแรง และกำลังทรัพย์ในการปรับปรุงบริเวณด้านข้างศาลาเอนกประสงค์ส่วนหนึ่งกันพื้นที่เพื่อเป็นที่ออกกำลังกาย และจะแบ่งส่วนหนึ่งตั้งสินค้าชุมชนวางขาย และช่วยกันตักเตือนบุตรหลานเรื่องการสูบบุหรี่ เป็นต้น นายสุธรรม แก้วประดิษฐ์ยังได้แบ่งคนในหมู่บ้านออกเป็น4กลุ่ม คือ 1. ประเภทอยู่เฉยๆ2.ประเภทดีจังน่าทำ3.ทำไม่ได้อยู่แล้ว4น่าทำ และได้ถามว่าแต่ละคนอยู่ในข้อไหน ซึ่งเป็นที่สนุกของที่ประชุมและสรุปได้ว่ามีจำนวนผู้คนในหมู่บ้านประมาณ10%ที่ไม่สนใจอยู่แต่บ้านถึงบรรยากาศที่เป็นกันเองตอนนี้ครูพี่เลี้ยงก็ได้เล่าเรื่องขบขันเกี่ยวกับคนที่นิยมชมชอบข้าวของที่เค้าแจกให้ที่ประชุมฟัง ทำให้บรรยากาศมีแต่เสียงหัวเราะแล

สมาชิกจำนวน60คน/ครัวเรือน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เมื่อวันที่ 3-4 ก.ย.59 เวลา 09.00-16.00น. ตัวเเทนทุกโครงการจังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการละ2คนได้เข้าแรัชุมร่วมกับ สจรส.ม.อ. ครั้งที่4 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จ.นครศรีฯ เพื่อฟังคำชี้แจงในการจัดทำหลักฐานการเงินและการจัดเตรียมเอกสารจากเจ้าหน้าที่ สจรส.ม.อ และครูพี่เลี้ยงที่รับผิดชอบโครงการเวลาประมาณ 12.30-13.00น. ทุกคนได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันและเลิกประชุมเวลา16.30น. ทั้ง2วัน

ทุกโครงการรับทราบและเข้าใจและพร้อมที่จะเำเนินกิจกรรมให้เสร็จทันตามเวลาที่กำหนดไว้

ผู้รับผิดชอบโครงการ จนท.การเงิน และ จนท.คอมพิวเตอร์

แต่ละโครงการยังต้องทำกิจกรรมที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จสิ้น ซึ่งมีเวลาจำกัด ด้วยทุกโครงการได้รับเงินงวดที่2ล่าช้ามาก ทำให้เป็นปัญหาแก่ผู้รับผิดชอบโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

เวลา 16.00สมาชิกของหมู่บ้านที่เป็นแกนนำครอบครัว จำนวน 60ครัวเรือน และผู้ที่สนใจในกิจกรรมต่างทยอยกันมาลงทะเบียน ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ผู้รับผิดชอบโครงการได้จัดให้มีพิธีถวายความอาลัยแด่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและร่วมกันสวดมนต์ ตั้งจิตอฐิฐาน ถึงพระองค์ท่าน วิทยากรดำเนินกิจกรรม

เมื่อวันที่13 ตุลาคม 2559 เวลาประมาณ16.00น . ทางผู้ใหญ่บ้านและผู้รับผิดชอบโครงการและผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้นัดหมายกันทำกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้สรุปผลการดำเนินโครงการ การพัฒนาแกนนำครอบครัว(ครั้งที่6)ทางกลุ่มได้เข้าร่วมทำพิธี มีนายดัด ดิษฐรักษ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ทำพิธีทางศาสนา นำทุกคนสวดมนต์ไหว้พระถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศและร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภัคดี ในที่ประชุมทุกคนมีความพร้อมเพรียงกัน บรรยากาศเงียบสงบหลายคนน้ำตาคลอเบ้า โดยมีนาย ดัด ดิษฐรักษ์ได้นำทุกคนกรวดน้ำโดยขอให้ทำสาธิ ทำด้วยใจ เพื่อร่วมกันส่งพระองค์สู่สวรรคาลัยเกิดชาติใดทุกคนจะขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป เมื่อเสร็จพิธีทุกคนน้อมก้มกราบโดยพร้อมเพรียงกัน จากนั้นผู้รับผิดชอบโครงการก็นำเข้าสู่กิจกรรมของโครงการและและได้ร่วมกันสรุปถึงผลที่เกิดขึ้นและผลที่ได้รับจากการทำกิจกรรมของโครงการ และร่วมกันทำแผ่นพับ หนังสือเล่มเล็ก จัดภาพถ่ายแสดงต่อที่ประชุม ชุมชน พร้อมป้ายประกาศ ลด ละ เลิก เพื่อทุกคนได้ร่วมกันชื่นชม และถ่ายภาพหมู่กันอย่างชื่นชม ผู้รับผิดชอบโครงการได้พูดสรุปในที่ประชุมโดยกล่าวขอขอบคุณทุกคนและและฝากทุกคนให้รับผิดชอบต่อครอบครัว หมู่บ้าน ชุมชน สิ่งแวดล้อม ให้มีความรักสามัคคี ดำเนินชีวิตโดยยึดแนวหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ยึดปรัชญาของพระบาทสมเด็ดพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระองค์มีพระประสงค์ที่จะเห็นคนไทยรักกัน ดูเเลช่วยเหลือกัน สุดท้ายขอให้ทุกคนมีความสุข มีความเจริญ และร่วมกันพัฒนาครอบครัวหมู่บ้านต่อไปคน และจะพยายามลด ละ เลิก อบายมุข เหล้า บุหรี่ เพื่อเดินตามแนวทางจะยึดถือและปฦิบัติตามคำสอนของพ่อ

สมาชิกและชาวบ้านในหมู่บ้าน จำนวน60คน และชาวบ้านหมู่บ้านใกล้เคียงที่สนใจเข้าร่วม

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบเปิดก่รประชุมชี้แจงการดำเนินกิจกรรม

วันที่12 ตุลาคม 59ตามกำหนดจะมีกิจกรรมการประชุมร่วมกัน สสส. สจรส. ม.อ. และพี่เลี้ยงผู้ติดตาม (ครั้งที่ 4)โดยมีตัวแทนกลุ่มเข้าร่วมประชุมอย่างน้อย 2คน เพี่อปิดโครงการและตรวจเอกสารทางด้านการเงินซึ่งทางผู้รับผิดชอบโครงการได้นำเอกสารไปตรวจและได้มอบหมายให้ฝ่ายการเงิน และ จนท. คอมพิวเตอร์อยู่เพื่อรอรับการตรวจเอกสารจาก สจรส.ม.อ และเวลาประมาณ 08.30 น. คณะกรรมการจำนวน20คนที่ได้เข้าร่วมประชุมณ ศาลาประจำหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันปรึกษาหารือทั้งการแก้ไขปัญหาและสรุปผลการทำกิจกรรม ด้วยเวลานี้ยังมีปัญหาเรื่องของการทำนา สาเหตุเพราะไม่มีน้ำในการทำนา จึงไม่สามารถไถหว่านข้าวได้ ต้องรอวันเวลาที่เหมาะสม ทั้งปัญหาที่ครัวเรือนไม่ค่อยมีความรับผิดชอบในเรื่องของการทำบัญชีครัวเรือนในที่ประชุมจึงขอให้ครัวเรือนได้ดำเนินการทำบัญชีครัวเรือนต่อไป แต่สิ่งที่ได้รับจากการเปลี่ยนเเปลงเรียนรู้ในที่ประชุมทุกครั้ง คือครัวเรือนหรือชุมชนให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพ การทำปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพใช้แทนปุ๋ยเคมี ปลูกพืชผักไว้รับปนะทาน ซึ่งทำให้ครัวเรือนลดรายจ่ายและมีหลายคนลด ละ เลิก ในเรื่องของเหล้าบุหรี่ซึ่งมีสุขภาพที่ดีขึ้น และลดรายจ่ายด้วยสมาชิกทุกครัวเรือนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้จากการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ สมาชิกของชุมชนจะลด ละ เลิกดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ และผู้รับผิดชอบโครงการสรุปทางด้านการเงิน เพื่อนำส่งเอกสารให้ทาง สจรส.ม.อ ตรวจในวันที่27ตุลาคม2559ที่จะถึงนี้และได้นัดแนะแกนนำจำนวน5คนมาร่วมช่วยกัน สรุปการถอดบทเรียน และจัดทำชุดความรู้ในตอนบ่ายเวลาประมาณ 16.00 น.ที่ศาลาเอนกประสงค์

คณะกรรมการจำนวน20คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

รวบรวมถ่ายภาพและปริ้นเอกสารส่ง สสส.

ช่วยกันรวบรวมเอกสารและจัดทำรูปเล่มในส่วนที่ยังไม่ครบและเช็คยอดเงินในบัญชี

ผู้รับผิดชอบโครงการและ จนท.การเงินและ จนท.คอมพิวเตอร์

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

การประชุมวิชาการระดับชาติเรื่อง นวัตกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพ

การประชุมวิชาการระดับชาติเรื่อง นวัตกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพ ประกอบด้วยการบรรยายด้วยหัวข้อที่หลากหลาย การจัดนิทรรศการ การประชุมห้องย่อยตามประเด็น มีการนำเสนอผลงานการวิจัย และการพัฒนานโยบายสาธารณะในระดับพื้นที่ ทุกคนได้รับความรู้ที่ใหม่ๆจากมุมมองของผู้ร่วมโครงการ

ภาคีพันธมิตรสุขภาพจาก ภาคีภาคประชาชน  ภาคประชาสังคม  ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสื่อสารมวลชน ภาควิชาการ จำนวน 1600คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เข้ากิจกรรมงานฅนใต้สร้างสุขในวันที่3-4 ตุลาคม 2559 ออกเดินทางจาก อ.เชียรใหญ่เวลา 09.00 น.ถึง อ.หาดใหญ่เวลา 12.00 น. เข้าร่วมพิธีเปิดเวลา 13.00 น. และลงทะเบียนเวลา 15.00 น. และเข้าที่พักเวลา20.00 น.

เข้ากิจกรรมงานฅนใต้สร้างสุขในวันที่3-4 ตุลาคม 2559 ออกเดินทางจาก อ.เชียรใหญ่เวลา 09.00 น.ถึง อ.หาดใหญ่เวลา 12.00 น. เข้าร่วมพิธีเปิดเวลา 13.00 น. และลงทะเบียนเวลา 15.00 น. และเข้าที่พักเวลา20.00 น. จากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้จากหลายชุมชนที่ทำโครงการหลากหลายและไดประสบการณ์จากผู้เสวนาที่มาแลกเปลี่ยนการทำชุมชนเข้มแข็ง

ผู้รับผิดชอบโครงการและ จนท.การเงิน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการอธิบายรายละเอียดกิจกรรมในวันนี้ แนะนำตัวแทนสมาชิกเครือข่าย

