เพื่อร่วมประชุมสรุปปิดโครงการร่วมกับพี่เลี้ยงและ สจรส ม.อ.
- ร่วมตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารโครงการพร้อมทั้งการลงบันทึกกิจกรรมใน เวปไวด์สรุปยอดการเงิน กับพี่เลี้ยงโครงการ
- ร่วมตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารโครงการพร้อมทั้งการลงบันทึกกิจกรรมใน เวปไวด์สรุปยอดการเงิน อีกครั้งกับ จนท. สจรส.มอ.
- ได้ชุดโครงการที่มีความถูกต้องสมบูรณ์ พร้อมปิดโครงการเพื่อส่ง สสส.
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการจำนวน 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เข้าร่วมประชุมร่วมกับ สสส.และ สจรส.ม.อ.
- วันที่ 3 ต.ค.59 เข้าร่วมพิธีเปิดงานสร้างสุขร่วมรับฟังแนวคิดจากนาย อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และการเสวนาจากผู้นำต่างๆ ของ สสส. สปสช. สจรส
- วันที่ 4ต.ค.59 เข้าร่วมประชุมห้องย่อย ชุมชนน่าอยู่ รับฟังการทำงานของโครงการชุมชนน่าอยู่ต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จ
- วันที่ 5ต.ค.59 เข้าร่วมประชุมฟังการเสนอแนะการทำงานของ สสส สปสชสจรส และภาคีเครือข่ายสร้างสุขภาคใต้
- ได้รับความรู้ และประสบการณ์ เพื่อนำไปปรับใช้ในการขับเคลื่อนชุมชนบ้านท่าช้างต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อตรวจสอบเอกสารความสมบูรณ์ของการสรุปกิจกรรม หลักฐานการเงิน ใบเสร็จรับเงิน รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละครั้ง รูปถ่ายของแต่ละกิจกรรม และตรวจสอบงบประมาณที่ถูกต้อง ยืนยันกับยอดบัญชีในธนาคาร
- นายวิรัตน์ดำเนินผลเปิดการประชุม และสรุปผลกิจกรรมต่างๆที่ผ่านมาว่ากิจกรรมโครงการได้ทำไปหมดแล้วทุกกิจกรรม ประสบปัญหาบ้าง ก็ช่วยกันเสนอแก้ไข และปรับปรุงจนกิจกรรมบรรลุผลสำเร็จและเสร็จทันปิดงวดโครงการ
- นางอุบล อากาศโชติ ผู้ช่วยเหรัญญิก ชี้แจ้งงบประมาณการเบิกจ่ายของโครงการจนถึงการปิดงบงวดที่3
- นางมติกามาลารัตน์ กล่าวขอบคุณคณะกรรมการโครงการทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อกิจกรรมของโครงการให้เกิดผลสำเร็จด้วยดี และขอความคิดเห็นในการต่อยอดโครงการในปี2560 ต่อไป
- คณะกรรมการโครงการจำนวน 15 คน ช่วยกันสรุป และจัดเตรียมเอกสารเพื่อพร้อมให้ สจรส ตรวจในวันที่15 ต.ค.59 นี้
- ได้เอกสารสรุปการดำเนินงานและสรุปโครงการฉบับสมบูรณ์
- คณะกรรมการโครงการมีความเห็นพ้องกันที่จะต่อยอดโครงการในปี 2560 ต่อ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการจำนวน 22 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ลดการใช้สารเคมีในการปลูกผักสวนครัว
- จัดกิจกรรมเพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ลดการใช้สารเคมีในการปลูกผักสวนครัว ที่ อาคารเอนกประสงค์ รพสต. บ้านท่าช้าง โดย นายอโนทัย อุตมะพงค์ ให้ความรู้เรื่อง สารเคมีตกค้างการคุ้มครองผู้บริโภค อาหารปลอดภัยคือ
- ควรปลูกผักกินเอง และเลือกซื้ออาหารสดที่ปลอดภัย เช่น แทนที่เราจะปลูกดอกกุหลาบ เราก็เปลี่ยนเป็นปลูกคะน้า ผักบุ้ง กะเพรา โหระพา หรืออื่นๆ สวยด้วย กินได้ด้วย ถ้าใครมีบริเวณบ้านที่กว้างพอสมควร เปลี่ยนจากไม้ประดับเป็นไม้กินได้ เลือกซื้ออาหารสดที่ปลอดภัย เช่น หมูก็เลือกซีดๆ มิใช่เลือกแดงๆ ปลาก็เลือกปลาที่สดๆ ท่านว่าเขาจะเอาปลาจะละเม็ดขาวที่จับจากมหาสมุทรอินเดียแล้วมาถึงมือท่านในครัวต้องใช้เวลาเท่าใด ทำไมไม่เน่า คงไม่ต้องบอก แต่ถ้าเราเลือกเป็นปลาทูบ้านตัวเล็กๆ เป็นปลาทูที่จับตามชายฝั่งจับกลางคืน เช้าก็มาตลาด น่าจะปลอดภัยมากกว่ากัน
- ไม่สามารถผลิตวัตถุดิบเองได้ ต้องซื้อประการเดียว ตลาดสดน่าซื้อ จะเป็นคำตอบที่ดี เลือกซื้อในสถานที่ที่มีมาตรฐาน ขณะนี้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันทำให้ตลาดเป็นสถานที่ปลอดภัยในการบริโภค แต่ต้องตอบว่ายาก และต้องใช้เวลาบ้าง เพื่อปรับสภาพเดิมๆ งดหรือควรเลี่ยงอย่างมากๆ ตลาดข้างทาง โดยเฉพาะของสดตามถนน ท่านลองคิดดูว่าฝุ่น ควันพิษ สารตะกั่ว เชื้อโรค แมลงวัน เป็นต้น ตำรวจอยู่บนถนนยังต้องใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูก แต่เราไปซื้อผัก หมู ปลาข้างๆ ทาง
- ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ ต้องเลือกร้านอาหารหรือสถานที่ขายอาหารที่ได้มาตรฐาน Clean Food Good Test อาหารสะอาด รสชาติอร่อย ของกระทรวงสาธารณสุขน่าจะเป็นคำตอบ เรามีกติกามาตรฐานการออกประกาศ ถ้าไม่สะอาดเราไม่ให้ ได้แล้วทำไม่ดีเรายึดคืน ป้าย Clean Food Good Test น่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย
2.ผู้เข้ารร่วมประชุมร่วมแสดงความคิดเห็นและตอบข้อซักถาม
3.ช่วงบ่ายจัดกิจกรรมออกกำลังกาย ที่สามารถทำไดเองที่บ้านและเหมาะกับวัยโดยคุณประภาพรรณสุขบำเพิงพยาบาลวิชาชีพขำนาญการ รพ.สต.บ้านพระพรหม อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช
4.นายวิรัตน์ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการ รายงานผลการทำกิจกรรมโครงการ และรายชื่อผู้ได้รับรางวัลการตรวจแปลงผักในชุมชนจำนวน 12 ครัวเรือนและได้มอบรางวัลแก่ตัวแทนครัวเรือนแล้วในวันที่ 17 ก.ย.59 ที่ผ่านมา
- ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายแกนนำชุมชนและอสมได้รับความรู้ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคที่สามรถนำไปใช้ในการปรับพฤติกรรมการบริโภคของตนและครอบครัวได้
- ครัวเรือนร่วมรับทราบ ความสำเร็จของการดำเนินงาน เป็นระยะๆ จากคณะกรรมการโครงการ
- คณะกรรมการโครงการได้รับข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำมาปรับแก้ การทำงานต่อไป เช่น การประชาสัมพันธ์์โครงการยังมีน้อยความต่อเนื่องของการขับเคลื่อนกิจกรรมบางช่วงขาดหายไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50 ครัวเรือน จำนวน50 คน
- คณะกรรมการหมู่บ้าน/สภาผู้นำ 20 คน รวม
- กลุ่มเป้าหมายรอง (ถ้ามี) ได้แก่ 1.อสม จำนวน 30คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้ครัวเรือนปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมีและลดค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือน
- จัดกิจกรรมในวัดไสเลียบ โดยให้นำปิ่นโตไปถวายเพลพระ และโครงการมีอาหารกลางวันเลี้ยงด้วย มีการฟังธรรมะจากเจ้าอาวาสวัดไสเลียบ
- นายณรงค์อุราโรจน์ ผู้ใหญ่บ้าน รายงานความสำเร็จและกิจกรรมขอโครงการแก่ที่ประชุม เพื่อรับทราบ และรับฟังปัญหาต่างๆจากสมาชิกกลุ่มและภาคีเครือข่าย อาทิ ปัญหาการทำกิจกรรมไม่ค่อยต่อเนื่องขาดคนประสานโครงการในบางกิจกรรมซึ่งทางคณะกรรมการโครงการร่วมรับฟังและนำมาแก้ไขปรับปรุง
- พิธีมอบรางวัลแก่ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการคัดเลือกเป็นครัวเรือนต้นแบบ 15 ครัวเรือน
- ชุมชนได้ทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน และร่วมรับทราบ ความสำเร็จของการดำเนินงาน เป็นระยะ 2
- เกิดครัวเรือนต้นแบบในชุมชน 15 ครัวเรือนด้านการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาชุมชนบ้านท่าช้างจำนวน 20 คนครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 50 ครัวเรือนเกษตรกรอื่นๆอสม ภาคีเครือข่ายชุมชน 30 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้เกิดสภาผู้นำที่เข้มแข็ง
- คณะกรรมการโครงการ นำโดยนายวิรัตน์ดำเนินผล รายงานกิจกรรมโครงการที่ผ่านมา คือ การประชุม คณะกรรมการการลงแรง แปลงผัก การสร้างถนนสีเขียว2 สายในหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม2559 ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมายโครงการ และเกษตรกรในชุมชน
- นายณรงค์อุราโรจน์ พูดเน้นเรื่องการเลิกใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร และการปลูกผักในครัวเรือนในชุมชนหมู่ที่5 บ้านท่าช้างและให้ตั้งเป็นกติกาชุมชนและจะประกาศให้รับรู้โดยทั่กันโดยประกาศในที่ประชุมประจำเดือนหมู่บ้านและการติดประกาศไว้ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน
- เกิดสภาผู้นำที่เข้มแข็ง 1 คณะ
- มีการประชุมสภาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- เกิดกติกาชุมขนเรื่อง ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีในการปลูกผัก ม. 5 ต.ช้างซ้าย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการจนท.อบต. และปราชญ์ชุมชนจำนวน 12คนคณะกรรมการหมู่บ้านจำนวน 10 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ ถ่ายภาพกิจกรรม และจัดทำเล่มรายงานสรุปผลการทำกิจกรรมตามโครงการ ผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้าง
- ทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ จำวน 2 ป้าย เพื่อรณรงค์การงดสูบบุหรี่ ติดไว้ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน1 ป้าย และ ที่ รพ.สต.บ้านท่าช้าง 1 ป้าย
- ถ่ายภาพกิจกรรมตลอด โครงการจำวน 50 กิจกรรม
- จัดทำรายงานเอกสารด้านการเงิน เอกสารการทำกิจกรรม และการลงบันทึกในเวปไซด์ สจรส