ผู้รับผิดชอบโครงการอธิบายรายละเอียดกิจกรรมในวันนี้ แนะนำตัวแทนสมาชิกเครือข่าย ตัวแทนบุคคลต้นแบบออกมาเล่าถึงประสบการในการร่วมกิจกรรมกับทางสสส.บุคลต้นแบบการทำบัญชีครัวเรือนพอจะสรุปได้ดังนี้ การทำบัญชีครัวเรือนนั้นตนได้ยินคำๆนี้มานานแล้วหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมแล้วลองทำดูจึงได้รู้ว่าตนเองนั้นมีรายรับที่ไม่มากมายนักในแต่ละเดือน ส่วนหนึ่งลูกส่งมาให้ และส่วนหนึ่งจากการขายมะพร้าว ขายผลผลิตจากไร่นาสวนผสมที่มีอยู่ และเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ส่วนรายจ่ายนั้นบางอย่างก็จำเป็นที่จะต้องซื้อต้องเสีย เช่น ค่าข้าวสาร ค่าไฟ เนื้อหมู เป็นต้น ส่วนสิ่งของบางอย่างก็ไม่ต้องซื้อเช่น น้ำดื่ม ผักสวนครัวหลายอย่างที่ปลูกไว้ที่บ้านเช่น ใบมะกรูด ใบราใหญ่ พริก ชะอม ผักเหนาะพื้นบ้าน มะเขือ ถั่วพลู โหระพา เป็นต้นและยังทราบด้วยว่าสิ่งของบางอย่างไม่มีความจำเป็นต้องซื้อซึ่งสามารถลดได้เช่น ค่าซื้อหวย ค่าบุหรี่ ค่าซี้อผ้าถุงซึ่ง อบต.แจกให้ทุกปีและส่วนหนึ่งลูกหลานซื้อมาฝาก และพบว่าการออมเงินจะมีอยู่น้อยที่ออมประจำส่วนใหญ่ออมแล้วหยุดๆไม่สมำ่เสมอจากการทำบัญชีครัวเรือนบางวันลืมบันทึก ตัวแทนบุคคลต้นแบบออกมาเล่าถึงประสบการในการร่วมกิจกรรมกับทางสสส.บุคลต้นแบบการปลูกผัก ลานบ้าน ลานผัก ปลูกผักกินเอง ส่วนใหญ่จะปลูผักไว้กินเอง ผักที่ปลูก มี พริก มะเขือ ชะอม บวบ ตำลึง ผักคะน้าถั่วฝักยาว ถั่วพลูมะขาม ปลูกในจำนวนที่ใม่มากมายนักใช้พื้นที่บริเวณใกล้บ้านปลูก ปลูกแบบปลอดสารพิษ ใช้ปุ๋ยมูลสัตย์ และใช้น้ำหมักราดรด อาศัยระยะเวลาสั้นๆก็ได้ผักมารับประทานเอง ซึ่งถึงเวลาที่ได้รับผลกินไม่ทัน ได้แจกให้กับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงส่วนใหญ่ไม่เน้นการขาย และเพื่อนบ้านจะมีสิ่งของตอบแทนซึ่งกันและกัน จากผักที่ปลูกจะกินได้สนิทปากกว่าที่ซื้อจากตลาดเพราะมีความมั่นใจ ว่าปลอดจากยาฆ่าแมลง รู้สึกได้ว่าอาการเหน็บชาปวดเมื่อยข้อเข่าทุเลาลงและพบว่าผักที่ปลูกบางชนิดไม่มีการตายงอกงามวนวียนเกิดจากเมล็ดหรือฝักที่สุกร่วงหล่นงอกขึ้นมาใหม่ได้อีก เช่น พริก มะเขือ ถั่วฝักยาวถั่วพลู ผู้รับผิดชอบโครงการมอบของที่ระลึกแก่บุคคลต้นแบบด้านการทำบัญชีครัวเรือนจำนวน10คน และมอบเกียรติบัตรบุคลต้นแบบการปลูกผักจำนวน 30คน และร่วมกันแสดงเจตจำนงค์จะพยายามปลูกทุกอย่างที่กินและกินทุกอย่างที่ปลูก และลุงสมหมายปราชญ์ชาวบ้านยังบอกว่าตนเองนั้นจะทำบัญชี ต้นทุนด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าลงทุนไปเท่าไร ขาดทุน ได้กำไร เท่าไร

ผู้เข้าร่วมโครงการและตัวแทน อบต.ท้องลำเจียก และตัวแทนเกษตรอำเภอ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เมื่อวันที่26มี.ค. 2559ทุกโครงการที่อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันประชุม ณมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่่อถอดบทเรียนหลังจากที่ได้ดำเนินหรือทำกิจกรรมมาแล้วโดยมีครูพี่เลี้ยงจากสสส.คอยให้คำแนะนำชี้แจงรายละเอียดของการถอดบทเรียน โดยแต่ละโครงการก็ได้นำเสนอผลของการจัดกิจกรรมถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ที่เป็นสิ่งดีๆทึ่เป็นการพัฒนาของแต่ละชุมชน ตลอดถึงปัญหาแล้วได้ร่วมกันรวบรวมถอดออกมาลงในกระดาษบรู๊พนำเสนอต่อที่ประชุม ซึ่งทำให้ทุกโครงการที่เข้าประชุมได้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจมากยิ่งขึ้น ตอนเที่ยงก็ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันภาคบ่ายก็เป็นการสรุปแต่ละโครงการเสนอครูพี่เลี้ยง เมื่อได้รับการตรวจว่าผ่านก็เป็นอ้นเสร็จสิ้นกิจกรรมสำหรับโครงการไหนที่ไม่ผ่านก็จะต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป เลิกประชุมเวลา16:30 น.

ทุกโครงการเข้าร่วมประชุมการถอดบทเรียน หลังจากที่ฟังการอธิบายชี้แจง ก็มีการซักถามและสนทนากัน เกิดการเรียนรู้มีความเข้าใจที่ตรงกัน ทุกคนของแต่ละโครงการก็ได้ทำการถอดบทเรียนนำเสนอต่อครูพี่เลี้ยงที่รับผิดชอบ ผลสรุปทุกโครงการสามารถถอดบทเรียนได้เป็นที่พึงพอใจของครูพี่เลี้ยงและตัวแทนจากสสสเป็นอย่างมาก ผลสรุปสำคัญของโครงการบ้านบางคู มีดังนี้ 1. เกิดสภาผู้นำบ้านบางคูเป็นรูปแบบมากขึ้น และมีการประชุมต่อเนื่องทุกเดือน 2. เกิดข้อตกลงในการทำกิจกรรมโครงการ และนำไปแจ้งให้ระดับหมู่บ้านรับทราบเพื่อการปฏิบัติไปด้วยกันในเรื่องการปลูกผักพืชเกษตรอินทรีย์ ในบ้านบางคู และการใช้พื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ 3. การจัดกิจกรรม มีความร่วมมือของหลายภาคส่วนได้แก่ อบต. นายกอบต. พัฒนาชุมชน กศน. และ เจ้าหน้าที่จากรพ.ส่งเสริมสุขภาพ หมุนเวียนมาร่วมกิจกรรม 4. สิ่งดีๆที่เกิดขึ้น คือ ความร่วมมือในการขับเคลื่อนพัฒนาโครงการ ระหว่าง ทีมกรรมการหมู่บ้าน กับ ทีมจากนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 5. กรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ มีความอุตสาหะในการเรียนรู้ พัฒนาโครงการ

ทุกโครงการของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบชี้แจงวัตถุประสงค์ของการประชุม

ผู้รับผิดชอบโครงการขอแจ้งให้ที่ประชุมทราบได้รับการแจ้งข่าวคราวจากพี่เลี้ยงโครงการ ว่าในวันที่ 3-4 กันยายน 2559 นี้ ทาง สจรส.มอ ร่วมกับพี่เลี้ยงโครงการนัดประชุมโครงการทั้งหมดใน จ.นครศรีธรรมราชเพื่อตรวจโครงการและตรวจการเงิน ซึ่งตนและจนท. การเงินและ จนท.คอมพิวเตอร์จะต้องเข้าประชุม และทำการเคลียเอกสารให้สมบูรณ์ และรายงานหน้าเวปไซด์ให้สมบูรณ์ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางเบิกจากโครงการขอแจ้งให้ที่ประชุมทราบและจะให้จนท.การเงินเก็บเอกสารต่างๆไว้เพื่อการตรวจสอบปิดประชุมเวลา 11.00 น.

สภาผู้นำจำนวน 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 59 เวลา9.30 น. -15.30 น. ณ ศาลาประจำหมู่บ้านได้มีการจัดการประชุมในเรื่องของการทำน้ำหมักปุ๋ยอินทรีย์ และยาฆ่าแมลงหรือยาปราบศัตรู

และผู้รับผิดชอบโครงการอธิบายวัตถุประสงค์ของโครงการ และพี่เลี้ยงโครงการพบปะกับผู้เข้าร่วมโครงการ

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 59 เวลา9.30 น. -15.30 น. ณ ศาลาประจำหมู่บ้านได้มีการจัดการประชุมในเรื่องของการทำน้ำหมักปุ๋ยอินทรีย์ และยาฆ่าแมลงหรือยาปราบศัตรูพืช โดยทางโครงการได้เชิญ คุณลัดลาจุลบล เกษตรอำเภอ และคณะอีกทั้ง อ.สุธรรม แก้วประดิษฐ ครูพี่เลี้ยง สสส. มาพูดคุยชี้แจงพร้อมทั้งร่วมกันทำน้ำหมักปุ๋ยอินทรีย์ และยังให้ความรู้เกี่ยวกับการทำยากำจัดแมลงและศัตรูพืชทั้งหลาย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการและชาวบ้านต่างก็ให้ความสำคัญและสนใจเป็นอย่างดี ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และซักถามพูดคุยถึงปัญหาและข้อสงสัย
การทำปุ๋ยหมัก ส่วนผสม 1.เศษหญ้าแห้ง 1,000 ก.ก. 2.มูลสัตว์ 200 ก.ก. 3.ปุ๋ยยูเรีย 2 ก.ก. 4.หัวเชื้อ พ.ด.1 1ซอง 5.น้ำ20ลิตร ชั้นตอนวิธีทำ : 1.นำเศษหญ้าแห้งมูลสัตว์มาคลุกเคล้ากองรวมกัน 2.น้ำใส่ภาชนะ 20ลิตร เทหัวเชื้อ พ.ด.1ลงไปคนให้ละลายเข้ากันกับน้ำ 3.ใช้จอบเกลี่ย ข้อ1 ให้มีขนาดกว้าง2เมตร ยาว3เมตร สูง1.5เมตร 4.นำปุ๋ยยูเรียโรยไปให้ทั่ว 5.เอาน้ำที่ผสมกับหัวเชื้อ พ.ด.1ไว้แล้วเทใส่บัวรถน้ำแล้วนำไปรถบนกองลานมูลสัตว์ให้ชุ่มและอย่างทั่วถึง 6.น้ำกระสอบปุ๋ยหรือพลาสติกมาปกคลุมให้มิด 7.ทิ้งไว้ครบ7วันก็พลิกคนให้ทั่วและครบ15วันก็คนอีกครั้งทิ้งไว้1เดือน ก็นำไปใช้ได้ตามต้องการ

ประโยชน์: นำไปใส่พืชผักหรือนาข้าวจะช่วยบำรุงดินช่วยให้ผลผลิตเจริญเติบโตได้รับผลตามต้องการเป็นการประหยุดไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมผลผลิตที่ได้ปราศจากสารเคมีเราจะได้พืชผักหรืออาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

การทำน้ำหมัก ส่วนผสม:
1.หัวปลีหน่อกล้วย 3ก.ก. 2.กากน้ำตาล1ก.ก. 3.เหล้าขาว35ดีกรี1ส้วน(ของขวดเหล้า) 4.น้ำส้มสายชู5% 1ส่วน 5.น้ำ 20ลิตร

ขั้นตอน: นำหัวปลี,หน่อกล้วยมาหั่นใส่ถังที่ใส่น้ำไว้แล้ว จากนั้นเทกากน้ำตาล,เหล้าขาว,น้ำส้มสายชู ใส่ลงไปคลุกเคล้าหรือกวนผสมกันแล้วปิดฝาถังให้มิดชิดทิ้งไว้24ชม. นำไปใช้ได้เลย หากต้องการน้ำหมักที่มีปริมาณมากก็สามารถเพิ่มส่วนผสมได้ตามสัดส่วนที่นำกสนอนี้ได้ตามต้องการ

ประโยชน์:ใช้ใส่พืชผักที่ปลูกช่วยย่อยสะลายดินมำให้พืชผักเจริญเติบโตสวยงามไม่มีแมลงสัตว์กัดกินต้นพืชเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัว ปราศจากสารพิษหรือสารเคมีซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทุกคนให้ความร่วมมือและเกิดความรู้ทั้งได้รับประสบการณ์ในการทำน้ำหมัก,ปุ๋ยอินทรีย์เปนอย่างดี และได้ถ่ายรูปร่วมกันและเมื่อครบกำหนด 7วัน และ15วันก็จะมาช่วยกันพลิกแปร หรือคนปุ๋ยที่หมักไว้แล้วให้เกิดการย่อยสลายเร็วขึ้น เมื่อปุ๋ยใช้ได้แล้วก็จะแบ่งให้ทุกคนนำเอาไปใช้กับพืชผักของตนเองที่ปลูกไว้ของแต่ละครัวเรือนสิ่งหนึ่งที่ค้นพบจาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การทำยาฆ่าแมลงจากสมุนไพรนั้น จะต้องใส่ส่วนผสมที่มีความเผ็ดและร้อนในตัวมันเอง เช่น ใส่ดีปลี พริกเขียว พริกดำจะช่วยไล่แมลงได้ดี

สมาชิกในโครงการและชาวบ้านหมู่ที่ 9 บ้านบางคู

ไม่มี

ใ่มีมี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบชี้แจงวัตถุประสงค์ของการประชุม

ผู้รับผิดชอบโครงการขอแจ้งในที่ประชุมว่าตนเองได้สำรองเงินในการจัดกิจกรรมในก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 3 กิจกรรมคือ 1.ประชุมสภาผู้นำจำนวน 20 คนประจำเดือนมี.ค จำนวน 700 บาท 2.ประชุมสภาผู้นำจำนวน 20 คนประจำเดือน เมษายนจำนวน 700 บาท 3.แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพและปฎิบัตืทำน้ำหมักจำนวน 11,200 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น12,600 บาทตามที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตนเองและผู้ใหญ่บ้านและผู้รับผิดชอบทางด้านการเงินรับรู้และต้องขอโทษที่ไม่ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบก่อนหน้านี้เพราะลืม สมาชิกเห็นด้วยเลิกการประชุม 11.00 น

สภาผู้นำจำนวน 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 59 เวลา 9:00น. - 12:00 น. คณะกรรมการจำนวน 20คน ได้เข้าร่วมประชุม ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน ในเรื่องของการผลิตและบริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษ ที่ประชุมทุกคนต่างก็แสดงความคิดเห็น และเสนอความคิดที่นำไปสู่ผลผลิตที่ปราศจากสารเคมี ทุกคนเห็นพ้องต้องกันบอกว่านอกจากทุกคนจะมีสุขภาพที่ดีกว่าเดิมแล้วยังช่วยกันในเรื่องของการประหยัดค่าใช่จ่ายแต่ละครัวเรือนด้วย ทั้งยังทำให้เกิดรายได้ ทุกคนร่วมกันสนทนาไปถึงเรื่องของการทำน้ำหมักและการทำปุ๋ยหมักจากสิ่งต่างๆที่มีในหมู่บ้านและชุมชนใกล้เคียง เช่น หัวปลี มูลหมู มูลไก่ มูลวัว เป็นต้น และทุกคนก็ได้กำหนดเอาวันที่ 29 ก.ค. 59 เป็นวันประชุมร่วมกันทำน้ำหมัก ปุ๋ยอินทรีย์และยากำจัดศัตรูพืช

ทุกคนมีความพร้อมสนับสนุนเห็นด้วยกับการเลิกใช้สารเคมี และบอกว่าต่อไปนี้ทุกคนจะร่วมกันผลิตน้ำหมัก,ปุ๋ยอินทรีย์,ยากำจัดแมลงและศัตรูพืชใช้เองเพื่อจะได้มีผลผลิตที่ปราศจากสารเคมีและได้มอบหมายแบ่งงานกันเพื่อการประชุมในการทำกิจกรรม น้ำหมัก ,ปุ๋ยอินทรีย์ จะได้มีความพร้อมและสำเร็จ. เจ้าของโครงการโดยนางดรุณี เซียรประดับมีความพึงพอใจและประทับใจที่ทุกคนได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่ทิศทางที่ดีและได้ขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง

สภาผู้นำจำนวน 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดของกิจกรรมในวันนี้.

เวลา 8.45น. สมาชิกต่างทยอยกันมาลงทะเบียน ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน ซึ่งมีจุดมุ่งเดียวกันคือ ร่วมกันวางแผน พูดคุย ปรึกษาหารือ ในการพัฒนาครอบครัว ชุมชนให้มีความสุข ผู้คนมีสุขภาพดีมีอาหารที่ปลอดสารพิษไว้รับประทานทุกครัวเรือน และมีการออมที่เป็นระบบเป็นการลดรายจ่ายของครอบครัว ทุกคนในชุมชนในหมู่บ้านมีความรักสามัคคีมากขึ้นหลังจากรับประทานอาหารกันแล้วสมาชิกหลายครัวเรือนได้นำพืชผักผลผลิตมาเสนอแบ่งปันและจำหน่ายในที่ประชุมซึ่งทำให้เกิดความภาคภูมิใจ และแล้วก้อช่วยกันจัดภาพกิจกรรมนำเสนอต่อชุมชน แผ่นพับ และป้ายประกาศลดละเลิก แต่ละคนชื่นชมกับผลงานโดยเฉพาะทุกคนที่เห็นภาพตนเองในภาพถ่ายต่างก็พูดคุยกันถึงการให้ความสำคัญกับหมู่บ้านเมื่อร่วมประชุมจัดป้ายนิทรรศการจัดทำแผ่นพับชื่นชมและมีตัวแทนกลุ่มนำเสนอ สิ่งที่ได้ไปลองทำเกี่ยวกับการทำน้ำหมักชีวภาพ นอกจากทำกับเศษผักแล้วตนเองยังไปลองหมักกับหอยเชอรี่ และอีกถัง หมักกับไข่หอยเชอรี่ปรากฏว่า หลังจากนำไปใส่ในผักและเทียบเคียงกันดูถังที่หมักกับไข่หอยเชอรี่ผักโตและสวยงามกว่า เสร็จแล้วเลิกประชุมเวลา15:30น.ทุกคนได้ปฏิบัติจริงนำผลผลิตมานำเสนอมีความภาคภูมิใจ

สมาชิกและผู้ที่เข้าร่วมโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เวลา 8.30 น. แกนนำครอบครัวจำนวน 60 ครัวเรือนได้เข้าร่วมประชุม ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน เพื่อร่วมประชุมถึงการสรุปโครงการสืบเนื่องมาจากครั้งที่ผ่านๆมา ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี และทุกคนกล้าพูดกล้าแสดงออกในที่ประชุมมากขึ้นตามลำดับ โดยต่างก็เล่าถึงผลของการได้ไปปฏิบัติจริงๆกับครอบครัวที่สำคัญจากการสังเกตุทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส และนัดแนะกับกันจะนำผลงานมาฝากที่ประชุมในครั้งต่อไป ซึ่งผลผลิตที่ได้ล้วนปลอดสารพิษ ที่ประชุมผลัดกันพูด-ตอบ ทั้งเสนอกันมากมาย บรรยากาศครึกครื้น ซึ่งทุกคนก็พูดเป็นเสี่ยงเดียวกันว่าหากทำได้จะดีมาก มีผู้เข้าโครงการได้นำเสนอให้ที่ประชุมทราบว่า จากการที่ได้เรียนรู้การทำยาปราบศัตรูพืชจากสมุนไพรนั้น ตนเองได้ทดลอง เพิ่มสมุนไพรที่เป็นของเผ็ดร้อนลงไป เช่น ดีปลี พริกดำ พริกไทย พบว่ากำจัดแมลงได้ดีมากเลย แต่ข้อพึงระวังในการใช้จะต้องผสมน้ำเปล่าไปด้วยเพื่อลดความเข้มข้น ไม่เช่นนั้นพืชจะตายนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านและผู้รับผิดชอบโครงการร่วมสรุปด้วยว่าเป็นสิ่งที่ดีมากแต่ขอฝากให้ทุกคนได้ร่วมด้วยช่วยกัน หากมีปัญหาใดก็พร้อมจะช่วยแก้ปัญหาให้ทุกครัวเรือน การร่วมสรุปบทเรียนหรือกิจกรรมที่ผ่านมาก็ดำเนินไปจนเวลา 15.30 น. ถึงเลิกประชุม

ทุกคนได้ปฏิบัติกิจกรรมจริง และร่วมเรียนรู้ทุกกิจกรรม ปัจจุบันครัวเรือนได้รับผลประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการ

สมาชิกจำนวน60 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เวลา 8.30 น. สมาชิกโครงการจำนวน60คน พร้อมด้วยผู้ที่สนใจเข้าร่วมประชุม ณ ศาลาประจำหมู่บ้านโดยผู้รับผิดชอบโครงการได้กล่าวต้อนรับทุกคนทั้งยินดีกับผู้ที่ไม่อยู่ในโครงการแต่สนใจและเข้าร่วมประชุมด้วยโดยมีนายณรงค์ แก้วจินดา ผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุมโดยทักทายและกล่าวต้อนรับทุกคน และได้พูดสรุปถึงกิจกรรมต่างๆที่ได้ร่วมมือกันทำมา ทั้งได้ขอฝากที่ประชุมให้รับผิดชอบครอบครัวและหมู่บ้านให้เกิดความร่วมมือร่วมใจสามัคคีกันตลอดไป จากนั้นนางดรุณี เศียรประดับ ผู้รับผิดชอบโครงการได้สรุปเนื้อหาที่ผู้ใหญ่พูดคุยอีกครั้งแล้วเชิญ นายสมหมาย เขียวทอง เกษตรกรตัวอย่างของชุมชนได้พบปะพูดคุยและสรุปโครงการจากผลการทำกิจกรรมทั้งได้สอบถามถึงเรื่อง อบายมุขเป็นว่าการดื่มเหล้า ยาเสพติด การสูบบุหรี่ เล่นการพนัน ที่ประชุมได้ร่วมกันเสนอแนะ และได้คำตอบจากผู้สูบบุหรี่ว่าตอนนี้ทุกคนได้ลดละและคงใช้เวลาในการเลิก ที่ประชุมทุกคนพร้อมใจกันให้กำลังใจ ผู้รับผิดชอบโครงการได้กล่าวขอขอบคุณทุกคนที่ครอบครัวของสมาชิก และผู้ที่เข้าร่วม ฉะนั้นขอให้ทุกคนจงยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตจะมีแต่ความสุขปัญหาชุมชนก็จะไม่มี เวลาประประมาณ 11.45 น. ทุกคนพักรับประทานอาหาร ประชุมต่อเวลา 13.15 น. เริ่มประชุมเปิดให้สมาชิกร่วมกันเสนอและสรุปโครงการถึงผลที่ได้รับที่ประชุมบรรยากาศดีมากทุกคนต่างก็เล่าสู่กันฟัง และเสนอให้ที่ประชุมได้ร่วมกันจัดสถานที่และสิ่งที่จำเป็นในการออกกำลังกายของหมู่บ้านทุกคนช่วยกันสละเงิน ซื้อหินและดินปรับปรุงที่ด้านข้างของ ศาลาเอนกประสงค์ จุดประสงค์เพื่อเป็นที่ลานออกกำลังกายเล็กๆของชุมชนและจัดตั้งลานขายสินค้าของชุมชน เลิกประชุม เวลา 15.30 น.