- จัดทำรายงานรูปเล่มฉบับสมบูรณ์ เพื่อส่ง สสส
- มีป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ จำวน 2 ป้าย เพื่อรณรงค์การงดสูบบุหรี่ ติดไว้ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน1 ป้าย และ ที่ รพ.สต.บ้านท่าช้าง 1 ป้าย
- จัดเก็บ ถ่ายภาพกิจกรรมตลอด โครงการจำวน50 กิจกรรม
- จัดทำรายงานเอกสารด้านการเงิน เอกสารการทำกิจกรรม และการลงบันทึกในเวปไซด์ สจรส
- จัดทำรายงานรูปเล่มฉบับสมบูรณ์ เพื่อส่ง สสส จำนวน 1 เล่ม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ติดตามการสรุปโครงการและถอดบทเรียนประเมินคุณประโยชน์ของโครงการต่อชุมชนที่ผ่านมา
1.นายวิรัตน์ ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการ/ สมาชิก อบต. กล่าวต้อนรับ สมาชิก ภาคีเครือข่าย และพี่เลี้ยง พร้อมทั้งรายงานกิจกรรมที่ผ่านมาทั้งหมด ว่าโครงการ ปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี วีถีบ้านท่าช้างได้ทำกิจกรรมมาจนครบทุกกิจกรรม ได้รับความร่วมมือจากครัวเรือน และภาคีเครือข่ายเป็นอย่างดี และโครงการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากชุมชนบ้านท่าช้าง
2.นายณรงค์ อุราโรจน์ ผู้ใหญ่บ้าน นำถอดบทเรียนกับที่ประชุมโดยผลสรุปการถอดบทเรียนคือ
2.1ครัวเรือนในชุมชนอย่างน้อย 50ครัวเรือนมีความรู้ ความตระหนัก และ เลิกการใช้สารเคมีในแปลงผัก และผักสวนครัว
2.2 ชุมชนครัวเรือนมีการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมีกินเองในชุมชนมากขึ้น และลดการซื้อผักจากนอกชุมชนลงอย่างชัดเจนโดยอิงผลจากการสอบถามร้านค้าขายผัก ในหมู่บ้าน และตลาดนัดในชุมชน
2.3 ครัวเรือนมีความเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้น เช่นมีการแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ ต้นอ่อนพืชและ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อให้เพื่อนบ้านนำไปปลูกในพื้นที่วางในครัวเรือนตนเอง
2.4ชุมชนมีความต้องการต่อยอดโครงการในปีต่อไป
3.ภาคีเครือข่าย อาทิ นางเรณู สุวรรรณกำเนิด ผอ.รพ.สต.บ้านท่าช้าง กล่าวชมเชยคณะกรรมการโครงการในการขับเคลื่อนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจครัวเรือน และการลดโรคแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งนับว่าชุมชนได้รับประโยชน์ย่างแท้จริง 4. นางมติกา มาลารัตน์ พี่เลี้ยงโครงการ กล่าวขอบคุณภาคีเครือข่าย และชมเชยให้กำลังใจคณะทำงาน พร้อมทั้งเน้นย้ำการรายงานกิจกรรมพร้อมทั้งการสรุปปิดงวดโครงการในวันที่ 15 ตุลาคม 2559 นี้ ที มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
1.เกิดสภาชุมขนบ้านท่าช้าง 1 คณะ ที่มีความรัก ความสามัคคีกันสามารถทำงานร่วมกัน และขับเคลื่อนงานของชุมชนได้ 2คณะกรรมการโครงการ มีความภาคภูมิใจที่โครงการประสบความสำเร็จ สามารถขับเคลื่อนให้ครัวเรือนในชุมชนอย่างน้อย 50ครัวเรือนมีความรู้ ความตระหนัก และ เลิกการใช้สารเคมีในแปลงผัก และผักสวนครัว 3.มีการถอดบทเรียนร่วมกันของผู้ขับเคลื่อนกิจกรรม (คระกรรมการโครงการ) ผู้เข้าร่วม และทำกิจกรรม (ครัวเรือน ) และผู้ดู /ประสานงาน ( ภาคีเครือข่าย) ก่อให้เกิดมุมมองที่เกิดขึ้นจริงในชุมชนบ้านท่าช้าง คือ ครัวเรือนมีการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมีกินเองในชุมชนมากขึ้น และลดการซื้อผักจากนอกชุมชนลงอย่างชัดเจนโดยอิงผลจากการสอบถามร้านค้าขายผัก ในหมู่บ้าน และตลาดนัดในชุมชน 4.ครัวเรือนมีความเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้น เช่นมีการแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ ต้นอ่อนพืชและ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อให้เพื่อนบ้านนำไปปลูกในพื้นที่วางในครัวเรือนตนเอง 5.ชุมชนมีความต้องการต่อยอดโครงการในปีต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะะกรรมการโครงการจำนวน และสภาชุมชนบ้านท่าช้าง จำนวน15 คน และตัวแทนครัวเรือนต้นแบบ 5 คน ภาคีเครือข่าย อบต, ผอ. รพสต., จำนวน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสรุปรายงานงานและปิดงวดที่ 2
1.เพื่อสรุปรายงานงานทางแวปไซด์และรายงานเอกสารการเบิกจ่ายงบประมาณการเงินโครงการ
2.เพื่อให้. สจรส.ม.อ. และพี่เลี้ยงผู้ติดตาม ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร
1.มีการสรุปรายงานงานทางแวปไซด์และรายงานเอกสารการเบิกจ่ายงบประมาณการเงินโครงการงวดที่2ตามกิจกรรมที่ได้ทำ
2.จนท.สจรส.ม.อ. และพี่เลี้ยงผู้ติดตาม ได้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารพร้อมให้คำแนะนำแก้ไกจุดบกพร่องของรายงาน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการ/ผู้รับผิดชอบโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อใช้พื้นที่ว่างรอบๆบ้านและชุมชนให้เป็นประโยชน์และเกิดแปลงสาธิตพฃผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10 คน ประชุมก่อนลงตรวจเยี่ยมครัวเรือน และแปลงสาธิต
- คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10 คนครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 20 คน ผู้สูงอายุ 5 คนลงตรวจเยี่ยมครัวเรือน และแปลงสาธิต จำนวน 7 แปลง ได้แก่
- แปลงนายธีรนนท์ สิงโหพล เลขที่ 39/3 ม5 ป,ุกถั่วผักยาว และเพาะเห้ด และมีผักสวนครัวรอบๆบ้าน
- แปลงนางเจือ สัจจโภขน์ เลขที่ 85 ม.5 ปลูกผักสวนครัว มะเขือ พริก ถั่วพลู ตะไคร้ ขมิ้น และเลี้ยงเป็ด ใช้ปุํยจากขี้เป็ดใส่แปลงผัก
- แปลงนายอรุณอ่อนน้อม เลขที่3/1 ม.5 แปลงนี้ปลูกผักมากกว่า 10 ชนิด ไว้กินในครัวเรือนได้ตลอดปี ที่เหลือแบ่งปันดพื่อนบ้าน ไม่ขาย
- แปลงนางปริง มาศเมฆ เลขที่ 22 ม.5 แปลงนี้ปลูกผักสวนครัวหลายชนิด แต่เน้นไปทางผักที่สามารถทำข้าวยำได้ อาทิขมิ้น ขิง มะนาวบัวบก ข่า พริกขี้หนู และพริกไทย
- แปลงนายสุเทพ พุดสง เลขที่ 39/2แปลงนี้ปลูกแก้วมังกร ที่พื้นที่ว่างบริเวณบ้าน เน้นการปลูกปลอดสารพิษเพื่อบริโภคในครัวเรือนและแบ่งปันญาติบ้านใกล้เคียง
- แปลงนายคล้อยชรอยนุช เลขที่16 ม.5 แปลงนี้ปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคตลอดปี เน้นปลูกผักที่กิน และกินผักที่ปลูก อาทิ มะเขือยาว มะเขือเปาะแตงกวาพริก ขมิ้น บัวบก ถัวพลู ข่า ตะไคร้ ขิง โหระพา มะกรูด มะนาวมะละกอ เป็นต้น
- แปลงนางทบ สิงโหพล เลขที่ 163 ม.5 ปลูกผักสวนครัวหลายชนิด และที่เหลือแบ่งขายที่ตลาดนัดในหมู่บ้านในวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี ไมีรายได้ครั้งละ 300-400 บาท/ครั้ง
- คณะกรรมการโครงการ และครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งกลุ่มภาคีเครือข่ายมีการทำงานเป็นระบบเพื่อการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และแผนงานที่วางไว้เกิดการรวมตัวที่มีความเข้มแข็งในชุมชนบ้านท่าช้าง
- ครัวเรือนเกิดมีความตระหนัก และมีความรู้เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อคุณภาพชีวิตของตนเองและชุมชน มีความรักความสามัคคีกันในการแบ่งปันพันธู์ผัก น้ำหมัก ปุ๋ยคอกและมีรายได้เสริมจากการปลูกผักด้วย
- เกิดครัวเรือนต้นแบบ 7 ครัวเรือน ในชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการ ผักสวนครัวปลอดสารเคมีวิถีบ้านท่าช้างต่อไป
- คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10 คนครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 20 คน ร่วมสรุปผลการเยี่ยมซึ่งสรุปได้ว่าครัวเรือนมีความตระหนัก และมีความรู้เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อคุณภาพชีวิตของตนเองและชุมชน มีความรักความสามาัคคีกันในการแบ่งปันพันธ์ผัก น้ำหมัก ปุ๋ยคอกและมีรายได้เสริมจากการปลูกผักด้วย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10 คนครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 20 คน ผู้สูงอายุ 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้เกิดสภาผู้นำที่เข้มแข็ง
คณะกรรมการในโครงการจำนาน 10 คน นำโดยนายวิรัตน์ ดำเนินผล ชี้แจงกิจกรรมโครงการผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างได้ทำไปต่อ ผู้นำ ประธานกลุ่มอื่นๆในหมู่บ้าน และหัวหน้าทีมแต่ละทีมในโครงการและกลุ่มเกษตรกรปลูกพืชอื่นๆจำนวน 10 คน โดยกล่าวถีงความสำเร็จของโครงการ กลุ่มเป้าหมาย และชุมชนให้การตอบรับ สนับสนุน และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยขณะนี้ โครงการหมู่ 5 บ้านท่าช้างได้เป็นต้นแบบของหมู่บ้านใกล้เคียงคือ ม.ที่ 3 และหมู่ที่ 9ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ. นครศรีธรรมราช
ร่วมกันทบทวน วางแผน และหาแหล่งสนับสนุนให้การทำงานในโครงการ โดยการเขียนโครงการเสนอต่อ อบต. ช้างซ้าย และงบประชารัฐ จำนวน 500,000บาท เพื่อสร้างโรงน้ำดื่มที่สะอาดในชุมชน
เป็นตัวกลางช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับครัวเรือนในชุมชน เพื่อให้ร่วมพัฒนาหมู่บ้านในทิศทางเดียวกัน
- เกิดสภาชุมชนบ้านท่าช้างจำนวน 1 คณะที่มีความเข้มแข็ง