สมาชิกได้นำความรู้จากการทำกิจกรรมไปใช้ในชีวิตจริงของครอบครัวตามที่ได้ร่วมกันเสนอและพร้อมจะนำผลงานมาแสดงในที่ประชุม

สมาชิกทุกครัวเรือนในหมู่บ้าน

ไม่มี

ไม่มี

ไท่ที

ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

เวลาประมาณ 8:30น. ทุกคนได้เข้าร่วมประชุม ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน ในเรื่องของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนากองทุนสู่สวัสดิการชุมชน ซึ่งได้เชิญ นายณรงค์ แก้วจินดา เป็นผู้ให้ความรู้ในเรื่องของการจัดการและแนวทางการพัฒนาสวัสดิการของหมู่บ้านซึ่งทั้งนี้ ทางคณะกรรมการได้วางแผนไว้แล้ว โดยได้รับความเห็นชอบในการทำนาข้าวอินทรีย์เพื่อแบ่งปันในการบริโภคและขายข้าวเอาเงินเข้ากองทุนสวัสดิการของหมู่บ้าน แต่เนื่องจากเจอภาวะแล้งจึงไม่สามารถทำนาได้ ซึ่งเคยไถนาเตรียมจะหว่านข้าวแล้วครั้งหนึ่งก็หว่านข้าวไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ เพราะเกิดภัยแล้ง ทั้งไม่มีแหล่งน้ำแต่ก็ไม่ได้ยุติ แต่รอน้ำฝน สามารถทำได้วันไหนก็จะทำทันทีในที่ประชุมทุกคนต่างก็เข้าใจและเห็นใจ เพราะเวลานี้ยังไม่มีใครทำนาได้ เวลา11:30น. ร่วมรับประทานอาหาร และประชุมต่อเวลา 13:00น. เลิกปรับถมเวลา15:45 น.ทุกคนเข้าใจรู้จักการออมและการทำบัญชีครัวเรือน

60คน

มีปัญหาสายตาในการเขียนหนังสือและทำบ้างไม่ทำบ้าง

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการอธิบายวัตถุประสงค์ของโครงการ

ครั้งนี้ให้ตัวแทนประมาณ10คนมาร่วมแลกเปลี่ยนประเด็นการจัดการด้านเวลาโดยให้ทุกคนมาร่วมกันเล่าว่าใน1วันตนเองทำกิจกรรมอะไรบ้างพอสรุปได้ว่าเวลาของคนเรานั้นมีจำนวนเท่ากันคือมีเวลา24 ชั่วโมงกิจวัตรประจำวันของแต่ละคนมีไม่เหมือนกันบางคนตื่นนอนตั้งแต่ตี3_ตี4 เพื่อไปตลาด บางคนตอนนอนตี5เพื่อหุงข้าวใส่บาตร บางคนตื่นเช้าเพื่อออกเดินออกกำลังกายบางคนตื่นเช้าเพื่อไปทำงานและไปโรงเรียนจากการพูดคุยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการวางแผนเกี่ยวกับเรื่องการจัดการด้านเวลา และพบว่าบางวันมีกิจกรรมที่สอดแทรกเข้ามาอย่างสำคัญและเร่งด่วน เช่น ปั๊มนำ้ในสวนเกิดเสีย ระบบไฟฟ้าในบ้านเสีย ญาติเกิดป่วยอย่างกระทันหันและต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล สิ่งที่เกิดขึ้นจะต้องรีบทำและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และพบว่าบางคนใช้เวลาไปกับสิ่งที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน เช่น ปลูกต้นไม้ ออกกำลังกาย พาครอบครัวไไปเยี่ยมญาติ และพบว่าบางคนเจอเรื่องที่ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน เช่น อบต.เพิ่งมาแจ้งเรื่องที่จะต้องไปประชุมตอนเที่ยงนี้ และพบว่าบางคนใช้เวลาไปกับเรื่องที่ไม่สำคํญและไม่เร่งด่วนเช่น ดูทีวีจนดึกดื่น นั้่งกินเหล้าดีก เล่นไลน์ เล่นเฟส และสรุปร่วมกันว่า การจัดการชีวิตที่ดีคือการจัดการด้านเวลาเราจะทำอย่างไรกับชีวิตของเราในแต่ละปี แต่ละเดือน แต่ละวัน แต่ละชั่วโมงตอนท้ายได้มีผู้เข้าร่วมโครงการได้นำบอกเล่าในที่ประชุมว่าตนเองนั้นได้ทำแปลงปลูกผักสวนครัวที่หนีน้ำ ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ โดยการทำแปลงปลูกผักยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ1.50เมตรเพื่ที่จะหนีนำ้ในฤดูน้ำที่จะถึงนี้

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมและภาค๊เครือข่าย

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ประชุมสรุปผลการดำเนินงานโครงการในการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง

เวลา 8:30น. ผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 60คน ได้เข้าร่วมประชุม ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันสรุปผลการดำเนินโครงการในการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องของ อาชีพ สุขภาพ และเวลา ในที่ประชุมได้รับความร่วมมือจาก นายชลอ เอี่ยมสุทธิ์ จากผู้นำชุมชนบ้านน้ำบ่อ ตำบลแม่เจ้า อำเภอเชียรใหญ่มาให้ความรู้ในเรื่องของสุขภาพชุมชนโดยได้ชี้แจงถึงวิธีการดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัว และมีนายฉวาง อินทรประเสริมนักพัฒนาของ อบต.ท้องลำเจียก ได้ร่วมประชุมร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในเรื่องของการพัฒนาเป้าหมายชีวิตของครอบครัว ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมให้ความสนใจและต่างก็ได้เล่าถึฃความเปลี่ยนแปลงจองครอบครัวในทิศทางที่ดีขึ้นแล้วทุกคนก็ได้ร่วมรับประทานอาหาร และประชุมต่อเวลา 13:45น. ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมพูดคุยและขอบคุณทุกคน ที่ให้ความสำคัญกับตนเองครอบครัวและชุมชนในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จำนวน6ครั้ง ทุกคนมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันเกือบทุกครัวเรือน ปลูกพืชผักที่ปลอดสารพิษไว้รับประทานและเหลือจำหน่าย ซึ่งทำให้เกิดรายได้ลดรายจ่าย ของครอบครัว แม้นจะประสบปัญหากับความแห้งแล้งมายาวนานแต่ก็ไม่ได้ท้อถอย และวันนี้ผู้ใหญ่ยังได้มอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวให้กับทุกครัวเรือน เลิกประชุม 15:45น.

ผู้เข้าร่วมโครงการ

ยังขาดน้ำในการทำนาและปลูกพืชผัก

เห็นสมควรจัดในครั้งที่2

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดในการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมร่วมซักถาม

ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งในที่ประชุมตอนนี้รายละเอียดเอกสารการจ่ายเงิน การรายงานกิจกรรมในหน้าเวปไซด์ทางกลุ่มได้รายงานไปยัง สสส.แล้วแต่ว่า ทาง สสส.ยังไม่ได้โอนเงิน งวดที่2มาที แต่กิจกรรมการประชุมจะยังคงต้องประชุมกันททุกเดือนซึ่งทางตนเองจะประสานติดต่อไปยังพี่เลี้ยงดูว่ามีปัญหาประการใดจะแจ้งให้ที่ประชุมทราบอีกในโอกาสต่อไป

สภาผู้นำจำนวน 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดการประชุม

เวลา 9:00น. ผู้เข้าร่วมโครงการได้มาลงทะเบียนประชุมกัน ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน มนการประชุมครั้งนี้ได้มี นางซ่อนกลิ่น โสมจันทร์ แพทย์ประจำตำบลบ้านศรีรักษา อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ ในเรื่องของการจัดระเบียบ ให้กับชีวิตและครัวเรือนในแต่ละวัน เพื่อให้เกิดแนวปฏิบัติที่มีผลดีต่อชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว-สังคม ให้ดำเนินไปอย่างมีระบบระเบียบ ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมให้ความสนใจรับฟัง เป็นอย่างดี โดยมีผู้ใหญ่บ้านและนางดรุณี เศียรประดับ ได้ร่วมกันสรุปและร่วมพูดคุยกับผู้เข้าประชุมเพื่อให้ทุกครัวเรือนได้มีแผน พัฒนาตนเองและตรอบครัว เลิกประชุมเวลา15:30น.ทุกคนบอกว่าทุกวันนี้ก้อได้ทำไปตามสิ่งที่ค้องทำของครอบครัวอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ทำแผนของครอบครัวที่เป็นรูปแบบ

สมาชิกในหมู่บ้าน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดการจัดกิจกรรมและแนะนำตัววิทยากร

เวลา 8:00น. ผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 60คน ได้มาลงทะเบียน ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน เพื่อเข้าร่วมประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับสุขภาพ ตลอดทั้งร่วมกันให้แนวคิดข้อเสนอแนะ ซึ่งทุกคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ ของตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ทางโครงการได้รับการสนับสนุนจาก นายฉวาง อินทรประเสริมมาเป็นวิทยากรร่วมกันให้ความรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้บรรยากาศเป็นกันเองต่างก็พูดคุยเล่าสู่กันฟังในที่ประชุมต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะร่วมกันจัดการในเรื่อง ของการออกกำลังกายประจำหมู่บ้านโดยกำหนดเอาเวลาที่เหมาะสมคือช่วง5-6โมงเย็น โดยเอาสถานที่ข้างศาลาประจำหมู่บ้านซึ่งได้ถมที่ดินไว้แล้ว หลังจากรับประทานอาหาร ทุกคนพูดคุยกันอย่างมีความสุขและมีเป้าหมายเดียวกันทำให้การประชุมเป็นไปอย่างเรียบร้อยทุกคนมีมิตรไมตรี ต่อกันมากขึ้น เลิกปรัชชุมองลา15:30น.ทุกคนมีความสนใจและมีความต้องการที่จะจัดการในเรื่องของการออกกำลังกายภายในหมู่บ้าน

สมาชิกที่เข้าร่วม

ยังขาดปัจจัยในการจัดเตรีนมเวที-เครื่องเสียง

ไม่มี

ไม่มี

พี่เล้ยงโครงการลงพื้นที่เพื่อติดตามและประเมินในงวดที่2

พี่เลี้ยงโครงการพบปะ พูดคุย ซักถาม ปัญหาจากการทำงานที่ผ่านมาในงวดที่และตัวแทนจากบ้านที่ใหญ่พูดคุยให้กำลังใจกับทางกลุ่มพี่เลี้ยงชี้แจงรายละเอียดกิจกรรมที่จะต้องดำเนินต่อไปในงวดที่2มีดังนี้ 1.การประชุมประจำเดือนจำนวน2ครั้ง 2.แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพและปฎิบัตืทำน้ำหมัก 3.จัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เหลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งที่3 4.จัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เหลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งที่4 5.จัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สรุปผลการดำเนินโครงการ การพัฒนาแกนนำครอบครัว 6.แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนากองทุนสู่สวัสดิการชุมชน 7.จัดเวทีถอดบทเรียน และสรุปชุดความรู้ 8.สรุปการถอดบทเรียน และจัดทำชุดความรู้ 9.ถ่ายภาพกิจกรรมและจัดทำรายงาน 10.การประชุมร่วมกัน สสส. สจรส. ม.อ. และพี่เลี้ยงผู้ติดตาม (ครั้งที่ 4) 11.จัดกิจกรรมคืนข้อมูลผลการดำเนินโครงการ และผู้เข้าร่วมโครงการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพและปฎิบัตืทำน้ำหมัก

ผู้เข้าร่วมโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

เห็นสมควรทำกิจกรรรมให้สำเร็จตามแผนที่ได้วางเอาไว้

ผู้รับผิดชอบชี้แจงกิจกรรมและแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ

ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวต้อนรับและประชุมวางแผน มอบหมายงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพและปฎิบัตืทำน้ำหมัก มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านติดต่อวิทยากร

สภาผู้นำ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ตรวจรายงานและถอดบทเรียนโครงการร่วมกับพี่เลี่ยง

ตรวจรายงานและถอดบทเรียนโครงการร่วมกับพี่เลี่ยง

ตรวจรายงานและถอดบทเรียนโครงการร่วมกับพี่เลี่ยง

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้เข้าร่วมลงทะเบียน  ทีมพี่เลี้ยงร่วมประชุมวางแผนการดำเนินกิจกรรม

ทีมพี่เลี้ยงให้แต่ละกลุ่มเขียนลงในกระดาษ ในงบประมาณงวดแรกแต่ละกลุ่มได้อะใรบ้างจากการดำเนินโครงการ ปัญหาอุปสรรค นวัตกรรม คุณค่า หลังจากนั้นนำมารวบรวมและนำเสนอหน้าห้องให้กลุ่มอื่นได้ฟังและสะท้อนร่วมกัน

ผู้รับผิดชอบโครงการและ จนท.การเงิน

ไม่มี

ไม่มี

การถอดบทเรียนจะถอดก่อนเริ่มโครงการ  ขณะดำเนินโครงการ และหลังการดำเนินโครงการ

วันที่19 ก.พ. 59 คณะกรรมการ20คนได้ร่วมกันประชุมเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีครัวเรือน ณ ห้องประชุมริมน้ำของอำเภอเนื่องจากสถานที่ของหมู่บ้านมีการก่อสร้างต่อเติมไม่สะดวก และในการประชุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหัวหน้าพัฒนาชุมชนของอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กศน. ซึ่งมีการรรรงค์ให้นักเรียนเรียนรู้และทำบัญชีครัวเรือน ทุกรายผู้รับผิดชอบโครงการ จึงบูรณาการการเรียนรู้ ร่วมกับ กลุ่มนักเรียน กศน. ในวันดังกล่าว มีตัวแทนผู้ที่ทำบัญชีครัวเรือนอยู่แล้ว จำนวน 15 ราย เข้าร่วมกิจกรรมด้วย และ กรรมการสภาผู้นำ อีก 15 คน รวมเป็น 30 คนเข้าพูดคุยประชุมประเด็น แนวทาง ปัญหา อุปสรรค ในการจดบันทึกบัญชีครัวเรือน

การจัดกิจกรรม ประชุมบูรณาการ จัดขึ้น ที่ กศน. ท้องลำเจียก โดย มีการนำเสนอ แนวทาง ประดยชนื ปัญหา อุปสรรค จากการทำบัญชีครัวเรือน ของผุ้มีประสบการณ์มาร่วมประชุมด้วยที่ประชุมให้ความสำคัญกับการทำบัญชีครัวเรือน เพราะต้องการเดินตามรอยแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจที่สามารถอุ้มชูตัวเองได้ให้มีความพอเพียงกับตัวเองอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน ทำให้รักและเอื้ออาทรคนอื่นได้เป็นการอนุรักษ์และเพิ่มพูนสิ่งแวดล้อม ชุมชนจะมีความเข้มแข็ง สามารถแก้ปัญหาทางสังคม ความยากจน และปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ ผลของการจัดทำบัญชีครัวเรือนครัวเรือนอย่างน้อย 20 เรือนที่ได้จัดทำพร้อมทั้งสรุปรายได้รายจ่ายในแต่ละเดือนส่วนใหญ่พบว่า ครัวเรือนขาดแกนนำที่มีความเข้าใจ และขาดวินัย ทั้งการจ่ายเงิน และการบันทึก จดจำ ทำให้ ไม่ต่อเนื่อง จดบ้าง ไม่จดบ้าง ผลคือไม่ต่อเนื่อง และไม่ครบถ้วน ซึ่งจำนวนครัวเรือนเหล่านี้ได้ขยายผลกับครัวเรือนอื่นๆ

สภาผู้นำจำนวน20คน

ปัญหาที่เกิดคือทุกครัวเรือนไม่เคยทำบัญชีครัวเรือนมาก่อน และครั้งแรกได้ให้รูปแบบบัญชีครัวแบบของเกษตรอำเภอ ซึ่งมีตารางมากทำให้เกิดการสับสนไม่เข้าใจ จึงได้เปลี่ยนรูปแบบใหม่ที่ไม่สับสน ทุกครัวเรือนสามารถทำได้จึงเป็นที่พึงพอใจ ส่วนปัญหาอื่นๆยังไม่มี

ไม่มี.

ไม่มี

จัดประชุมร่วมกันทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อประเมินคุัณค่ากิจกรรมที่ดำเนินการในงวดที่ 1 และถอดบทเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ตรวจเอกสารทางด้านการเงิน บัญชี และตรวจสอบบันทึกกิจกรรม

ตรวจเอกสารทางด้านการเงิน เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคํญรับเงิน ใบกำกับภาษี รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละกิจกรรม แนะนำการรายงาน ง.1 และการรายงาน ส .1 ฝึกปฎิบัตฺทำ ทางกลุ่มสามารถทำได้ ซึ่งผจากการถอดบทเรียนทางกลุ่มพบว่า 1. เกิดสภาผู้นำบ้านบางคูเป็นรูปแบบมากขึ้น และมีการประชุมต่อเนื่องทุกเดือน 2. เกิดข้อตกลงในการทำกิจกรรมโครงการ และนำไปแจ้งให้ระดับหมู่บ้านรับทราบเพื่อการปฏิบัติไปด้วยกันในเรื่องการปลูกผักพืชเกษตรอินทรีย์ ในบ้านบางคู และการใช้พื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ 3. การจัดกิจกรรม มีความร่วมมือของหลายภาคส่วนได้แก่ อบต. นายกอบต. พัฒนาชุมชน กศน. และ เจ้าหน้าที่จากรพ.ส่งเสริมสุขภาพ หมุนเวียนมาร่วมกิจกรรม 4. สิ่งดีๆที่เกิดขึ้น คือ ความร่วมมือในการขับเคลื่อนพัฒนาโครงการ ระหว่าง ทีมกรรมการหมู่บ้าน กับ ทีมจากนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 5. กรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ มีความอุตสาหะในการเรียนรู้ พัฒนาโครงการ

ผู้รับผิดชอบโครงการและจนท.การเงิน

ไม่มี

ไม่มี

เอกสารการเงินให็ทางกลุ่มถ่ายสำเนาส่งไปยัง สสส. เอกสารตัวจริงเก็บไว้กับทางกลุ่ม

การประชุมเพื่อจัดทำรายงาน งวดที่ 1 ทั้งรายงานส.1 และรายงาน ง.1 งวดที่ 1 โดยดูความถูกต้อง สมบูรณ์ และความครบถ้วนของเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงินของแต่ละกิจกรรม

ต้องปรับปรุงการเขียนรายผลลัพธ์ของแต่ละกิจกรรมให้มีรายละเอียดมากขึ้น เห็นถึงผลการดำเนินงานของแต่ละกิจกรรมที่ทำ เอกสารการเงินต้องปรับแก้บางรายการที่ขาดความสมบูรณ์ เนื่องจากคณะทำงาน เจ้าหน้าที่การเงินและผู้รับผิดชอบโครงการยังมีประสบการณ์ในการจัดการเอกสารการเงินน้อย ต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้น และคาดว่าในงวดถัดไปจะสามารถจัดการได้ดีขึ้น โดยทั้งผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้าที่การเงินอยู่ร่วมการประชุมจนครบจำนวน 2 วัน คือ วันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2558

ผู้รับผิดชอบโครงการและ จนท.การเงิน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

พี่เลี้ยงแจ้งวัตถุประสงค์ของกิจกรรม พูดคุยซักถามอุปสรรค ปัญหา และเล่าเรื่องหรือกิจกรรมที่เด่นในช่วงของการทำโครงการ ร่วมกันนำเสนอโดยภาพรวม

บ้านบางคูผู้รับผิดชอบโครงการท่านเป็นเลขานายก อบต. ท้องลำเจียกและทีมผู้ร่วมทำกิจกรรมส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการครูปลดเกษียน  การรวมกลุ่มที่นี่จึงรวมกลุ่มได้ดีส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยเอื้อคือความเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและความเป็นลูกศิษย์ลูกหากันและผู้เข้าร่วมโครงการพร้อมให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมทุกครั้ง

ไม่มี

ไม่มี

การรายงานหน้าเวปเห็นสมควรดำเนินการให้แล้วเสณ็จหลังจาการดำเนินกิจกรรมทุกครั้ง

จัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อปรับทัศนคติผู้เข้าร่วมโครงการหลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งที่2  โดยศึกษาเส้นทางข้าว ผัก บ้านเรา โดยใช้วิธี การนำประเด็นมาศึกาาและร่วมอภิปราย ออกมาเป็นข้อสรุป เวลา 9:30 น. ได้จัดประชุมเข้าร่วมโครงการ จำนวน 60 ครัวเรือน ณ ศาลาประชุมหมู่บ้าน ทุกคนได้ให้ความร่วมมือ เข้าร่วมประชุมเป็นอย่างดีโยมีนายณรงค์แก้วจินดา เป็นผู้ชี้แจงพูดคุยให้ผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นลูกบ้านทุกคนได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ไปในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชผัก - การทำนา การใช้จ่ายรวมทั้งรวมทั้งปัญหาหนี้สิน ให้ลดความฟุ่มเฟือยให้ความรักความอบอุ่นแก่ครอบครัว และให้บันทึกบัญชีครัวเรือน เพื่อความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีของครอบครัวและชุมชน ในวันนี้และอนาคต

- ศึกษากรณีตัวอย่าง เช่น 1 ไร่ 1 แสน และ กรณีชาวนาเงินล้านและให้กลุ่มร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็น ประเด็น การลงทุน กำไร ขาดทุน -เกษตรผสมผสาน - เกษตรทษฏีใหม่ โดยมีผู้ใหญ่บ้าน พูดคุยเส้นทางของข้าวก่อนจะเป็นเม็ดข้าว เส้นทางของผักมาพักจำหน่ายที่ตลาดหัวอิฐ และเกษตรอำเภอ ผู้ดำเนินการชวนคิดชวนคุยในประเด็นทำไมต้องปลูกข้าวปลอดสารพิษ และปลูกผักเกษตรอินทรีย์ คืนชีวีอยู่ดีมีสุข เป้าหมายของเกษตรกร -แนวโน้มความต้องการของตลาด - การดูแลรักษาข้าวและผักที่ปลูก
จากกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมมีความเข้าใจ มีส่วนร่วม และพร้อมที่จะทำให้ครอบครัวและชุมชนมีความสุขมีความเจริญต่อไป โดยการทบทวนเป้าหมายหมู่บ้านดังนี้ 1. ผูัร่วมโครงการทำนาปลูกข้าวจำนวนคนละ 1 แปลงเพื่อนำร่องและเป็นแบบอย่างจำนวน 20 ครัวเรือน 2. ผูัร่วมโครงการปลูกผักปลอดสารพิษ จำนวนคนละ1 แปลงจำนวน 60 ครัวเรือและเป็นแบบอย่างจำนวน 20 ครัวเรือน 3. ผูัเข้้าร่วมโครงการสามาถนำความรู้ที่ได้นำไปทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ สารกำจัดศัครูพืช จำนวน 80 ครัวเรือน

ตัวแทนครัวเรืน 60 ครัวเรือน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ด้วยวันที่30ธ.ค. เป็นวันสิ้นปี คณะกรรมการผู้เข้าร่วมโครงการตลอดถึงชาวบ้านหมู่ที่9มีความเห็นตรงกันว่านอกเหนือจากประชุมแล้ว สมควรจะจัดเลี้ยงสังสรรค์เนื่องในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จึงได้ร่วมกำหนดขั้นตอนดังนี้เวลา8:30น.ทุกคนพร้อมกันที่ศาลาประจำหมู่บ้านเพื่อช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เวลา10:30น. พิธีทางศาสนาซึ่งได้นิมนต์พระสงฆ์4รูปมีการถวายภัตตาอาหารและเครื่องสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์เวลาประมาณ12:15น.ทุกคนร่วมรับประทานอาหารเวลา13:20น. ร่วมกันประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงการปลูกพืชผักกินเอง การทำปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชใช้เอง ทุกคนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการเข้าร่วมโครงการทั้งที่ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาฝนตกชุกมากผักพืชที่ปลูกเสียหายเกือบทั้งหมดแต่ก็ไม่ท้อถอยหลังฝนทุกคนก้อเตรียมการปลูกกันใหม่เพราะนอกจากประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วยทั้งนี้ได้รับเกียรติจากนางซ่อนกลิ่น โสมจันทร์ หัวหน้าสถานีอนามัยบ้านศรีรักษา มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เวลา15:45น.ร่วมกันจับฉลากของขวัญปีใหม่ กิจกรรมเสร็จสิ้นเวลา17:30น.