- เกิดแนวทาง /กติกาชุมชนเรื่องลด ละ เลิก การใช้สารเคมี
- เกิดการรวมตัวของผู้นำในชุมชน เพื่อการขับเคลื่อนและพัฒนาต่อยอดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสุขภาวะของคนในชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาผู้นำหมู่ที่5 ตำบลช้างซ้าย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้เป็นชุมชนเกษตรปลอดสารเคมี
- นายวิรัตน์ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจง เกี่ยวกับกิจกรรมของโครงการที่ล้าช้า และกิจกรรมที่ต้องขับเคลื่อนต่อคือ กิจกรรม การตรวจแปลงผักของกลุ่มสมาชิก กิจกรรมการประชาสัมสัม และทำความเข้าใจกับชุมชน และกลุ่มเป้าหมาย ในเรื่องการดูแลผักที่ปลูก 2 ข้างถนน ใน 2 ซอยและกิจกรรมถอดบทเรียนโครงการ
- คณะกรรมการสามารถบริหารจัดการโครงการ และขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง
- นายวิรัตน์ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการ นัดหมายการทำกิจกรรมการตรวจแปลงผักของกลุ่มสมาชิก เป็นวันที่1 กันยายน 2559 โดยแบ่งโวนการตรวจเยี่ยมเป็น 2 โซนบ้านตามแนวถนนซอย พ้อมการนัดหมายที่ ที่การผู้ใหญ่บ้านเวลา 09.00 น
- นายณรงค์อุราโรจน์ชี้แจง โครงการวิทยุชุมชน ซึ่งจะจัดตั้งที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ในต้นเดือนกันยายนโดยใช้ชื่อ ว่าคลื่นสะตอ และทุกคนสามารถฝากข่าวประชาสัมพันได้ โดยไม่คิดมูลค่า
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อพัฒนาศักยภาพสภาผู้นำ และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ลดการใช้สารเคมีในการปลูกผักสวนครัว
- นายณรงค์ อุราโรจน์ผู้ใหญ่บ้านแจ้งเรื่องที่รับมาจากอำเภอพระพรหม คือ การสำรวจครัวเรือนรายได้ต่ำมีการกำหนดวันประชุม แบ่งงาน และนัดวันจดทะเบียนครัวเรือนรายได้ต่ำ
- นางสายพิณ สิงโหพล นำเสนอครัวเรือนรายได้ต่ำที่ได้จากการสำรวจครัวเรือนในโครงการ ปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้าง เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นของชุมชน ม. 5 ต. ช้างซ้าย
- มีแจ้งการปิดงบงวด ที่2 ของโครงการ และการมอบหมายงาน แก่คณะกรรมการ ในเรื่องการปิดงบประมาณโครงการ งวดที่ 2
- มีการวางแผนการทำงานตามกิจกรรมโครงการเพื่อให้เป็นไปตามปฏิทินโครงการและทันปิดงบงวดที่3 พร้อมระบุปัญหาตางๆ เช่น คณะกรรมการ มีงานหลายงานเข้ามาเกี่ยวข้อง กิจกรรมในชุมชน มีมาก ต้องทยอยทำกิจกรรมไปเรื่อยๆ
- ร่วมแก้ปัญหาอื่นๆในชุมชน เช่น การวางท่อประปาในหมู่บ้านการแก้ปัญหาไฟฟ้าในหมู่บ้านบางสายดับบ่อยมาก
- เกิดสภาชุมชนบ้านท่าช้างจำนวน 1 คณะ
- เกิดแนวทาง /กติกาชุมชนเรื่องลด ละ เลิก การใช้สารเคมี คือ
2.1 ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายไม่ใช้สารเคมีในการปลูกผักเพื่อบริโภค และจำหน่ายในชุมชน
2.2 ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายถ่ายทอดความรู้ และขยายผลการไม่ใข้สารเคมีในการปลูกผักสวนครัวสู่ครัวเรือนใกล้เคียงหรือญาติ อย่างน้อย 1ครัวเรือน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาผู้นำหมู่ที่5 ตำบลช้างซ้าย และภาคีเครือข่าย เจ้าหน้าที่ อบต.ช้างซ้าย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ และให้ชุมชนเป็นชุมชนปลอดสารเคมี
- นายวิรัตน์ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวขอบคุณคณะกรรมการโครงการทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมด้วยดีเสมอมา พร้อมชี้แจงงบประมาณของโครงการที่จ่ายไป และยอดคงเหลือ
- คณะกรรมการโครงการร่วมสรุปกิจกรรมที่ทำมาว่าได้รับความร่วมมือจากครัวเรือนกลู่มเป้าหมายเป็นอย่างดี
- นางเรณูสุวรรณกำเนิด(ผอ.รพ.สต.บ้านท่าช้าง ) ร่วมให้ความรู้เรื่องการทำโครงการ การขับเคลื่นโครงการและ งานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในชุมชน เช่น อาหารที่ปลอดภัย การเลือกใช้เครื่องสำอางที่ผ่าน อย. การใช้ยา เป็นต้น
- คณะกรรมการสามารถบริหารจัดการโครงการได้ และขับเคลื่อนกิจกรรมได้ตามระยะเวลาทีกำหนดในปฏิทินโครงการโดยได้รับความร่วมมือจากครัวเรือนกลู่มเป้าหมายเป็นอย่างดี
- คณะกรรมการโครงการร่วมวางแผนกิจกรรมต่อไปคือการกิจกรรมนำเสนอผลงานโครงการและมอบรางวัลครัวเรือน และแปลงสาธิตดีเด่นในชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อใช้พื้นที่ว่างรอบๆบ้านและชุมชนให้เป็นประโยชน์และเกิดแปลงสาธิตผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- คณะกรรการโครงการ 15 คน ทำความเข้าใจและรับแบบอร์มการประเมินครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย
- มีการแบ่งโซนการออกเยี่ยมและประเมิน เป็น -โซน ๆละ 3-4 ครัวเรือน
- เมื่อเสร็จสิ้นการเยี่ยมและประเมิน มีการนัดพบกันที่ทำการผู้ใหญ่บ้านเพื่อสรุปผลการเยี่ยม
- เกิดกลุ่มเกษตรอินทรีย์ดี มีมาตรฐาน บ้านท่าช้าง และครัวเรือนต้นแบบด้านการปลูกผักปลอดสารพิษ ฟื้นเศรษฐกิจบ้านท่าช้าง จำนวน 20 ครัวเรือน ที่ปลูกผักปลอดสารเคมีมากกว่า5 ชนิดขึ้นไป
- ครัวเรือนมีการตื่นตัวและมีการดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้นโดยการบริโภคผักปลอดสารพิษที่ปลูกกินเอง หรือซื้อจากครัวเรือนใกล้เคียงในชุมชนที่ผลตผักปลอดสารเคมี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
วันทำงาน 15 คน ผู้สูงอายุ 5 คน คณะกรรการโครงการ 15 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ลดการใช้สารเคมีในการปลูกผักสวนครัว
- คณะกรรมการนำโดย นายวิรัตน์ ดำเนิผล ผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมการสรุปผลการตรวจเยี่ยมตรวจเรือนปลูกผัก ผักในปล่องบ่อและแปลงตัวอย่าง ครั้งที่ 1-3 ซึ่งมีการตรวจเยี่ยมจำนวน 22 ครัวเรือน
- สรุปการทำกิจกรรมทำแปลงสาธิต และถนนสีเขียว เมื่อ 12 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับปัญหาการทำงาน งบประมาณ และผลของการทำกิจกรรม ซึ่งสรุปว่าได้รับความร่วมมือจากครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย และสมาชิกในชุมชนเป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จาก มีการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการด้วยรถประชาสัมพันธ์ และมีการเลี้ยงกาแฟ ชาเย็นจากชุมชน
- นายอภิวัฒน์ไชยเดช ร่วมเป็นวิทยากรพูดคุย และให้ความรู้ในการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการ รูปแบบ/กระบวน/ การบริหารการทำงานของคณะกรรมการในของชุมชน
- คณะกรรมการโครงการหมู่ที่ 5 ต.ช้างซ้ายสามารถบริหารจัดการโครงการ
- เกิดการทำงานร่วมกันของกลุ่มคนที่มีจิตสาธารณะ
- ร่วมวางแผนการทำกิจกรรมในครังต่อไปคือการการตรวจเยี่ยมตรวจเรือนปลูกผัก ผักในปล่องบ่อและแปลงตัวอย่างครั้งที่ 4
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการจำนวน 20 คน และครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ติดตามความก้าวหน้าโครงการและร่มกิจกรรมการพํฒนาและทำถนนสีเขียวและร่มพบปะกลุ่มครัวเรือนเป้าหมาย
1 เวลา 08.30 น มีการประชาสัมพันธฺ การทำกิจกรรมของโครงการโดยรถประชาสัมพันธ์ นาย สนิท จันทร์พร้อย ขับไปตามซอยต่างๆในหมู่บ้าน ม .5 โดยมีการนัดแนะให้ครัวเรือนทำกิจกรรมพัฒนาซอย และปลูกผักปลอดสารตามแนวถนนซอย เวลา9.00น 2คณะกรรมการโครงการจำนวน 20คนครัวเรือนกลู่มเป้าหมาย 45 คนกลุ่มเกษตรกรอื่น จำนวน 10คน ร่วมกันทำกิจกรรมพัฒนาซซอย และปลูกผักปลอดสารตามแนวถนนซอยจำนวน 3ซอย 3 ทุกคนร่วมรับประทานอาหารเที่ยงพร้อมกัน 4มีการสรุปรายละเอียด และผลการทำกิจกรรมระหว่างการรับประทานอาหารในที่คณะกรรมการและครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย
1คณะกรรมการโครงการจำนวน 20คนครัวเรือนกลู่มเป้าหมาย 45 คนกลุ่มเกษตรกรอื่น จำนวน 10คน ร่วมกันทำกิจกรรมพัฒนาซอย และปลูกผักปลอดสารตามแนวถนนซอยจำนวน 3ซอย โดยผักที่ปลูก อาทิ ตะไคร้ มะขือ บอน ถั่วฝักยาวมะละกอ ขมิ้น และข่า เป็นต้น 2 เกิดความสามัคคีของคนในชุมชน 3 ชุมชนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมตามโครงการเป็นอย่างดี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการจำนวน 20คน ครัวเรือนกลู่มเป้าหมาย 45 คน กลุ่มเกษตรกรอื่น จำนวน 10คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ และทำแปลงสาธิต 5 แปลงและทำถนนสีเขียว 2 ซอยในหมู่บ้าน
- ผู้ใหญ่บ้านนายณรงค์ อุราโรจน์ และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายสนิทจันทร์พร้อย ใช้รถประชาสัมพันธ์รณงค์ให้ กลุ่มครัวเรือนเป้าหมายและคนในชุมชน ออกมาร่วมทำกิจกรรมพัฒนา และปลูกผักในซอย3 ซอย และในแปลงตัวอย่าง ในตอนเย็นวันที่ 11 ส.ค 59 และเช้าวันที่ 12 ส.ค 59
- มีการแบ่งโซน และแบ่งซอยรับผิดชอบในการทำกิจกรรม โดยแบ่งเป็น 3 ซอย โดยซอยที่1 มีนางอุบล อากาศโชติ เป็นหัวหน้าทีมซอยที่ 2 นายจรูญสิงโหพล และซอยที่ 3 นาง ชิตทุมรัตน์ เป็นผู้รับผิดชอบ
- ทุกคน ทุกซอย ร่วมกันพัฒนา และปลูกผักสองฝั่งถนนในซอยพร้อมกันเวลา 9.00 น.