จัดกิจกรรมโดยมีผู้ใหญ่บ้าน นายณรงค์ เป็นผู้ดำเนินการชวนคิดชวนคุยวิเคราะห์ข้อมูล และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้ที่เป็นต้นแบบในการเปลี่ยนวิถีเกษตรของครอบครัวเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยชวนคุยในประเด็น 3 ประเด็นคือ

1) สาเหตูของปัญหาและผลกระทบที่เกี่ยวเนื่องกันและวิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อนำไปสู่ปัญญาในการแก้ไขปัญหา
2) สิ่งที่สามารถนำมาใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชทีมีในชุมชน
3) วิเคราะห์หนี้สินเพื่อเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาชุมชนและได้เชิญรองนายกอบต.และ ที่ปรึกษามาร่วมพูดคุยในประเด็น การเขียนแผนขอรับการสนับสนุนจาก อบต. และ สนับสนุนทุนโดยร่วมกัน โดยดึงภาคี จาก อบต. บ้านท้องลำเจียก ซึ่งมีปราชญ์ชุมชน ครูอาจารย์ภาค กศน.เข้าร่วม ทุน ทั้งในส่วนงบประมาณสนับสนุนพันธ์ข้าวพันธ์พืช บางส่วน และการรับบริจาคกองทุนเม็ดข้าวกำหนด

สรุปผลจากการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิเคราะห์ชุมชน พบว่า

1. ผู้เข้าร่วมประชุมทุกครัวเรือนมีความสนใจ
   
2. มีต้นแบบครัวเรือนที่เปลี่ยนมาใช้เกษตรอินทรีย์บอกถึงความปลี่ยนเเปลงที่เกิดขึ้น เช่น อาการปวดเข่า ปวดข้อ ดีขึ้นอาการวิงเวียนก็ลดลงบ้างก็น้ำหนักลดลง มีความคล่องตัวกว่าเดิม
   
3. ผู้เข้าร่วมประชุมจะกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็นและพอใจกับการเข้าร่วมโครงการ
4. ทีมแกนนำในหมู่บ้าน มีความสัมพันธ์กันมากขึ้น จากการร่วมกันทำกับข้าวถวายพระทำบุญร่วมกัน ทำให้การพุดคุยเป็นกันเอง จิงใจ

ตัวแทนครัวเรือนจำนวน 60 ครัวเรือน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

สภาผู้นำจำนวน20คนได้ประชุมพูดคุยกันโดยนำเอาปัญหาและการให้ความร่วมมือของครัวเรือนในกิจกรรมต่างๆที่ผ่านมาจากการสนทนากันครัวเรือนเห็นความสำคัญของโครงการและมีความมุ่งหวังที่จะร่วมกันทำนาข้าวอินทรีย์ สังเกตสีหน้าท่าทางคำพูดของคณะกรรมการแล้วมีความพึงพอใจสูงทุกคน ด้วยปัจจุบันผู้คนในชุมชนหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพมากตลอดถึงการร่วมมือร่วมแรงกันรักษาดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 ย้ายมาตั้งในพื้นที่หมู่ที่ 9 ถือว่าเป็นหน้าตาของหมู่บ้าน สภาผู้นำจึงขอความร่วมมือให้ทุกคนได้ช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทิศทางที่ดีให้มากขึ้น

คณะกรรมการและกลุ่มเป้าหมายมาประชุมร่วมกัน20 คน มีความพึงพอใจและให้การสนับสนุนร่วมมือกันเป็นอย่างดี เกิดข้อตกลงจากการเดินทางไปศึกษาดูงาน เพื่อนำไปขยายผลเกษตรอินทรีย์ ในบ้านบางคูดังนี้

1. คนในชุมชนมีความสามัคคีร่วมมือร่วมใจในการทำเกษตรอินทรีย์
2. คนในชุมชนมีความรู้และความเข้าใจในการปลูกพืชผักแบบเกษตรอินทรีย์มากขึ้น และผลแตกต่างต่อสุขภาพ ทั้งด้านคุณค่าและความปลอดภัย ต่อผู้ใช้ และต่อผืนดินที่ทำเกษตร
   
3. ทุกครัวเรือนตั้งเป้าหมายให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการทำบัญชีครัวเรือน และ การปลูกผักกินเอง ทำผลิตภัณฑ์ใช้เอง โดยต้นแบบจากที่ศึกษาดูงานนำมาใช้
4. เกิดการออมในครัวเรือน

คณะกรรมการสภาผู้นำจำนวน20คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

วันที่12ธันวาคม2558 เวลา9:00 - 15:30น. ได้จัดกิจกรรมการประชุมณศาลาประจำหมู่บ้านมีครัวเรือนเข้าร่วมประชุม จำนวน 52ครัวเรือน กิจกรรมครั้งนี้ได้เชิญนางสาวจันทิราไทยสยาม เจ้าหน้าที่ของอบต.ท้องลำเจียก เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการเก็บรักษาการผลิตอาหารซึ่งมีอยู่ในท้องถิ่นทั้งนี้ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบ้านศรีรักษา ร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์และมีความปลอดภัยต่อชีวิตผู้เข้าร่วมประชุมให้ความสนใจและมีการพูดคุยเเลกเปลี่ยนเรียนรู้เวลา11:45 น. ได้ร่วมรับประทานอาหารและเลิกประชุมเวลา15:35 น.ด้วยช่วงนี้ฝนตกชุกเกือบทุกวันทำให้พืชผักของเกษตรกรในหมู่บ้านเสียหายมากเพราะเป็นพืชล้มลุกต้องรื้อพื้นเริ่มต้นกันใหม่หลังฝนหยุดตก

ทุกครัวเรือนที่เข้าร่วมประชุมมีความรู้สึกที่ดีต่อกันและเห็นความสำคัญของการปลูกพืชผักไว้รับประทานเอง ด้วยหลายคนจะบ่นถึงสุขภาพที่มักจะปวดเมื่อยวิงเวียนข้อเข่าไม่แข็งแรง ทุกคนยอมรับถึงการบริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัยและอาหารที่ไม่เหมาะกับวัยเกือบทุกครัวเรือนเกิดการเปลี่ยนแปลงถึงการเลยซื้อ เลือกทำ เลือกปลูกพืชผักและอาหารที่มีคุณค่าและมีความปลอดภัยต่อชีวิตสูง ผลสรุปจากการเรียนรู้ในกิจกรรมคือข้อแตกต่างจากการบริโภคอาหารเกษตรอินทรีย์กับอาหารเกษตรทั่วไปคือ คุณค่าทางโภชนาการของผลผลิตเกษตรอินทรีย์สูงกว่าผลผลิตทั่วไปจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือการปรับปรุงบำรุงดินในระบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทำให้พืชเกษตรอินทรีย์มีระบบเมตาโบลิซึ่มที่ดีกว่า ส่งผลให้ผลผลิตเกษตรอินทรีย์มีวิตามินซี ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และฟอสฟอรัสที่สูงกว่าผลผลิตที่ไม่ใช่เกษตรอินทรีย์ รวมทั้งมีไนเตรทและโลหะหนักตกค้างน้อยกว่า และผลผลิตเกษตรอินทรีย์มีปริมาณน้ำในผลผลิตต่ำกว่า ซึ่งทำให้มวลแห้ง สูงกว่าผลผลิตทั่วไป ส่งผลให้ผลผลิตเกษตรอินทรีย์มีปริมาณธาตุอาหารต่างๆ ในสัดส่วนที่มากกว่าผลผลิตทั่วไป จาก 2 ข้อสรุป ส่งผลให้ผุ้มาร่วมกิจกรรมเข้าใจและเห็นความแตกต่างเด่นชัดในด้านวิชาการ และร่วมกันทำตามข้อตกลงการเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ทดแทน

ชาวบางคู จำนวน 60 ครัวเรือน

ผลผลิตที่ตั้งไว้ตามแผนได้ระบุไว้โครงการภาพรวมใหญ่ และกิจกรรมได้จัดระบบการผลิตและการบริโภคอาหารปลอดภัย

ไม่มี

ไม่มี

เจ้าของโครงการและเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมติดตาม สจรส. ม.อ. ครั้งที่2 เมื่อวันที่6ธันวาคม58  ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อการเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงเรื่องของการรายงานผลต่อสสส. เกี่ยวกับกิจกรรมของโครงการและการจัดการเรื่องการเงิน ตลอดถึงรายละเอียดถึงการยื่นเสียภาษี

ผู้รับผิดชอบโครงการ และเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์มีความเข้าใจตรงกัน ในเรื่องการบันทึกกิจกรรมให้เป้นปัจจุบัน การรายงานผลกิจกรรมเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรายงานผลลัพธ์ให้ สสส.ทราบทางเวบไซ๖์ และเพื่อการง่ายต่อการตรวจสอบโครงการแบบสาธารณะ
ผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้าที่การเงิน มีความเข้าใจเรื่องการหักภาษี ณ ที่จ่าย ในหมวดค่าตอบแทน ค่าจ้าง และสามารถปฏิบัติได้ พี่เลี้ยงโครงการ ร่วมสนับสนุน แก้ไข และชี้แนะประเด็นที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจ และช่วยเหลือให้การบันทึกกิจกรรมถูกต้องและมีคุัณภาพมากขึ้น

เจ้าของโครงการและเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ทาง สจรส.แจ้งวัน เวลา สถานที่ประชุม กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม ผ่านทางพี่เลี้ยงโครงการ พี่เลี้ยงโครงการแจ้งผู้รับผิดชอบโครงการ

พี่เลี้ยงจังหวัด อ.กำไล  สมรักษ์ประชุมทีมพี่เลี้ยงซักซ้อมทำความเข้าใจในกิจกรรมวันนี้ ตัวแทนจาก สจรส. ทบทวนกระบวนการจากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการ จนถึงกระบวนการได้มาซึ่งงบประมาณจากทาง สสส. วิธีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การบันทึกข้อมูลที่ได้จาการจัดกิจกรรม และการบันทึกกิจกรรมลงในเวปไซค์ การจัดกิจกรรมถอดบทเรียน การหักภาษี และร่วมกันฝึกหัดบันทึก ตรวจเอกสารทางด้านการเงิน รูปแบบของใบเสร็จที่ถูกต้อง ฝึกหัดเขียนใบกำกับภาษี ร่วมกันสรุปประเด็นปัญหา

ผู้รับผิดชอบโครงการและ จนท.คอมพิวเตอร์

ไม่มี

การหักภาษี เห็นสมควรให้ทาง สสส.ดำเนินการเองกับทางสรรพกรเพื่อเป็นการลดภาระให้กับชุมชน

กิจกรรมที่จะดำเนินการเริ่มจากเดือน ธันวาคม2558 กิจกรรมที่เป็นค่าจ้างเช่น จ้างทำป้าย จ้างทำอาหาร จ้างเหมารถ เป็นต้น ทางโครงการจะต้องหักภาษี1% และดำเนินการจ่ายแทน สสส.หลังจากดำเนินกิจกรรมเสร็จ

สภาผู้นำจำนวน20คน ได้ร่วมกับชาวบ้านพัฒนาบริเวณวัดเทพนิมิต เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสวันพ่อแห่งชาติ  เสร็จแล้วเวลาประมาณ11.30 -13.15 น. ได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือถึงการนำตัวแทนกลุ่มไปศึกษาดูงานในพื้นที่ต้นแบบตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้ตัวแทนกลุ่มได้ไปศึกษาเรียนรู้และนำมาถ่ายทอดให้กับหมู่บ้านตามที่ว่าปลูกทุกอย่างที่กินกินทุกอย่างที่ปลูก เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนทั้งเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงปลอดภัยต่อสารพิษ

สภาผูนำจำนวน20คน ได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือถึงการนำตัวแทนกลุ่มไปศึกษาดูงานในพื้นที่ต้นแบบตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ตัวแทนกลุ่มได้ไปศึกษาเรัยนรู้เพื่อนำมาพัฒนาหมู่บ้านเป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายรับให้กับครัวเรือน ทีม 18 คน ได้ร่วมกันเดินทางไปศึกษาดูงาน และได้ศึกษาประวัติลุงบุญธรรม สังข์ผอม เป็นอดีตคนขับรถแบ๊กโฮ ที่ผันตัวเองมาปลูกผักอยู่บ้านกับภรรยาที่ทำมาก่อนแล้ว โดยดัดแปลงพื้นที่มรดกกว่า 3 ไร่เป็นสวนเกษตรอินทรีย์ย่อมๆ มีทั้งบ่อปลานิล คอกหมู คอกไก่ โรงเพาะเห็ดฟาง รวมทั้งแปลงผักกินได้ และไม้ผลที่ยืนต้นอยู่รอบสวนอีกหลายอย่าง ชนิดที่หากออกดอกออกผลพร้อมๆ กัน คงต้องเกณฑ์ชาวบ้านหมู่อื่นมาช่วยเก็บ ลุงบุญธรรมเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนทำงานไม่เคยมีเงินเหลือ แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้าน ปลูกผัก เลี้ยงหมู เลี้ยงปลา สามารถเก็บหอมรอมริบรายได้จากการขายผักและอื่นๆ จนพอสร้างบ้านหลังเล็กๆ ได้ ผลสรุปสำคัญได้แก่

1. ชาวบ้านบางคูมีความรู้ในการปลูกผักเป็นร้านเพื่อหนี้น้ำท่วม
2. เรียนรู้รูปแบบการเลี้ยงไก่ไข่ แบบขังคอก
   
3. เรียนรู้การเลี้ยงวัวขังไว้ในคอกเพื่อนำมุลวัวไปทำปุ๋ยการเพาะเห็ดการใช้ชีวิตแบบพอเพียงพึงพาตนเองได้
   