- เกิดความรัก ความสามัคคี ของคนในชุมชน
- มีการแบ่งงานและการรับผิดชอบงานส่วนรวม
- เกิดการพัฒนาซอย และปลูกผักสองฝั่งถนนในซอย 3 ซอยในชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50 ครัวเรือน จำนวน 50 คน
- คณะกรรมการหมู่บ้าน/สภาผู้นำ 20 คน
- กลุ่มเกษตรกรอื่น จำนวน 5คน
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อใช้พื้นที่ว่างรอบๆบ้านและชุมชนให้เป็นประโยชน์และเกิดแปลงสาธิตพฃผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- นายวิรัตน์ ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการ ชี้แจงแก่คณะกรรมการโครงการจำนวน15 คน ในรายละเอียด/วัตถุประสงค์ของการตรวจเยี่ยมครัวเรือน และแปลงสาธิตือ1.เพื่อกระตุ้นรัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย และชุมชน ให้มีการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- คณะกรรมการโครงการจำนวน15 คน ลงพื้นที่ ม. 5 ต.ช้างซ้ายเพื่อรับทราบปัญหาชุมชน และให้คำแนะนำที่สามารถทำได้ส่วนปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขเองได้ให้นำมาเข้าที่ประชุมสภาครั้งต่อไป 3. เพื่อคัดเลือกครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายต้นแบบที่มีการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- นำผลการตรวจเยี่ยม มาประเมิน และรวบรวม ที่บ้านนายณรงค์ อุราโรจน์ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5
- กลุ่มเกิดการวางแผนการทำงานงาน การขับเคลื่อนกิจกรรมการประเมินกิจกรรมตามโครงการ
- ความสามัคคีในกลุ่มคณะกรรมการโครงการและครัวเรือนครัวเรือน
- เกิดกลุ่มเกษตรอินทรีย์ดี มีมาตรฐาน บ้านท่าช้าง และครัวเรือนต้นแบบด้านการปลูกผักปลอดสารพิษ ฟื้นเศรษฐกิจบ้านท่าช้าง จำนวน 20 ครัวเรือน
- มีกลุ่มเกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 10 ครัวเรือนขึ้นไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
วัทำงาน 15 คน ผู้สูงอายุ 5 คน คณะกรรมการโครงการจำนวน15 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ลดการใช้สารเคมีในการปลูกผักสวนครัว
- นายณรงค์ อุราโรจน์ ชี้แจงกิจกรรมโครงการที่จะทำในวันนี้ คือการให้ความรู้เรื่องการป้องกันตัวเองจากการบริโภค ผัก ผลไม้และอาหารที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมี และมีสารเคมีตกค้างการล้างผัก ผลไม้เพื่อลดสารตกค้าง
- นางประภาพรรณสุขบำเพิง พยาบาลวิชาชีพรพ.สต. บ้านพระพรหม อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ให้ความรู้เรื่องการป้องกันตัวเองจากการบริโภค ผัก ผลไม้และอาหารที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมี และมีสารเคมีตกค้างการล้างผัก ผลไม้เพื่อลดสารตกค้างและจากการตรวจผักในตลาด ผักที่มีการปนเปื้อนมากที่สุด คือ “กะเพรา” มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานถึง 62.5% “ถั่วฝักยาว-คะน้า” เกินมาตรฐาน 37.5% “ผักบุ้งจีน-กวางตุ้ง-มะเขือเปราะ” เกินมาตรฐาน 25% ส่วนผักที่มีสารเคมีตกค้างน้อย คือ “แตงกวา-พริกแดง” ขณะที่ “ผักกาดขาว-กะหล่ำปลี” ไม่พบสารเคมีตกค้างเกินค่ามาตรฐานเลย โดยชนิดของสารเคมีที่พบตกค้างมากที่สุดคือยาฆ่าแมลงชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “ไซเปอร์เมทริน” และวิธีการล้างผัก การล้างผักช่วยลดสารพิษมีวิธีปฏิบัติง่าย ๆ ดังนี้
- ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต(ผงฟู) 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น 1 กะละมัง(20 ลิตร)แช่นาน 15 นาทีแล้วนำไปล้างน้ำอีกหลาย ๆ ครั้งจะสามารถลดสารพิษได้ 90 – 95 % - ใช้น้ำส้มสายชู (5%) 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 กะละมังแช่นาน 10 – 15 นาที จะสามารถลดสารพิษได้ 60 – 84 % - ล้างผักโดยให้น้ำไหลผ่านใช้มือช่วยคลี่ใบผักนาน 2 นาที จะสามารถลดสารพิษได้ 54 – 63 % - ลอกหรือปอกเปลือกชั้นนอกของผักออกทิ้ง เด็ดผักเป็นใบ ๆ แล้วแช่น้ำสะอาดนาน 10 – 15 นาที จะสามารถลดสารพิษได้ 27 – 72 % - ต้มหรือลวกผักด้วยน้ำร้อนจะสามารถลดสารพิษได้ 48 – 50 % - ใช้ด่างทับทิม 20 – 30 เกล็ดผสมน้ำ 1 กะละมัง แช่นาน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งจะสามารถลดสารพิษได้ 35 – 43 % - ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 กะละมังแช่นาน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งจะสามารถลดสารพิษได้ 29 – 38 %
3.การตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดแก่กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 60 คน โดยนางมติกามาลารัตน์พยาบาลวิชาชีพรพ.สต. บ้านท่าช้าง อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช
- เกิดการเรียนรู้ และตื่นตัวเรื่องพิษภัยจากสารเคมี
- สมาชิกกลุ่มปลูกผักสวนครัวและเกษตรกรอื่นๆในชุมชน รับทราบปริมาณสารตกค้างในเลือดของตนหลังจากมีการปรับเปลียนพฤคิกรรมการบริโภคผักปลอดสารพิษ
- ชุมชนและกลุ่มเป้าหมายการเฝ้าระวังและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ถูกต้อง
- ผลการตรวจปริมาณสารตกค้างในเลือดครั้งที่ 2 (กลุ่มเดิม ที่เจาะครั้งแรก ) มีดังนี้ (60คน) กลุ่มปกติจำนวน 12 คน (ร้อยละ 20) กลุ่มปลอดภัยจำนวน 30คน (ร้อยละ 50) กลุ่มเสื่ยงจำนวน 11 คน (ร้อยละ18.3) กลุ่มไม่ปลอดภัยจำนวน 7คน(ร้อยละ 11.7) ซึ่งจากผลการเจาะสารเคมมีตกค้างครั้งที่ 2 ผลการตรวจวิเคราะห์ได้ว่าพบคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มไม่ปลอดภัยมีจำนวนลดลง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
วัยทำงาน 40 คน ผู้สูงอายุ 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อใช้พื้นที่ว่างรอบๆบ้านและชุมชนให้เป็นประโยชน์และเกิดแปลงสาธิตพฃผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10 คนร่วมพูดคุยและสร้างแบบการประเมินและวิธีการให้คะแนนครัวเรือนที่ลงเยี่ยม
- คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10 คน ลงตรวจเยี่ยมโดยไม่มีแบ่งโซนการตรวจเยี่ยม เพราะหมู่บ้านมีขาดพื้นที่ไม่กว้าง มีพาหนะคือรถมอเตอร์ไซด์ใช้ในการทำงานเกือบทุกคน และ.คณะกรรมการโครงการ ทุกคนต้องการพบปะกลุ่มเป้าหมายพร้อมๆกันเพื่อดูความก้าวหน้าของกิจกรรมและสามารถช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหาต่างๆที่พบในครัวเรือน 3.ในการตรวจเยี่ยมได้ลงตรวจเยี่ยม 8ครัวเรือนซึ่งมีจำนวนแปลงผัก จำนวน 8 แปลงดังนี้
- ครัวเรือนนายประเสริฐทำจุล เลขที่12/3 ม.5จำนวน 1 แปลง
- ครัวเรือน นางสมบูรณ์ ปุณนุวงค์ เลขที่86/1 ม.5 จำนวน 1 แปลง
- ครัวเรือนนางบุญมีสิงโหพล เลขที่25/4 ม.5 จำนวน 1 แปลง
- ครัวเรือน นางสาวิตรีหอยสังข์เลขที่19/6 ม.5จำนวน 1 แปลง
- ครัวเรือนนางกัลยามิตรรัต เลขที่ 25/1ม.5 จำนวน 1 แปลง
- ครัวเรือนนางคลี่ ชรอยนุชเลขที่ 16 ม.5จำนวน 1 แปลง
- ครัวเรือนนางสาย อินทรนิมิตร เลขที่ 86 ม.5 จำนวน 1 แปลง
- นางอาภรณ์ สัจโภชเลขที่ 53/1 จำนวน 1แปลง
- เกิดความรัก ความสามัคคีในกลุ่มครัวเรือน
- เกิดกลุ่มปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างและครัวเรือนต้นแบบจำนวน 8 ครัวเรือนโดยการปลูกผักสวนครัวมีชนิดผักตั้งแต่ 6-12 ชนิดขึ้นไปทุกครัวเรืน
- กลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มเกษตรกรในชุมชน มีการตื่นตัว และตอบรับกิจกรรมโครงการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างเป็นอย่างดี ทำให้สะดวกในการขับเคลื่อนและต่อยอดกิจกรรมต่อๆไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10 คน ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 25 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อร่วมถอดบทเรียนโครงการหลังปีดงวดที่1
1.นายวิรัตน์ ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงกิจกรรมโครงการที่ทำผ่านมาและงบประมาณ ที่ได้รับ รวมทั้งรายจ่ายของงบประมาณงวดที่1 2.พี่เลี้ยง นางมติกา มาลารัตน์ ชวนพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมโครงการที่ทำผ่านมา และร่วมถอดบทเรียนกับตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการ ตัวแทนครัวเรือนต้นแบบ บุคคลที่สนใจ สภาผู้นำ และภาคีเครือข่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องสนับสนุนโครงการ 3.พี่เลี้ยง และ ผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมตอบข้อซักถามและวางแผนงานร่วมกันในการทำกิจกรรมตามปฏิทิน งวดที่ 2
จาการถอดบทเรียนพบว่า 1.คนในชุมชน มีการแบ่งบันกันด้าน ความรู้ (ในเรื่องการดูแลสุขภาาพ การปลูกผักแบบปลอดสารเคมี ) ด้านสิ่งของ ( มีการแบ่งพันธุ์พืชผัก การแบ่งผัก การแบ่งพื้นที่ทำแปลงผัก ) ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคีในครัวเรือนใกล้เคียงและชุมชน 2.คนในชุมชนหันมาดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครัวเรือนมากขึ้น โดยสังเกตจากคนในชุมชนจะนิยมซื้อผักที่ปลูกปลอดสารที่ปลูกภายในชุมชนเอง ผักบ้านขายดี และผักที่แม่ค้ารับซื้อมาจากตลาดหัวอิฐขายยากขึ้น 3.หลังจากทำกิจกรรมโครงการ และมีการรณรงค์เรื่องการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี ทำให้เกิดพฤติกรรมการขอผักจากเพื่อนบ้านเพื่อนำไปกินในแต่ละมื้อ เป็นขอแบ่งผักเพื่อเป็นต้นพันธุ์ เพื่อเอาไปปลูกต่อในครัวเรือนตนเอง 4.ครัวเรือนที่เข้าร่วมรับทราบ ผลการจัดกิจกรรม ร่วมชื่นชมความสำเร็จ และคณะกรรมการโครงการมีความสุขในการร่วมทำกิจกรรมโครงการ 5ได้ผลลัพธ์การดำเนินงานตลอดโครงการระดับดี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการจำวนว20 คน ภาคีเครือข่าย 5 คน ครัวเรือนต้นแบบ และครัวเรือนที่สนใจ 10 ตน
ไม่มี
งบประมาณงวดที่ 2 มีการโอนล่าช้ามาก ทำให้การทำกิจกรรมล่าช้าตามไปด้วย
ให้พื้นที่เร่งดำเนินกิจกรรมตามแผน เพื่อให้ทันการปิดงบงวดที่ 2
เพื่อถอดบทโครงการหลังปิดงบงวดแรก และจะดำเนินกิจกรรมตามงบประมาณรอบที่สอง
- นายวิรัตน์ดำเนินผลผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงกิจกรรมโครงการที่ทำผ่านมาและงบประมาณ ที่ได้รับ รวมทั้งรายจ่ายของงบประมาณงวดที่1
- พี่เลี้ยง นางมติกา มาลารัตน์ ชวนพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมโครงการที่ทำผ่านมา และร่วมถอดบทเรียนกับตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการ ตัวแทนครัวเรือนต้นแบบบุคคลที่สนใจ สภาผู้นำ และภาคีเครือข่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องสนับสนุนโครงการ
- พี่เลี้ยง และ ผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมตอบข้อซักถามและวางแผนงานร่วมกันในการทำกิจกรรมตามปฏิทิน งวดที่ 2
จาการถอดบทเรียนพบว่า
- คนในชุมชน มีการแบ่งปันกันด้าน ความรู้ (ในเรื่องการดูแลสุขภาาพ การปลูกผักแบบปลอดสารเคมี) ด้านสิ่งของ ( มีการแบ่งพันธุ์พืชผักการแบ่งผัก การแบ่งพื้นที่ทำแปลงผัก ) ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคีในครัวเรือนใกล้เคียงและชุมชน
- คนในชุมชนหันมาดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครัวเรือนมากขึ้น โดยสังเกตจากคนในชุมชนจะนิยมซื้อผักที่ปลูกปลอดสารที่ปลูกภายในชุมชนเอง ผักบ้านขายดี และผักที่แม่ค้ารับซื้อมาจากตลาดหัวอิฐขายยากขึ้น
- หลังจากทำกิจกรรมโครงการ และมีการรณรงค์เรื่องการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี ทำให้เกิดพฤติกรรมการขอผักจากเพื่อนบ้านเพื่อนำไปกินในแต่ละมื้อ เป็นขอแบ่งผักเพื่อเป็นต้นพันธุ์ เพื่อเอาไปปลูกต่อในครัวเรือนตนเอง
- ครัวเรือนที่เข้าร่วมรับทราบ ผลการจัดกิจกรรม ร่วมชื่นชมความสำเร็จ และคณะกรรมการโครงการมีความสุขในการร่วมทำกิจกรรมโครงการ
- ได้ผลลัพธ์การดำเนินงานตลอดโครงการระดับดี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการ 5 คน ตัวแทนครัวเรือนต้นแบบ 5 คน บุคคลที่สนใจ 5 คน สภาผู้นำ ภาคีเครือข่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องสนับสนุนโครงการ 20 และพี่เลี้ยง สสส.มาร่วมนำเสนอ สะท้อน และแลกเปลี่ยนเรียน
ไม่มี
งบประมาณงวดที่ 2 มีการโอนล่าช้ามาก ทำให้การทำกิจกรรมล่าช้าตามไปด้วย
ไม่มี
เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการเกี่ยวกับการดำเนินโครงการเพื่อให้มีการรับทราบ ติดตาม ทบทวนการทำงาน ประเมินการทำงานและร่วมแก้ไขปัญหาต่อเนื่องสม่ำเสมอ และมีการวางแผนในการทำกิจกรรมตามปฏิทินโครงการ
- นายวิรัตน์ดำเนินผลผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงกิจกรรมโครงการที่ทำผ่านมาและงบประมาณ ที่ได้รับ รวมทั้งรายจ่ายของงบประมาณงวดที่1
- พี่เลี้ยง นางมติกามาลารัตน์ ชวนพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมโครงการที่ทำผ่านมา ปัญหา อุปสรรค และสิ่งที่ทำได้ดีแล้ว
- พี่เลี้ยง และ ผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมตอบข้อซักถามและวางแผนงานร่วมกันในการทำกิจกรรมตามปฏิทิน งวดที่ 2 คือกิจกรรมทำแปลงสาธิต และถนนสีเขียว 2 สาย โดยนัดทำกันในวันที่11- 12 สิงหาคม 2559 นี้ พร้อมกันทุกซอย
- คณะกรรมการโครงการจำนวน 18 คน และตัวแทนโซน4 คน รับทราบกิจกรรมโครงการที่ทำไปแล้วปัญหาอุปสรรคโครงการ และการวางแผนการทำงานต่อในกิจกรรมต่อไป เพื่อการขับเคลื่อนโครงการอย่างต่อเนื่อง
- คณะกรรมการมีความพร้อมและมีความสุขในการทำโครงการนี้
- คณะกรรมการรับรู้และเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองสามารถบริหารจัดการโครงการต่อไปได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะกรรมการโครงการจำนวน 18 คน และครัวเรือนต้นแบบ 4 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้เกิดสภาที่เข้มแข็ง
- นายณรงค์อุราโรจน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 กล่าวต้อนรับสมาชิก และแจ้งวาระการประชุมแก่สภาผู้นำ
- นายอภิวัฒน์ ไชยเดช พี่เลี้ยงจังหวัดนครศรี ร่วมพบปะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการทำงานเพื่อให้เกิดสภาผู้นำที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชน อาทิ
สภาองค์กรชุมชน หมายถึง เวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาชุมชนของคนในชุมชนท้องถิ่น โดยคนในชุมชนท้องถิ่น และเพื่อคนในชุมชนท้องถิ่น เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดังกล่าวประกอบด้วย ตัวแทนของสถาบันในชุมชนท้องถิ่น เช่น วัด โรงเรียน สถานีอนามัย เป็นต้น ตัวแทนของกลุ่มองค์กรชุมชนต่างๆ เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มโรงสีรวม กลุ่มอนุรักษ์ป่า และกลุ่มกิจกรรมพัฒนาอื่นๆ ที่มีอยู่ในแต่ละชุมชน โดยมีผู้นำชุมชนที่ไม่เป็นทางการ เช่น ผู้รู้ภูมิปัญญา ปราชญ์ชาวบ้าน และผู้นำทางการได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในชุมชนท้องถิ่น เข้ามาร่วมใช้เวทีพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชนท้องถิ่นร่วมกัน เป็นระบบการจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่อดีตแล้ว และบทบาทหน้าที่ที่สำคัญของสภาองค์กรชุมชนคืออะไร? คือการเปิดพื้นที่ให้คนในชุมชนเข้ามามีบทบาท มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นสนับสนุน คัดค้าน กฎหมาย นโยบายที่มีผลกระทบกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนท้องถิ่นโดยผ่านเวทีสมัชชาองค์กรชุมชน ที่ประชุมสภาองค์กรชุมชน จะทำหน้าที่กลั่นกรอง ติดตาม ตรวจสอบกฎหมาย นโยบาย ของหน่วยงานที่ดำเนินกิจกรรมพัฒนาอยู่ในชุมชนท้องถิ่น และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นโดยใช้ความรู้ภูมิปัญญาบวกกับความรู้ภายนอก ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เข้ามาดำเนินกิจกรรมพัฒนาในพื้นที่ - มีการชมวีดีทัศน์ ตัวอย่างรูปแบบสภาชุมชน ของบ้านสำโรงอำเภอเมือง จ.สุรินทร์เมือง โดยมีกลยุทธ์ ในการขับเคลื่อนสภา 8 ก คือแกนนำ กัลยาณมิตร กองทุน การจัดการ การเรียนรู้ การสื่อสาร กระบวนการพัฒนา และกฏกติกา
- ซักถามและร่วมอภิปรายความเป็นไปได้และความเข้มแข็งของสภาชุมชนหมู่ที่ 5 ตำบลช้างซ้าย
- เกิดสภาชุมชนบ้านท่าช้างจำนวน 1 คณะที่มีความรู้ และความเข้าใจในเรื่ององค์กรสภาชุมชน เพื่อการขับเคลื่อนชุมชนต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 15 คน ภาคีเครือข่ายและปราชญ์ชุมชน จำนวน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อใช้พื้นที่ว่างรอบๆบ้านและชุมชนให้เป็นประโยชน์และเกิดแปลงสาธิตพฃผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10คนร่วมพูดคุยและสร้างแบบการประเมินและวิธีการให้คะแนนครัวเรือนที่ลงเยี่ยม
- คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10คนลงตรวจเยี่ยมโดยไม่มีแบ่งโซนการตรวจเยี่ยม เพราะหมู่บ้านมีขาดพื้นที่ไม่กว้าง มีพาหนะคือรถมอเตอร์ไซด์ใช้ในการทำงานเกือบทุกคน และ.คณะกรรมการโครงการ ทุกคนต้องการพบปะกลุ่มเป้าหมายพร้อมๆกันเพื่อดูความก้าวหน้าของกิจกรรมและสามารถช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหาต่างๆที่พบในครัวเรือน
- ในการตรวจเยี่ยมได้ลงตรวจเยี่ยม 7ครัวเรือนซึ่งมีจำนวนแปลงผัก จำนวน 10 แปลงดังนี้
- ครัวเรือนนางจารึกสิงโหพล เลขที่12/1 ม.5
- ครัวเรือน นางปรางวิมลทรง เลขที่16/1 ม.5 จำนวน 2แปลง
- ครัวเรือนนางเอื้อมศรีวิเชียร เลขที่85/1 ม.5
- ครัวเรือน นางทบสิงโหพล เลขที่163 ม.5
- ครัวเรือนนางวรรณา มาศเมฆ เลขที่ 180 ม.5 จำนวน 2แปลง
- ครัวเรือนนางเคลื่อนกายภูมิ เลขที่65 ม.5
- ครัวเรือนนายอรุณ อ่อนน้อมเลขที่3/1 ม.5 จำนวน 2แปลง
- เกิดความรัก ความสามัคคีในกลุ่มครัวเรือน
- เกิดกลุ่มปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างและครัวเรือนต้นแบบจำนวน 7 ครัวเรือน
- กลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มเกษตรกรในชุมชน มีการตื่นตัว และตอบรับกิจกรรมโครงการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างเป็นอย่างดี ทำให้สะดวกในการขับเคลื่อนและต่อยอดกิจกรรมต่อๆไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 10คน
ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 25 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อตรวจเยี่ยมครัวเรือน ตรวจเยี่ยม ปล้อง บ่อ แปลงสาธิต ให้คำแนะนำ และกระตุ้นให้ครัวเรือนปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี
1.ช่วงเช้าและบ่ายตัวแทนครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะกรรมการ ตรวจเยี่ยมครัวเรือน ตรวจเยี่ยม ปล้อง บ่อ แปลงสาธิต ให้คำแนะนำและกระตุ้นให้ครัวเรือนปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี รวมทั้งร่วมแลกเปลียนเรียนรู้การลด เลิก ใช้สารเคมีเพื่อการเกษตรในชุมชน โดยในช่วงเช้าลงตรวจเยี่ยมบ้าน 1.นางจารึกสิงโหพลบ้านเลขที่12/1 ม.5 มีการปลูกกผักสวนครัวหลายชนิดได้แก่ ตะไคร่ ขมิ้น ถั่วฝักยาว มะเขือพริก โหระพาผักหวาน
2.นางชิต ทุมรัตน์ บ้านเลขที่ 12/2 ม.5 มีการปลูกกผักสวนครัวหลายชนิดได้แก่ ถั่วพู ชะอม ตะไคร่ ขมิ้น ถั่วฝักยาว มะเขือพริก โหระพามีการทำน้ำหมักชีวภาพจากเศษผัก และมีการเลี้ยงไก่บ้านโดยไม่ใช้สารเคมี
3.นายกระจ่างสิงโหพล บ้านเลขที่ 25/1 ม.5 บ้านนี้มีการยกแปลงปลูกผักสวนครัว โดยปลูกผักหลายชนิด และมีการใช้ตาข่ายอวนกั้นเพื่อป้องกันวัว และไก่ เข้าไปทำลายผัก
4.นางปริงมาศเมฆ บ้านเลขที่22 ม.5 บ้านนี้ปลูกพริก และถั่วฝักยาวเป็นหลัก โดยปลูกแบบปลอดสารเคมี และใช้น้ำหมักรดผัก พริกและถั่วฝักยาว ที่เหลือจากกินในครัวเรือนนำไปขายที่ตลาดในชุมชน เป็นรายได้เสริมแก่คัวเรือน
5.นายจวนอุราโรจน์ บานเลขที่40/2 ม.5 ลุงจวนปลูกผักไว้กินเองหลายชนิด และจะแบ่งปันให้ลูกหลานและครัวเรือนใกล้เคียง ไม่เคยขาย
6.นางปรางวิมลทรงบ้านเลขที่16/1 ม.5 บ้านนี้มีพื้นที่ว่างรอบๆบ้าน มาก จึงปลูกผักได้หลายชนิด เน้นผักที่ครัวเรือนชอบรับประทาน และผักที่เหลือจะแบ่งให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง และมีคนมาขอซื้อที่บ้านบ้างเป็นบางวัน
- เกิดครัวเรือนต้นแบบในการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างจากการตรวจเยี่ยมครั้งที่ 1 จำนวน 6 ครัวเรือน
- เกิดความรักความสามัคคีในครัวเรือน และในชุมชน มีการพึ่งพาอาศัยกัน คอยช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย 25 คน ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะกรรมการ 10 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้เป็นชุมชนเกษตรปลอดสารเคมี
1.ประธานโครงการกล่าวเปิดประชุมพร้อมชี้แจงกิจกรรมโครงการที่ทำไปแล้วปัญหาอุปสรรคโครงการให้คณะกรรมการโครงการจำนวน 20 คน และตัวแทนโซน 2 คน รับทราบ และหาแนวทางร่วมกัน
คณะกรรมการโครงการจำนวน 20 คน และตัวแทนโซน2 คน รับทราบกิจกรรมโครงการที่ทำไปแล้วปัญหาอุปสรรคโครงการ และการวางแผนการมำงานต่อในกิจกรรมต่อไป เพื่อการขับเคลื่อนโครงการอย่างต่อเนื่อง
1.คณะกรรมการโครงการจำนวน 20 คน และตัวแทนโซน 2 คน ร่วมกันสรุปปัญหา และหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เช่น ปัญหาพื้นที่แล้งมาก ฝนไม่ตก ทำให้ กิจกรรมการปลูกผัก และลงแปลงต้องเลื่อนออกไป รอฝนตก
2.กำหนดวันทำกิจกรรมครั้งต่อไป คือ กิจกรรมการสร้างรายได้ในครัวเรือนช่วงฤดูแล้ง โดยจัดที่ รพ.สต บ้านท่าช้าง และกำหนดตัววิทยากร โดยการเอาผู้สูงอายุในชุมชนที่มีความชำนาญด้านการจักสานมาสอนให้ความรู้ จำนวน 3 คน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการจำนวน 20 คน และตัวแทนโซน 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เรียนรู้และฝึกปฏิบัติเรื่องการทำอาชีพเสริมช่วงฤดูฝน ครั้งที่ 2
- เริ่มประชุมนายวานิช นิลอุบล ครู กศน. ต.ช้างซ้าย ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการทำอาชีพเสริมและการสร้างรายได้เสริมในครัวเรือนในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี เช่น การปลูกถั่วงอก การทำผลิตภัณฑ์สบู่ น้ำยาล้างจานใช้เองในครัวเรือน และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ให้เป็นที่ต้องการของตลาด
- มีการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาก และแจกจ่ายแก่กลุ่มสมาชิก
- วิทยากรนางห้วน ขันเพ็ชร และนางปริง มาศเมฆ สอนการทำเครื่องจักรสานจากไม้ไผ่ต่อ
- ช่วงบ่าย มีการแบ่งทีมแข่งขันนการทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ โดยมีทีมสมัครลงแข่งขัน 4 ทีมๆละ 4 คน โดยแต่ละทีมทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ 3 ชนิด คือ เข่งปลาทู 2 ใบ ข้องใส่ปลา 1 ใบ และตะกร้า 1 ใบ ภายในเวลา2 ชม.