4. นำวิธีการปลูกผักในรูปแบบต่างๆในการไปศึกษาดูงาน นำมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับพื้นที่
5. เรียนรู้เลี้ยงปลาในธรรมชาติสามารถนำมาปรับใช้ในหมู่บ้าน

ตัวเเทนกลุ่ม20คน

-

-

-

ผู้รับผิดชอบโครงการ ติดต่อ ประสานงานสถานที่ศึกษาดูงาน ติดต่อรถ ติดต่อเรื่องอาหาร แจ้งผู้เข้าร่วมโครงการ

ผู้รับผิดชอบโครงการ ติดต่อ ประสานงานสถานที่ศึกษาดูงาน ติดต่อรถ ติดต่อเรื่องอาหาร แจ้งผู้เข้าร่วมโครงการและได้ประสานไปยัง โครงการบ้านโคกใหญ่ ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ปลดหนี้ครอบครัว และโครงการ ชุมชนเสาธงทอง ผักสวนครัวปลอดสารพิษ ขยะมีชีวิต ร่วมคิด ร่วมทำ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีคุณ ปาลีรัตน์แก้วประดิษฐ์ เป็นพี่เลี้ยงโครงการ เข้าร่วมในการศึกษาดูงานแนวเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งทั้ง 2กลุ่มมีกิจกรรมศึกษาดูงานแนวเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน วันนั้นไปศึกษาดูงานร่วมกันทั้งหมด 3กลุ่ม กลุ่มละ15คน รวม 45คน ตัวแทนผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวรายงาน พี่เลี้ยงโครงการ นาย สุธรรมแก้วประดิษฐ์ ชี้แจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมและสิ่งที่ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนพึงจะต้องปฏิบัติในการศึกษาดูงานคือ การมีหัวใจนักปราชญ์ ตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาคือ ความรู้ในเรื่อง สุ หรือ สุตตะ คือการฟัง ความรู้ในเรี่อง จิ หรือ จินตะ คือ การคิด ความรู้ในเรื่อง ปุ หรือ ปุจฉา คือ การถาม ความรู้ในเรื่อง ลิ หรือ ลิขิต คือ การเขียน ในโลกปัจจุบันนี้จะต้องมีการอ่านเข้ามาด้วย นั่นคือ คุณลักษณะของผู้นำการเปลี่ยนแปลงการปลูกฝังทัศนคติที่ดี มอบหมายงานกลุ่ม หลังจากการฟังวิทยากรบรรยายเสร็จและจากการลงพื้นที่ไปดูของจริงให้1.ทุกกลุ่ม ร่วมกันตั้งประเด็นคำถาม ถามวิทยากรอย่างน้อยกลุ่มละ5คำถาม 2.ได้ความรู้อะไรบ้างจากการศึกษาดูงานโดยการระดมสมอง และตัวแทนกลุ่มนำเสนอแลกเปลี่ยนเรีนรู้ วิทยากรบรรยาย พาลงพี้นที่ดูของจริง ตัวแทนกลุ่มร่วมนำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกคนมีความสุข และร่วมกันอภิปรายอย่างได้องค์ความรู้ เทคนิคการปลูกมะละกอ วิธีทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ การเลี้ยงโคเนื้อ ไก่บ้าน หมูหลุม การเพาะเห็ด การปลูกผักลอยฟ้าหนีน้ำ การเลี้ยงปลา การปลูกถั่วพลู การปลูกไผ่หวาน การปลูกมะขามแทนรั้ว การทำนาข้าวอินทรีย์ พี่เลี้ยงสรุปในประเด็นที่นำเสนอ ความต่างในวิธีคิด ต่างกันที่คิด ชีวิตจึงแตกต่าง การเริ่มจากสิ่งที่เล็กๆในระบบการคิดของคนไทยกับคนจีน โดยคนจีนใช้วิธีคิดจากการค้าขาย โดยเริ่มจาก หิด หอบ หาบ ห้อง ห้าง ชีวิตที่มีทางเลือกในการดำรงชีวิต การรู้จักใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า การรู้จักทำสิ่งของบางอย่างใช้เองเลี่ยงการซื้อ ความมั่นคงทางด้านอาหาร ความสุขที่พอเพียง ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน มีความสุขและจะนำไปเริ่มปฎิบัติที่บ้านตนเองก่อนและจะขยายวงไปสู่เพื่อนใกล้บ้าน ตัวแทนมอบของที่ระลึก หลังจากนั้นได้เดินทางไปดูชุมชนต้นแบบในการจัดการชุมชนด้าน ตลาดน้ำที่ตลาดน้ำคลองแดน เดินทางกลับ

ตัวแทนสภาผู้นำและตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 คน

ไม่มี

ไม่มี

การรู้จักการให้เกียรติผู้พูดและเพื่อนร่วมงาน 

ทุกคนเข้าร่วมประชุมการจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติถึงการจัดการเรื่องการเงินของครอบครัวให้เกิดการออม การใช้จ่ายที่จำเป็น ลดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย

ผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 60 ครัวเรือน ร่วมกันวิเคราะห์รายรับรายจ่ายการเรียนรู้เพื่อปรับทัศนคติ การจัดการด้านการเงินของครัวเรือนตนเอง

• แลกเปลี่ยนเรื่องการออมในรูปแบบต่างๆของผู้มาร่วมกิจกรรม
• วิเคราะห์รายจ่ายที่จำเป็น รายจ่ายฟุ่มเฟือย
  วิทยากรวิเคราะห์รายจ่ายในระดับครัวเรือน ระดับชุมชน สู่การทำแผนแม่บทชุมชน ผลลัพธ์กิจกรรมพบว่า ตัวอย่างต้นแบบการทำบัญชีครัวเรือน มีจำนวน 15 ราย ที่ทำต่อเนื่องและเกิดการเรียนรู้เรื่องการใช้จ่ายของครอบครัว และรู้ถึงวิธีการบันทึกการใช้จ่ายและรายได้ของครอบครัวในแต่ละวัน โดยส่วนใหญ่เห็นเหมือนกันว่า รายรับคงที่ แต่รายจ่ายเพิ่มมากขึ้น และเกือบทุกครัวเรือนเป็นหนี้ ทั้งในระบบและหนี้นอกระบบ เกิดความเครียดในครัวเรือนขึ้นมา ทุกคนเริ่มการบันทึกและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินไม่ว่าจะเป็นการบันทึกลงในสมุดบัญชีครัวเรือน และจากการสนทนากัน เจ้าของโครงการรู้สึกประทับใจถึงการเปลี่ยนเเปลงที่คาดหวังไว้ว่า จำนวนครัวเรือนในชุมชน50% มีการออมและทำบัญชีครัวเรือน
• เกิดข้อตกลง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนต่อเนื่องทุกเดือน

ครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการ 60 ครัวเรือน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม ผู้รับผิดชอบโครงการช้ัแจงรายละเอียดกิจกรรม พี่เลี้ยงโครงการพบปะผู้เข้าร่วมประชุม

ผู้รับผิดชอบโครงการแนะนำตัวคณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการแก่ที่ประชุม และเชฺิญพี่เลี้ยงโครงการพบปะพูดคุย ที่ไปที่มาของโครงการ แนะนำ สสส. บทบาทหน้าที่ของ สสส. แหล่งที่มาของงบประมาณ สสส. ความหมายของชุมชนเข้มแข็ง กรณีตัวอย่างชุมชนเข้มแข็ง ระเบียบทางด้านการเงิน รับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ และอธิบาย หนึ่งครอบครัว หนึ่งสัญญาแก่ผู้เข้าร่วมโครงการและกติกาในการเข้าร่วม คือ รับบสมัครสมาชิกในการทดลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตนาข้าวอินทรีย์จำนวน 20 ครัวเรือน และปลูกผักปลอดสารพิษจำนวน 40 คร้วเรือนครัวเรือนละ 1แปลง ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องทำบัญชีครัวเรือนตลอดโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการพร้อมรับการประเมินเพื่อประกวดบ้านต้้นแบบ ลานบ้าน ลานผัก ปลูกผักกินเอง จำนวน 20 ครัวเรือน และการทำบัญชีครัวเรือนจำนวน 20 ครัวเรือน เพื่อเป็นต้นแบบและรับเกียรติบัตรหรือของรางวัลเมี่อสิ้นสุดโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการต้องพร้อมร่วมกิจกรรมที่ทางกลุ่มจัดขึ้น ปลัดอำเภอเชียรใหญ่กล่วชื่นชมแกนนำที่สามารถหางบประมาณจากภายนอกมาพัฒนาหมู่บ้าน ตัวแทนเกษตรอำเภอเชียรใหญ่กล่าวยินดีและพร้อมจะมาเป็นวิทยากรให้ในโอกาสต่อไป ให้ชุมชนแจ้งไปได้ ตัวแทนประมงอำเภอเชียรใหญ่ การเลี้ยงปลานิลแบบอินทรีย์ และพร้อมสนับสนุนพันธ์ปลาหากชุมชนสนใจโดยให้รวมกลุ่มกันประมาณ6คน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการยินดีปฎิบัติและให็ความร่วมมือ หลังจากนั้นกลุ่มแกนนำนัดประชุมในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป

เกษตรกรในชุมชนและครัวเรือนผู้ที่สนใจ ปลัดอำเภอเชียรใหญ่ ตัวแทนเกษตรอำเภอเชียรใหญ่ ตัวแทนประมงอำเภอเชียรใหญ่ จำนวน 100คน

ไม่มี

ไม่มี

การเซ็นชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมในการจัดกิจกรรมทั้งวันจะต้องให้ผู้เข้าร่วมเซ็นชื่อเช้า-บ่าย

วันที่28พ.ย. 58 เวลา 10.30 น. โดยเจ้าของโครงการได้นำตัวแทนกลุ่มจำนวน15คนเดินทางไปทำงานศึกษาดูงานการทำเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่บ้าน นายบุญธรรม สังข์ผอม อ.หัวไทร ทุกคนได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับ การเลี้ยงวัว ไก่ไข่ ปลา การปลูกผักในแผง ซึ่งยกสูงจากพื้นดิน การทำน้ำหมักชีวภาพ เมื่อเรียนรู้เสร็จแล้วโดยครูพี่เลี้ยงและเจ้าของโครงการได้ให้ตัวแทนกลุ่มซึ่งมีตัวแทนกลุ่มจาก อ.ปากพนัง เดินทางไปร่วมด้วย 2โครงการรวมเป็น3โครงการ ได้ร่วมกันและจัดแบ่งกลุ่มเป็น3กลุ่มทำกิจกรรมกลุ่มลงในกระดาษบรู๊ฟ นำเสนอถึงสิ่งที่ได้ สิ่งที่ประทับใจ และสิ่งที่เป็นคำถาม โดยนายบุญธรรม สังฆ์ผอมได้ชี้แจงเสนอแนะทุกๆคำถาม ทุกคนประทับใจเป็นอย่างมากเวลาประมาณ13.00น. ร่วมรับประทานอาหารและได้มอบของที่ระลึกให้แก่ นายบุญธรรม สังข์ผอม ประมาณ16.00น. ทุกคนได้เดินทางกลับ

ทุกคนเกิดความคิดเกิดความรู้และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาครัวเรือนของตนเองและหมู่บ้านจากการไปศึกษาดูงาน โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆที่สามารถทำได้ และการประยุกต์ใช้ในบ้านของตนเองเช่นการปลูกผักที่ยกพี้นให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม
เดินทางไปดูงาน 15 ครัวเรือน มีการปฏบัติปลูกผัก ปลูกข้าวอินทรีย์ 40 ครัวเรือน

ตัวแทนจำนวน 15 คน

-ไม่มี

.ไม่มี

-ไม่มี

เมื่อวันที่5พ.ย. 58  คณะกรรมการจำนวน20คน ได้ประชุมเพื่อปรึกษาหารือถึงการให้เยาวชนที่อยู่ในวัยเรียนได้ออกสำรวจข้อมูลครัวเรือนที่อยู่ในโครงการเพื่อให้เป็นการเก็บข้อมูล และเด็กที่อยู่ในวัยเรียนจะได้มีส่วนร่วมกับโครงการทั้งยังได้ศึกษาเรียนรู้ถึงความเป็นอยู่ของแต่ละครัวเรือนในด้านต่างๆ