1.กลุ่มสมาชิกมีแนวทางและสามารถสร้างอาชีพเสริมรายได้ครัวเรือนได้ โดยการทำเครื่องจักสาน และลดค่าใช้จ่ายใน๕รัวเรือนโดยการทำน้ำยาล้างจาน และสบู่ใช้เองในกลุ่มสมาฃิกด้วยกัน
2.มีการต่อยอด และประสานงาน กับศูนย์ กศน อำเภอพระพรหม และสหกรณ์อำเภอพระพรหม เพื่อการรวมกลุ่ม และหาตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานจากไม้ไผ่ของชุมชนบ้านท่าช้าง
3.เกิดการรวมกลุ่ม กลุ่มจักสานบ้านท่าช้างขึ้นมาใหม่ จากกลุ่มได้ศูนย์หายไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50ครัวเรือน จำนวน50 คน
- คณะกรรมการหมู่บ้าน/สภาผู้นำ 20 คน
- กลุ่มเป้าหมายรอง (ถ้ามี) ได้แก่ 1.กลุ่มเกษตรกรอื่น กลุ่มนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าช้าง ม.1-ม.3 จำนวน 15 คน
ไม่มี
ปีนี้ ม .5 บ้านท่าช้างไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน แต่ประสบปัญหาแล้งมาก ขาดน้ำ ทำการเกษตรและปลูกผัก จึงจัดกิจจกรรมสร้างอาชีพเสริมช่วงฤดูแล้ง
ไม่มี
เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการเกี่ยวกับการดำเนินโครงการเพื่อให้มีการรับทราบ ติดตาม ทบทวนการทำงาน ประเมินการทำงานและร่วมแก้ไขปัญหาต่อเนื่องสม่ำเสมอ และมีการวางแผนในการทำกิจกรรมตามปฏิทินโครงการ
- นายวิรัตน์ ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมสรุปกิจกรรมการสร้างรายได้เสริม ในช่วงฤดูแล้ง ที่ผ่านมา ว่าการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา มีกลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมตามเป้าหมายที่วางไว้ และกลุ่มเป้าหมายมีการตอบรับกิจกรรมเป็นอย่างดี
2.คณะกรรมการร่วมกันวางแผนการจัดกิจกรรมการสร้างรายได้เสริม ในช่วงฤดูแล้ง ครั้งที่ 2
- คณะกรรมการมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือ รวมทั้งร่วมกันวางแผนการจัดกิจกรรมการสร้างรายได้เสริม ในช่วงฤดูแล้ง เป็นอย่างดี
- คณะกรรมการร่วมกันวางแผนการจัดกิจกรรมการสร้างรายได้เสริม ในช่วงฤดูแล้ง ครั้งที่ 2 ในวันที่ 11 พ.ค.2559 นี้ เวลา 09.00-16.00 น ณ ศาลาเอนกประสงค์ รพ.สต.บ้านท่าช้าง โดยการจัดกิจกรรมช่วงเช้าเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กลุ่มอาชีพการทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ และช่วงบ่ายเป็นการประกวดการทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ โดยการประกวดเป็นทีม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการทั้งหมด
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เรียนรู้และฝึกปฏิบัติเรื่องการทำอาชีพเสริมช่วงฤดูแล้ง ครั้งที่1
1.ผู้รับผิดชอบโครงการ นายวิรัตน์ ดำเนินผลชี้แจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมคือ เพื่อ ให้ครัวเรือนมีรายได้เพิ่มในช่วงแล้งแทน ฤดูฝนตามที่เขีนยในโครงการ (ปีนี้แล้งมาก การทำการเกษตรไม่ได้ผล เพราะขาดน้ำ ยางพาราก็ตัดไม่ได้ผลผลิต ปาล์มน้ำมันไม่มีลูก และการปลูกพืชผัก ขาดน้ำตายหมด )และเพื่อเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเรื่องการทำอาชีพเสริมช่วงฤดูแล้ง คือ การทำ เจ้ย ไม้กวาด ตะกร้าจากไม้ไผ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนบ้านท่าช้าง มาทำให้เกิดรายได้ และปลูกฝังการเรียนรู้และสืบทอดแก่เยาวชนในชุมชนด้วย
2.มีการแบ่งกลุ่มเรียนรู้ โดย
กลุ่มที่ 1 กลุ่มทำ เข่งปลาทู มี นางห้วน ขันเพ็ชร เป็นผู้สอน
กลุ่มที่ 2 การทำเจ้ย มี นางเอียด กายภูมิ เป็นผู้สอน
กลุ่มที่ 3 สอนทำข้อง ไซ มี นางปริง มาศเมฆ เป็นผู้สอน
3.มีการสรุปกิจกรรมโดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมและ คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ
1.เกิดปราญ์ชในชุมชนด้านการทำ เครื่องจักสานจากไม้ไผ่ และสามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนได้
2.กลุ่มเกิดการเรียนรู้ และสามารถทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ใช้ในครัวเรือนเองได้
3.เกิดนวัตกรรมวิธีการเก็บไม้ไผ่ที่ตัดมาจากต้นแล้ว ให้สามารถนำมาใช้ทำเรื่องจักรสานได้นานโดยไม่ผุ ไม่เปลี่ยนสี เนื้อไม้ไผ่คงสภาพเดิมคือ การตัดไม้ไผ่เป็นท่อนๆ โดยให้ติดข้อไม้และมีตาไม้ติดยู่ด้วย แล้วนำไปฝังดินพอมิด สามารถเก็บไม้ไว้ได้นาน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50ครัวเรือน จำนวน 40 คน
- คณะกรรมการหมู่บ้าน/สภาผู้นำ 20 คน
- กลุ่มเป้าหมายรอง (ถ้ามี) ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรอื่น และ เยาวชนจำนวน 15 คน
ปกติกิจกรรมนี้มีการวางแผนที่จะทำในช่วงฤดูฝน น้ำท่วม แต่ปีนี้ บ้านท่าช้าง ม .5 ฝนตกน้อย น้ำไม่ท่วม แต่เกิดแล้งมาก ฝนไม่ตก ผลผลิตการเกษตรไม่ได้ผล เพราะขาดน้ำ
ไม่มี
เข้าร่วมประชุมและติดตามกิจกรรมพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการครั้งที่3
1.ร่วมรับฟัง การชี้แจง การทำกิจกรรมตามโครงการ ปัญหา อุปสรร รายรับ -รายจ่าย จากคณะกรรมการโครงการและร่วมหาข้อแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อการขับเคลื่อนกิจกรรมต่ในงวดที่2 2.ร่วมวางแผนในการจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป วันที่8 พ.ค.2559 คือกิจกรรมสร้างรายได้ในช่วงฤดูฝนแต่ปีนี้ฝนแล้งมาก เปลียนเป็นการจัดกิจกรรมสร้างรายได้ในช่วงฤดูแล้งแทน
คณะกรรมการโครงการมีความร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมทำ และสามารถร่วมหาข้อแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อการขับเคลื่อนกิจกรรมในงวดที่2ต่อไปได้ด้วยดี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 20คน
ไม่มี
ปีนี้ฝนแล้งมาก เปลียนเป็นการจัดกิจกรรมสร้างรายได้ในช่วงฤดูแล้งแทน
ไม่มี
เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ (ครั้งที่3) ให้มีการรับทราบ ติดตาม ทบทวนการทำงาน ประเมินการทำงานและร่วมแก้ไขปัญหาต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมประชุม เวลา 13.00 น.และพบปะพี่เลี้ยง นาง มติกามาลารัตน์
- นายวิรัตน์ ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการ ชี้แจ้งกิจกรรมที่ทำไปแล้ว มีผลลัพธ์เรื่องปัญหาของการทำกิจกรรมในชุมชน
- นายณรงค์อุราโรจน์ / นายวิรัตน์ ดำเนินผล ร่วมชี้แจงงบประมาณรายรับ รายจ่าย การเงินงวดที่1
- คณะกรรมการโครงการ/พี่เลี้ยง ร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาของการทำกิจกรรมที่ผ่านมา เช่น การสร้างความเข้าใจของชุมชน การขอความร่วมมือ ของครัวเรือนการปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มสมสชิก
- คณะกรรมการโครงการ/พี่เลี้ยง ร่วมวางแผนการทำกิจกรรม สร้างอาชีพเสริมในช่วงฤดูแล้ง
- คณะกรรมการโครงการ ร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาและมีแนวทางของการทำกิจกรรมที่ผ่านมา เช่น การสร้างความเข้าใจของชุมชน การขอความร่วมมือของครัวเรือนการปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มสมาชิกโดยให้คณะกรรมการ โครงการ 1คน รับผิดชอบในการดูแลกลุ่มสมาชิก 5 ครัวเรือน
- คณะกรรมการโครงการรับทราบข้อมูลและเข้าใจตรงกันในเรื่องงบประมาณรายรับ รายจ่าย การเงินงวดที่ 1
- คณะกรรมการโครงการ/พี่เลี้ยง ร่วมวางแผนการทำกิจกรรม สร้างอาชีพเสริมในช่วงฤดูแล้ง(ปีนี้ไม่มีนำ้ท่วมในฟดูฝน แต่เกิดฝนแล้งมาก) กำหนดวันทำกิจกรรม วันที่ 8 พ.ค.2559
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้เกิดสภาผู้นำที่เข้มแข็ง
- ประธานโครงการชี้แจงกิจกรรมต่างๆที่โครงการทำมา พร้อมระบุปัญหาต่างๆ เช่น ครัวเรือนในชุมชนยังไม่เข้าใจกิจกรรมของโครงการอย่างถูกต้องและทั่วถึง
- คณะกรรมการโครงการเสนอให้สภาช่วยประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับครัวเรือนในชุมชนเพื่อการร่วมพัฒนาหมู่บ้านไปในทิศทางเดียวกัน
- เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.อำเภอพระพรหม เข้าร่วมประชุม และแจ้งขอความร่วมมือในการดูแลเยาวชนให้ห่างจากยาเสพติด โดยเฉพาะ น้ำกระท่อม และยาบ้าโดยแหล่งมั่วสุมคือ สวนยางพาราสวนปาล์มท้ายหมู่บ้าน
- เกิดสภาชุมชนบ้านท่าช้างจำนวน 1 คณะที่มีความเข้าใจในการทำงานร่วมกันเพื่อชุมชน
- .สภารับข้อเสนอของคณะกรรมการโครงการและเกิดแนวทางที่จะมีกติกาชุมชนเรื่องลด ละ เลิก การใช้สารเคมีในชุมชน และการให้ความร่วมมือให้การดูแลเยาวชนในชุมชน
- เกิดเวทีขับเคลื่อนงานและกิจกรรมในชุมชนอย่างน้อยเดือนละ 1ครั้ง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ/คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 20 คน ผู้นำและประธานกลุ่มอื่นๆ 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ประชุมร่วมกับพี่เลีัยง และ สจรส.ม.อ. เพื่อสังเคราะห์และถอดบทเรียนโครงการหลังปิดงวด 1
- 09.00-11.00 น. ทบทวนการลงบันทึกกิจกรรมของโครงการในเว็บไซด์
- 11.00-14.00 น. ร่วมวิเคราะห์และถอดบทเรียนโครงการ
- 14.00-16.30 น. ทำงายงาน ส.3 ของแต่ละโครงการ
- ผู้รับผิดชอบโครงการสามารถลงบันทึกกิจกรรมของโครงการในเว็บไซด์ได้ถูกต้องและครบถ้วนมากขึ้น
- ผู้รับผิดชอบโครงการสามารถวิเคราะห์และถอดบทเรียนโครงการได้และลงทำงายงาน ส.3ได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการ และเจ้าหน้าที่การเงินโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อจัดทำรายงานความก้่าวหน้างวด1
1.คณะกรรมการโครงการ ประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบโครงการ การเงินโครงการ และคณะกรรมการอีก 1คน จัดเตรียมเอกสารด้านการเงิน และการลงยันทึกกิจกรรมของโครงการในโปรแกรมให้สมยูรณ์ 2คณะกรรมการรับการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารด้านการเงินและการลงบันทึกรายงายงานการทำกิจกรรม
การทำรายงานเอกสารหลักฐานด้านการเงิน และการลงบันทึกรายงานกิจกรรมตามโครงการ ผักสวนครัวปบอดสารเคมีวิถีบ้านท่าช้างมีบางประเด็นที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องสมบูรณ์