คณะกรรมการทั้ง 20 คน มีความเห็นตรงกันในเรื่องการสำรวจและพูดคุยกันสำรวจเรื่องข้อมูลความเป็นอยู่ในชุมชน และพูดถึงรายจ่ายและรายได้ที่ให้ข้อมูล

คณะกรรมการจำนวน20คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1พ.ย.58 ประมาณ 8:30น. เยาวชนทั้ง10คนมาพร้อมกันที่บ้านเลขที่24หมู่9ต.ท้องลำเจียก อ.เชียรใหญ่เพื่อรับแบบสำรวจครัวเรือน โดยมีนางดรุณี เศียรประดับ เจ้าของโครงการเป็นผู้มอบหมายให้เยาวชน1คนเก็บข้อมูลครัวเรือน6ครัวเรือนเมื่อทำความเข้าใจตรงกันแล้ว เวลา9:15น. เยาวชนทุกคน ก็ได้แยกย้ายกันไปตามที่ได้รับมอบหมาย

เด็กๆให้ความสนใจและให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการเป็นอย่างดีและได้นำปัญหาหรือข้อมูลที่ได้มาร่วมกันพูดคุยและวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกัน

แบบสอบถามสัมภาษณ์ ประกอบด้วยข้อมูล จำนวนสมาชิกในครอบครัว กำลังศึกษากี่คน ระดับการศึกษา การประกอบอาชีพ สมาชิกที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เป็นโรคอะไรบ้าง ข้อมูลหนี้ในระบบ นอกระบบ อัตราการว่างงานกี่คน

เยาวชน 1 คนเก็บข้อมูลครัว 6 ครัวเรือน รวม 60 ครัวเรือน ระยะเวลา 30 วัน ในการเก็บข้อมูล

กลุ่มเยาวชนในวัยเรียนภายในหมู่บ้าน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ร่วมประชุมและลงชื่อผู้เข้าร่วมประชุมโครงการ ชี้แจงวัตถุประสงค์ตลอดดำเนินงานของโครงการ มีผู้ให้ความรู้เข้าร่วมชี้แจง ปลัดอำเภอ เกษตรอำเภอประมงอำเภอ และพี่เลี้ยงสสส. ชี้แจงแนะนำการปลูกข้าวอินทรีย์ การปลูกผักปลอดสารพิษ การทำปุ๋ยหมักอินทรีย์

ในกิจกรรมมีผลลัพธ์สำคัญดังนี้ 1.เกษตรกรและผู้สนใจได้เข้าร่วมโครงการ100คนเป็นไปตามแผน บรรยากาศดี มีส่วนร่วม ทุกคนได้ให้ความสำคัญ พร้อมใจกันที่จะร่วมกิจกรรมของโครงการและได้รับความสำคัญ 2.มีภาคีเครือข่ายเข้าร่วม4ท่านคือปลัดอำเภอประมงอำเภอ เกษตรอำเภอ และครูพี่เลี้ยง สสส. โดยได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนโครงการทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทุกคนมีความประทับใจและพึงพอใจเป็นอย่างมาก กิจกรรมที่ร่วมทำสำคัญได้แก่ 3.1. รับสมัครสมาชิกในการทดลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตนาข้าวอินทรีย์จำนวน 20 ครัวเรือน และปลูกผักปลอดสารพิษจำนวน 40 คร้วเรือนครัวเรือนละ 1แปลง 2. ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องทำบัญชีครัวเรือนตลอดโครงการ
3. ผู้เข้าร่วมโครงการพร้อมรับการประเมินเพื่อประกวดบ้านต้้นแบบ ลานบ้าน ลานผัก ปลูกผักกินเอง จำนวน 20 ครัวเรือน และการทำบัญชีครัวเรือนจำนวน 20 ครัวเรือน เพื่อเป็นต้นแบบและรับเกียรติบัตรหรือของรางวัลเมี่อสิ้นสุดโครงการ

ผู้ที่เข้าร่วมโครงการและผู้ที่สนใจ จำนวน 102 คนประกอบด้วย เด็กวัยเรียน วัยทำงาน ผู้สูงอายุ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ประชุมชี้แจง คณะกรรมการจำนวน 20 คน ต่อเนื่องจากครั้งที่ 1 ต่อไปนี้

1. ตกลงรับสมัครกลุ่มเป้าหมาย ในชุมชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 80 คน
2. แจ้งจุดประสงค์การเข้าร่วมโครงการ
   
3. นัดประชุมชี้แจงผู้เข้าร่วมโครงการ และเตรียมผู้รับผิดชอบหลัก

ทุกคนรับรู้ เข้าใจ และพร้อมจะทำกิจกรรมของโครงการเพื่อเป็นการประหยัดรายจ่ายของครอบครัว และเพื่อสุขภาพของสมาชิกทุกครัวเรือน กรรมการ ทั้ง 20 คน ได้รับรู้ถึงจุดประสงค์การเข้าร่วมโครงการ คือให้ะทุกคน ทุกครัวเรือน ได้ทำนาข้าวอินทรีย์ปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ไว้รับประทานและเป็นการลดรายจ่ายและเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ของทุกคน ทุกครัวเรือน และนัดประชุมชี้แจงผู้เข้าร่วมโครงการ และเตรียมผู้รับผิดชอบหลักดังนี้

1. นายสัมฤทธิ์เมืองบรรจง ด้านสถานที่
2. นางบุหงา นาคเป้า ด้านประชาสัมพันธฺ
3. นางสายสุดาประทีปแก้ว ด้านข้อมูล
4. นางจุไรเมืองบรรจง ด้านประชาสัมพันธ์
5. นางเนตรนรินทร์ แซ่ลิ่ม ด้านการเงิน บัญชี
6. นางดรุณี เศียรประดับ รับผิดชอบโครงการ
7. ผู้ใหญ่ณรงค์แก้วจินดา ทำหน้าที่เปิดประชุมชี้แจง

คณะกรรมการจำนวน 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ และป้ายโครงการ

1. ได้จัดทำป้ายปลอดบุหรี่และป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ
   
2. ประชาสัมพันธ์และแจ้งในที่ประชุมชี้แจง เรื่องแผนป้ายได้สร้างลดการสูบบุหรี่ จากที่ประชุมได้เตือนเขตพื้นที่ปลอดบุหรี่

คณะทำงาน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เริ่ม บ่ายโมงวิทยากร ( อ.พงษ์เทพ) กล่าวเกี่ยวกับที่มาที่ไป สสส ที่มาที่ไปจากการนำภาษีของมาใช้ เช่นภาษีเหล้า บุหรี่
ชุมชนน่าอยู่ผลที่อยากได้จากการที่โครงการสำเร็จ เช้า- ลงข้อมูลใน เวป (ระบบติดตามประเมินผล)- ปรับตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์- ปรับกิจกรรมให้ตอบตัวชี้วัด บ่ายการบริหารจัดการโครงการสู่ความสำเร็จ- บันทึกสรุปรายงานงวดหลักฐานการเงินงวด- การถอดบทเรียน (สังเคราะห์บทเรียน)การเรียนรู้การบันทึกข้อมูล เรื่องการเบิก เรื่องหลักฐานและการเบิกเงินใช้จ่ายในโครงการ

ผู้รับผิดชอบโครงการเข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศ 2 คน มีความรู้และความเข้าใจและปฏิบัติกิจกรรมได้ถูกต้อง ในเรื่องต่อไปนี้

1. ที่ไปที่มาของโครงการที่รับสนับสนุนงบจากสสส. สสส.ได้รับงบประมาณจากภาษีบาปของประเทศ 2 % เพื่อมาสนับสนุนกิจกรรมสร้างชุมชน และดูแลสุขภาพประชาชน
2. โครงการที่รับงบสนับสนุน รับต่อเนื่องได้ 5 ปี ปีละ ไม่เกิน 2 แสน ตามที่ขอในคู่สัญญา ซึ่ง กรณีที่โครงการขอไปแล้วไม่ดำเนินการตามคู้สัญญา มีผลทางกฎหมาย เนื่องจากเป็นงบประมาณภาครัฐเช่นเดียวกับงบอื่นๆ
3. ช่องทางตรวจสอบผลการดำเนินโครงการมีหลายทาง ที่สำคัญคือการจัดการรายงานบนเวบคนใต้สร้างสุข ซึ่งสามารถแสดงความโปร่งใส และตรวจสอบได้จากทุกภาคส่วน
4. การประกอบการเบิกจ่าย.ใบสำคัญรับเงิน ต้องมีสามลายเซ็นยกตัวอย่างค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มค่าวิทยากร ค่าประสานงานค่าเดินทาง การเบิกเงิน จะเบิกเงินเท่าไรยอดเงินดูจากการทำกิจกรรมในแต่ละเดือนรวมกันแต่ต้องถือเงินในมือไม่เกิน 5000 บาท
5. คณะกรรมการแบ่งงาน และแจ้งผุ้รับผิดชอบแต่ละด้าน ชี้แจงให้ชุมชนที่เข้าร่วมทราบ เพื่อการบริหารจัดการ
6. การเปิดบัญชีโครงการ ให้ผู้เบิกถอน แต่ละครั้ง เพียงพอในการทำกิจกรรม ไม่เบิกไว้มากๆเพื่อความถูกต้องระเบียบการเงิน

ผู้รับผิดชอบโครงการของโครงการและเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เจ้าหน้าที่ จาก สจรส.มอ และทีมวิชาการ จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎานี จ.ชุมพร ร่วมกันดำเนินการ

จัดปฐมนิเทศจำนวน2วัน ที่ ม.วลัยลักษณ์โดยให้ผู้รับผิดชอบโครงการและ จนท.คอมพิวเตอร์ของโครงการเข้าร่วมประชุมเชิงปฎิบัติการ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจ ในเรื่องของการรายงานผ่านทางเวปไซค์ การลงรายละเอียดกิจกรรม ปฎิทินโครงการ การลงบันทึกกิจกรรม ระบบระเบียบการเงิน

ผูัรับผิดชอบโครงการและ จนท.คอมพิวเตอร์ของโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

เอกสารทางด้านการเงินนั้น มีใบสำคํญทางการรับเงิน และใบเสร็จกรณีที่ซื้อของหรือจ้างห้างร้านต่างๆจะต้องใช้ใบเสร็จ

ประชุมวางแผน เตรียมความพร้อม เตรียมกิจกรรม จะประชุมทุกเดือนเพื่อให้เกิดสภาผู้นำ 12 ครั้ง

คณะกรรมการจำนวน 20 คน ให้ความสำคัญกับโครงการและร่วมกันวางแผนในการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนางานของโครงการเป็นอย่างดี โดยมีกรรมการหลักมาร่วมประชุม และปรึกษามอบหมายแบ่งงานตามความถนัดดังนี้
1.ซ่อนกลิ่น โสมจันทร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หัวหน้ารพ.สต บ้านศรีรักษา ตำบลท้องลำเจียก 2.นายณรงค์ แก้วจินดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ตำบลท้องลำเจียกแกนนำชุมชน 3.นายสวงค์ กรุงไกรจักร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท้องลำเจียก ประสานงานองค์กรภายนอก 4.นายสัมฤทธิ์ เมืองบรรจง กรรมการกลุ่มออมทรัพย์ หมู่ที่9 ตำบลท้องลำเจียก การบริหารองค์กรกลุ่ม 5.นายสมชัย ประจง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปากเชียร ตำบลท้องลำเจียก วิทยากรกระบวนการ 6.นายสัมฤทธิ์เมืองบรรจง ด้านสถานที่ 7.นางบุหงา นาคเป้า ด้านประชาสัมพันธฺ 8.นางสายสุดาประทีปแก้ว ด้านข้อมูล 9. นางจุไรเมืองบรรจง ด้านประชาสัมพันธ์ 10.นางเนตรนรินทร์ แซ่ลิ่ม ด้านการเงิน บัญชี 11.นางดรุณี เศียรประดับ รับผิดชอบโครงการ 2. นัดประชุมเดือนละครั้ง ทุกวันที่ 15

คณะกรรมการโครงการ และ กรรมการชุมชน รวม 20 คน

ทุกคนเห็นพ้องต้องกันกับการทำกิจกรรมของโครงการจึงยังไม่มีปัญหาใดๆ

ไม่มี

ไม่มี