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ 3คน
ไม่มี
ควรมีพี่เลี้ยงหรือทีมตรวจเอกสารจาก สจรส เพิ่มอีกเพราะต้องใช้เวลานานในการตรวจอแต่ละะโครงการต้องรอนานมากค่ะ
ครัวเรือนร้อยละ 50เรียนรู้และสามารถวิเคราะห์รายรับรายจ่ายของครัวเรือนตนเองได้
- เรียนรู้ฟื้นฟูและฝึกปฏิบัติเรื่องการทำบัญชีครัวเรือน ในครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 50ครัวเรือน และสมาชิกครัวเรือนเกษตรกรที่สนใจ20ครัวเรือน
- รับสมัครครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50ครัวเรือนเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชนวันละบาท
- แต่งตั้งทีมงานติดตามเยี่ยมและตรวจการทำบัญชีครัวเรือนในกลุ่มเป้าหมายโดยแบ่งตามโซนของการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี
- จัดทำแบบติดตามเยี่ยมครัวรือนและกำหนดการเยี่ยม
- ครัวเรือนร้อยละ 50 เรียนรู้และสามารถวิเคราะห์รายรับรายจ่าย ภาคครัวเรือนได้
- กลุ่มปลูกผักสวนครัว 50ครัวเรือนเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชนวันละบาท 100%
- เกิดทีมงานติดตามเยี่ยมและตรวจการทำบัญชีครัวเรือนในกลุ่มเป้าหมายโดยแบ่งตามโซนของการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี เป็น 4โซน
- จัดทำแบบติดตามเยี่ยมครัวรือนอย่างง่ายและกำหนดการเยี่ยมของโซนต่างๆตามความสะดวกของแต่ละโซน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 50ครัวเรือน และสมาชิกครัวเรือนเกษตรกรที่สนใจ 50 ครัวเรือน -เจ้าหน้าที่ ธกส สาขาพระพรหม ปลัด อบต ต.ช้างซ้าย และครูบัญชีอาสาอำเภอพระพรหม
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการในการเรียนรู้ในเรื่องการทำน้ำหมักชีวภาพใช้เองในครัวเรือนกลุ่มปลูกผัก
- เวลา 9.00-12.00 จัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเรื่องการทำน้ำหมักชีวภาพโดยการหมักแบบ 2ถังคือ ถังที่1 จากเศษพืช เช่นเปลือก สัปปะรด เศษผักผลไม้ กล้วย เป็นต้นโดยใช้ เศษผัก ผลไม้ 40 กิโลกรัม กากน้ำตาล10 กิโลกรัม แล้วใช้ ขุปเปอร์พด 2 จำนวน 2ซองละลายน้ำ 5ลิตรแล้วผสมลงในถังเติมน้ำอีก 20 ลิตร คนให้เข้ากัน ปิดฝา ไม่ต้องสนิท หมักไว้ 14 วัน โดยต้องหมั่นคนทุกวัน จากนั้นนำไปใชได้เลย โดยเวลาจะใช้ต้องเอาน้ำหมัก 1ลิตร ผสมน้ำ 200 ลิตร และถังที่2จากซากสัตว์ เช่น หัวปลา เศษเนื้อ หอยเชอรรี่ โดยอัตาส่วนการผสม เหมือนกันกับการทำจากเศษผัก ผลไม้ โดยปราญ์ชุมชน นายช่วง สิงโหพล
- 13.00-16.00น.จัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเรื่องการทำน้ำยากำจัดศัตรูพืชแบบใช้พืชสมุนไพรในครัวเรือน โดยใช้ สะเดาตะไคร้ ใบมะละกอ โดยปราญ์ชุมชน นายช่วง สิงโหพล
- คณะกรรมการโครงการร่วมประเมินการจัดกิจกรรม และนัดหมายการจักกิจกรรมในครั้งต่อไป
- เกิดชุดความรู้เรื่องการทำน้ำหมักชีวภาพ จากเศษพืช ซากสัตว์ และ การทำน้ำยากำจัดศัตรูพืชแบบใช้พืชสมุนไพรในครัวเรือนที่ทำได้ และใช้ได้จริงในชุมชน 1 ชุด โดยการถ่ายทอดและการสนับสนุนจากปราญ์ชุมชน นายช่วง สิงโหพล
- เกิดชุดความรู้การทำน้ำหมัก จากซากหอยเชอรี่ และการล่อหอยเชอรี่จากใบมะละกอ
- มีการเปฺิดโอกาสให้สมาชิกกลุ่ม และคนในชุมชน เข้าใช้บริการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และรับความรู้ได้ตลอดเวลา ที่ศูนย์เรียนรู้วิถีเศรษกิจพอเพียง ม 5.ของ นายช่วง สิงโหพล จากเดิมที่มีสมาชิกใช้บริการน้อย และไม่ค่อยเห็นความสำคัญของศูนย์นี้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมีที่เข้ารวมโครงการและครัวเรือนที่สนใจ
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
- ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดกิจกรรมที่ดำเนินการไปแล้ว พร้อมปัญหาและอุปสรรคต่างในการจัดทำโครงการ 2.สภาร่วมรับรู้หาแนวทางร่วม และ เป็นตัวกลางช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับครัวเรือนในชุมชน เพื่อให้ร่วมพัฒนาหมู่บ้านในทิศทางเดียวกัน 3.สภาผู้นำ สรุป การทำงานโดยเฉพาะด้านการเลิกใช้สารเคมีในครัวเรือน และเสนอแก่ หน่วยงานทั้ง ภายในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้านเป็นระยะ
- เกิดสภาชุมชนบ้านท่าช้างจำนวน 1 คณะ ที่มีการทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนโครงการต่อ
- เกิดแนวทาง /กติกาชุมชนเรื่องลด ละ เลิก การใช้สารเคมีคือให้สมาชิกกลุ่ม จำนวน 50 ครัวเรือนปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี 100% และสมาชิกไม่ซื้อผักที่ปลูก และขายจากตลาดภายนอกชุมชน
- มีรูปแบบแนวทางการดำเนินกิจกรรมของโครงการต่อไปในทิศทางเดียวกัน คือ ให้กลุ่มเป้าหมายทุกครัวเรือนร่วมเป็นเจ้าของโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการหมู่บ้านจำนวน 15คน อสม 2คน ปราชญ์ เกษตรพอเพียง 1 คน ครู รร วัดท่าช้าง 1คน จนท.รพสต.บ้านท่าช้าง 1 คน
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
คณะกรรมการโครงการ และตัวแทนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องกิจกรรมของโครงการที่ผ่านมา และการขับเคลื่อนกิจกรรมต่อไป ร่วมแลกเปลี่ยนปัญหาและหาข้อตกลงร่วมกันในเรื่อง 1. การจัดกิจกรรมทำบัญชีครัวเรือน และการทำน้ำหมักชีวภาพ
คณะกรรมการโครงการ และตัวแทนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายจำนวน 20 ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องกิจกรรมของโครงการที่ผ่านมา และการขับเคลื่อนกิจกรรมต่อไป
ร่วมแลกเปลี่ยนปัญหาและหาข้อตกลงร่วมกันในเรื่อง
- การจัดกิจกรรมทำบัญชีครัวเรือน และการทำน้ำหมักชีวภาพมติที่ประชุมจะทำที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน โดยเชิญปราชญ์ชุมชน นายช่วง สิงโหพล และเกษตรอำเภอ มาร่วมให้ความรู้ในกิจกรรมดังกล่าว ในวันที่ 5 มกราคม 2559
- นายวิรัตน ดำเนินผล ประธานโครงการรับผิดชอบเกี่ยวกับการประสานงานกับ ธนาคาร ธกส เรื่อง สมุดบัญชีครัวเรือน และ วิทยากร
- ร่วมกันคิด และเสนอแนะเกี่ยวกับพืชผักที่จะปลูก 2 ฝั่งถนนในหมู่บ้าน ต้องเป็นผัก ที่วัวไม่กิน หรือ ต้องมีการป้องกันการกินจากวัวของชาวบ้านในชุมชน และวิธีการปรับพื้นที่สองฝั่งถนน ก่อนลงมือปลูกผัก โดยให้กรรมการหมู่บ้านเป็นผู้รับผิดชอบประสานงานกิจกรรมดังกล่าว
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ และตัวแทนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
1.คืนข้อมูลจาการสำรวจครัวเรือน ได้แก่ข้อมูลด้านการเกษตร การใช้สารเคมี รายได้ครัวเรือน ในครัวเรือน ม.5 2.เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องข้อมูลของครัวเรือน ว่าปัญหาของครัวเรือนทั้งหมด ในเรือ่งการใช้สารเคมีในการเกษตร และภาวะเศรฐกิจของครัวเรือนคืออะไรควรมีการ
1.นายณณง ค์อุราโรจน์ ผู้ใหญ่บ้าน/คณะกรรมการโครงการชี้แจงคืนข้อมูลจาการสำรวจครัวเรือน ได้แก่ข้อมูลด้านการเกษตร การใช้สารเคมี รายได้ครัวเรือน ในครัวเรือน ม.5
2.นางมติกา มาลารัตน์ พยาบาลวิชาชีพให้ความรู้เรื่องสารเคมีตกค้างในเลือดพร้อมแนวทางปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน และลดปริมาณงสารเคมีตกค้างในเลือด 3.ตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดแก่กลุ่มครัวเรือนเกษตรกร จำนวน 80 คน
สมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับรู้ข้อมูลจากผลการสำรวจครัวเรือนสรุปได้ดังนี้คือ
- ประชากรในหมู่บ้านส่วนใหญ่ประมาณ 90% ที่ไม่มีการท าบัญชีรายรับ-รายจ่ายในครัวเรือน
- ปัญหาด้านอาชีพ และการทำงานส่วนใหญ่เป็นเรื่องของต้นทุนในการผลิตสูง เช่นราคาปุ๋ยที่สูง
- สารเคมีที่ใช้ในการทางเกษตรกรรม คือ สารเคมีเพื่อเร่งผลผลิต โดยจะซื้อจากร้านค้าหรือตลาดในชุมชน โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทโดยจะพิจารณาเลือกซื้อสารเคมีด้วยตนเองแล้วนำมาฉีดพ่นกับอุปกรณ์ฉีดพ่นแบบสะพายหลัง-ใช้มือฉีดโดยจะฉีดประมาณเดือนละ 1-3 ครั้ง
- ขาดแคลนเงินทุนในการประกอบอาชีพ
- ประชากรส่วนใหญ่ประมาณ 50 % ไม่ได้เป็นสมาชิกลุ่มเกษตรกรและไม่เคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
- ผักที่ประชากรส่วนใหญ่บริโภคอยู่เป็นประจำ ได้แก่ ตำลึง แตงกวา ผักบุ้ง บัวบก ผักหวาน และถั่วพู
ผลการตรวจปริมาณสารตกค้างในเลือดมีดังนีี้ (80คน) กลุ่มปกติจำนวน 10 คน กลุ่มปลอดภัยจำนวน 22คน กลุ่มเสื่ยงจำนวน 27 คน กลุ่มไม่ปลอดภัยจำนวน 31 คน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
วัยทำงาน 55 คน เด็ก 15 คน ผู้สูงอายุ 30 คน
ไม่มี
หมายเหตุ *กิจกรรมนี้ มีการตรวจหาสารเคมีตกค้าง 2 ครั้ง ฉนั้นการใช้งบประมาณยังคงเหลือ 1200 บาท(ค่าตอบแทนวิทยากร)
เพื่อคืนข้อมูลครัวเรือนด้านการเกษตร การใช้สารเคมี และรายได้ของครัวเรือน ม.5 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม และตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดในกลุ่มเป้าหมาย
1.นายณรงค์ อุราโรจน์ ผู้ใหญ่บ้าน/คณะกรรมการโครงการชี้แจงคืนข้อมูลจาการสำรวจครัวเรือน ได้แก่ข้อมูลด้านการเกษตร การใช้สารเคมี รายได้ครัวเรือน ในครัวเรือน ม.5 2.นางมติกา มาลารัตน์ พยาบาลวิชาชีพให้ความรู้เรื่องสารเคมีตกค้างในเลือดพร้อมแนวทางปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน และลดปริมาณงสารเคมีตกค้างในเลือด 3.ตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดแก่กลุ่มครัวเรือนเกษตรกร จำนวน 80 คน 4. ร่วมพูดคุยกับคณะกรรมการโครงการถึงการทำกิจกรรม ปัญหา และ แนวทางการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
1.ครัวเรือนในบ้านท่าช้างรับทราบข้อมูลของชุมชนตนเอง มีความรู้ และตื่่่นตัวเรื่องพิษภัยจากสารเคมี ดังผลการวิเคราะห์ข้อมูลชุมชน
2.ผลการตรวจปริมาณสารตกค้างในเลือดมีดังนีี้
กลุ่มปกติจำนวน 10 คน
กลุ่มปลอดภัยจำนวน 12คน
กลุ่มเสื่ยงจำนวน 27 คน
กลุ่มไม่ปลอดภัยจำนวน 31 คน
ซึ่งจากผลการตรวจจะเห็นได้ว่า มีกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มไม่ปลอดภัยจำนวน 58 คน คิดเป็นร้อยละ72.5ของกลุ่มเป้าหมายที่ทำการตรวจ เพราะฉนัั้นข้อมูลนีเป็นข้อมูลที่ชุมชนต้องร่วมรับทราบ ตระหนักและหาวิธีการแก้ปัญหาสุขภาพร่วมกัน
(0)
1.ปัญหาของกิจกรรมต่อไปคือการปลูกผักสร้างถนนสีเขียวในชุมชน มีการตั้งประเด็นปัญหาว่า ถนนที่จะปลูกผัก เป็นถนนที่ชาวบ้านที่เลี้ยงวัว ใช้เป็นทางเดินของวัวเพื่อไปยังทุ่งนาที่จะเลี้ยงวัวในแต่ละวันซึ่งวัวอาจจะกินพืชผักที่ปลูกไว้ และจะเกิดปัญหาขึ้นระหว่างผู้ปลูกผัก และเจ้าของวัว ซึ่งปัญหานี้คณะกรรมการร่วมรับทราบและจะหาแนวทางร่วมกันในชุมชนต่อไป
ไม่มี
1.กิจกรรมของโครงการล่าช้า ต้องเร่งทำกิจกรรมตามปฏิทินโครงการ เพื่อทันการปิดงวดที่1 2.การทำรายงานการเงินยังไม่ถูกต้อง ครบถ้วน และไม่เป็นปัจจุบันมีการแนะนำการทำการเงินแก่ผู้รับผิดชอบของโครงการแล้ว
เพื่อสำราจข้อมูลครัวเรือนด้านการเกษตร การใช้สารเคมี และรายได้ของครัวเรือน ม.5 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม
คณะกรรมการโครงการ นักเรียน อสม. และผู้สูงอายุ จำนวน 20 คน ลงสำรวจครัวเรือนตามแบบสอบถามครัวเรือนโดยการแบ่งทีม สำรวจ เป็น 4 ทีม แบ่งเขตครัวเรือน เป็น 4โซนๆละ 100 ครัวเรือนทำการสำรวจรวม 3วัน
แบบสำรวจของชุมชน 1 ชุดประกอบด้วย
- ตอนที่1ข้อมูลทั่วไป
- ตอนที่ 2ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นอยู่
- ตอนที่ 3สำหรับครัวเรือนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมหรือ ครัวเรือนที่ทีการปลูกผัก
- ตอนที่ 4 สำหรับทุกครัวเรือนที่ต้องการปลูกกผักสวนครัวและ ครัวเรือนของท่านต้องการมีอาชีพเสริม รายได้หรือไม่
ในการทำการสำรวจช่วงกลางวัน บางบ้านไม่เจอเจ้าบ้านเพราะออกไปทำงานรับจ้างนอกพื้นที่ ต้องออกสำรวจใหม่ตอนค่ำ หรือวันอาทิตย์จึงจะพบเจ้าบ้านเพราะเป็นคนที่สามารถให้ข้อมูลได้ถูกต้องครบถ้วน เมื่อการสำรวจเสร็จสิ้นแล้ว พบว่า สามารถเก็บแบบสอบถามได้จำนวน 350 ชุด
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ นักเรียน อสม. และผู้สูงอายุ
เพื่อการเรียนรู้ร่วมกันเรื่องการเขียนรายงานโครงการและการเขียนรายงานการเงินโครงการ
- วิทยากร (อ.ไพทูรย์) อธิบายเรื่องการบันทึกข้อมูล การถอดบทเรียน การเขียนผลการดำเนินงานเกี่ยวกับผลผลิต และผลลัพธ์ของกิจกรรมและการบันทึกหลังการจัดกิจกรรม 2.วิทยากรจาก สจรส อธิบายเกี่ยวกับการหักภาษี ณ.ที่จ่าย /การยื่นรายการภาษี/การเขียนหนังสือรับรองการหักภาษี 3.วิทยากรจาก สจรส อธิบายเกี่ยวกับการเขียนแบบรายงานความก้าวหน้าโครงการ และแบบรายงานการเงินโครงการประจำงวด
- คณะกรรมการ/ผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 3 คนมีความเข้าใจเรื่องการบันทึกข้อมูล การถอดบทเรียน การเขียนผลการดำเนินงานเกี่ยวกับผลผลิต และผลลัพธ์ของกิจกรรมและการบันทึกหลังการจัดกิจกรรมมากขึ้นและสามารถนำไปใช้ได้จริงในงาน
- คณะกรรมการ/ผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 3 คนได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการเขียนแบบรายงานความก้าวหน้าโครงการ และแบบรายงานการเงินโครงการประจำงวดเพื่อนำไปใช้ในการเขียนรายงานโครงการที่ถูกต้อง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการ/ผู้รับผิดชอบโครงการ
ไม่มี
เพื่อติดตามการจัดกิจกรรมให้เป็นแผนงานโครงการและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของครัวเรือนในชุมชน
ครั้งที่ 1 -วันที่ 22/11/2558 คณะกรรมการโครงการโดยนายณรงค์ อุราโรจน์(ผู้ใหญ่บ้าน ) ร่วมประชุมชี้้แจง ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50ครัวเรือน จำนวน60 คน คณะกรรมการหมู่บ้าน/สภาผู้นำ 20 คนและ กลุ่มนักเรียน/เยาวชน จำนวน 200 คน เรื่องการการจัดทำกิจกรรม กระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง 1 กระทง
-วันที่ 25 พฤศจิกายน 58 จัดทำกิจกรรม กระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง 1 กระทง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และผักปลอดสารพิษของกลุ่มที่ปลูกและอุปกรณ์จักสานมาทำกระทงประกวดในช่วงวันลอยกระทงทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี และการให้ความร่วมมือ กับร่วมกับ อบต.ช้างซ้าย
- ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว และ กลุ่มนักเรียน/เยาวชน ร่วมรับทราบและ ได้จัดทำกระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง 1 กระทง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และผักปลอดสารพิษของกลุ่มที่ปลูกและอุปกรณ์จักสานมาทำกระทงประกวด และได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่องประเพณีลอยกระทงของชุมชนระหว่างครัวเรือนสมาชิก ผู้สูงอายุ และเยาวชนในชุมชน 2 .ชุมชน/ครัวเรือนได้ร่วมกิจกรรมวันลอยกระทงทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี และการให้ความร่วมมือ กับร่วมกับ อบต.ช้างซ้ายโดยการถ่ายทอดผ่านงกระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง
- ได้ประชาสัมพันธ์โครงการผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างผ่านกระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง ซึ่งได้รับความสนใจจากชุมชนเป็นอย่างดี และได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ในการจัดประกวดกระทงอินทรีย์
(0)
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
ครั้งที่1 วันที่ 22/11/2558 คณะกรรมการโครงการโดยนายณรงค์ อุราโรจน์(ผู้ใหญ่บ้าน ) ร่วมประชุมชี้้แจง ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50ครัวเรือน จำนวน60 คนและ กลุ่มนักเรียน/เยาวชน จำนวน 20 คน เรื่องการการจัดทำกิจกรรม กระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง 1 กระทง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และผักปลอดสารพิษของกลุ่มที่ปลูกและอุปกรณ์จักสานมาทำกระทงประกวดในช่วงวันลอยกระทงทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี และการให้ความร่วมมือ กับร่วมกับ อบต.ช้างซ้าย จากนั้นวันที่25/11/2558 มีการจัดทำกระทงอินทรีย์โโยใช้พืชผักสวนครัวในชุมชน โดยคณะกรรมการ เยาวชน ผู้สูงอายุ และตัวแทนครัวเรือนเป็นผู้จัดทำกระทง และนำไปประกวด เพื่อร่วมกิจกรรมในวันลอยกระทง ซึ่ง อบต.ช้างซ้าย จัดขึ้น ณ ศาลาพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ หมุ่ที่13 ต. ช้างซ้ายในตอนค่ำ
- ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว และ กลุ่มนักเรียน/เยาวชน ร่วมรับทราบและ ได้จัดทำกระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง 1 กระทง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และผักปลอดสารพิษของกลุ่มที่ปลูกและอุปกรณ์จักสานมาทำกระทงประกวด 2 .ชุมชน/ครัวเรือนได้ร่วมกิจกรรมวันลอยกระทงทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี และการให้ความร่วมมือ กับร่วมกับ อบต.ช้างซ้ายโดยการถ่ายทอดผ่านงกระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง
- ได้ประชาสัมพันธ์โครงการผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างผ่านกระทงอินทรีย์ที่บ้านท่าช้าง ซึ่งได้รับความสนใจจากชุมชนเป็นอย่างดี และได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการหมู่บ้าน/สภาผู้นำ 20 คน ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มปลูกผักสวนครัว 50ครัวเรือน จำนวน60 คน และ กลุ่มนักเรียน/เยาวชน จำนวน 20 คน
ช่วงนี้ เป็นช่วงเริ่มกิจกรรมของโครงการ และเป็นช่วงฤดูฝน มีน้ำท่วม เป็นบางจุดในชุมชน ทำให้ ผลผลิตจาก กลุ่ม ปลูกผักสวนครัวผลอดสารเคมียังมีน้อย
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
1.คณะกรรมการในโครงการ ผู้นำ ประธานกลุ่มอื่นๆในหมู่บ้าน และหัวหน้าทีมแต่ละทีมในโครงการและกลุ่มเกษตรกรปลูกพืชอื่นๆอื่นร่วมพูดคุยสรุปผลการทำโครงการ วิเคราะห์ข้อมูล ทั้งข้อมูลโครงการ และข้อมูลปัญหาอื่นๆในหมู่บ้าน
2.ร่วมกันทบทวน วางแผน ช่วยแก้ปัญหา หรือหาแหล่งสนับสนุนให้การทำงานในโครงการ และงานอื่นๆในหมู่บ้านคล่องตัวและสำเร็จ
3.เป็นตัวกลางช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับครัวเรือนในชุมชน เพื่อให้ร่วมพัฒนาหมู่บ้านในทิศทางเดียวกัน
- คณะกรมการหมู่บ้าน15 คนและ ภาคีเครือข่าย 5 คน (ปราชญ์ชุมชน , จนท.สาธารณสุข ,จนท.อบต.,จนท.เกษตรอำเภอ ,ประธาน อสม.หมู่ที่ 5 )ร่วมพูดคุยสรุปผลการทำโครงการ วิเคราะห์ข้อมูล ทั้งข้อมูลโครงการ และข้อมูลปัญหาอื่นๆในหมู่บ้าน และเป็นตัวกลางช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับครัวเรือนในชุมชน เพื่อให้ร่วมพัฒนาหมู่บ้านในทิศทางเดียวกัน และวางแผนร่วมกันที่จะพัฒนาโครงการนี้ เผื่อ ให้ ม.5 บ้านท่าช้างเป็นต้นแบบการปลูกผักสวนครัวปลอดสารเคมี ใน ตำบลช้างซ้าย ต่อไป
- มีการนัดประชุมครั้งต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรมการหมู่บ้าน 15 คน ภาคีเครือข่าย 5 คน
ควร มีการหาภาคีเครือข่ายในพื้นที่เพิ่มให้ครอบคลุม เช่น พระ ,ครูเป็นต้น
เพื่อติดตามการชี้แจงโครงการ ประเมินความพร้อมของสภาผู้นำ และการมีส่วนร่วมในการเข้าร่วกิจกรรมของครัวเรือน
- ผู้รับผิดชอบโครงการ ชี้แจงรายละเอียด แผนงานโครงการ ปฏิทินโครงการ
- รับสมัครครัวเรือนเข้าร่วมภายใต้กติกาที่กำหนดไว้ จำนวน 50 ครัวเรือน
- นักวิชาการการสาธารณสุขให้ความรู้เรื่องพิษภัยจากสารเคมีในการทำการเกษตร และโรคภัยต่างๆที่จะเกิดขึ้น 4.พี่เลี้ยงโครงการ ร่วมชี้แจง ทำความเข้าใจถึงบทบาทในการเยี่ยม สนับสนุน ช่วยให้กิจกรรมดำเนินสอดคล้องกับกิจกรรมได้อย่างประสบผลสำเร็จ
- ปราชญ์ชาวบ้านเสวนา พูดคุย เพื่อสร้างความร่วมมือกันในการจัดกิจกรรมทั้งปี
- พบปราชญ์ชาวบ้านด้านเศรษฐกิจพอเพียง ที่ได้รับรางวัลเมื่อปี 2557 กลุ่มทำเข่งปลาทู ทำเจ้ย ทำไม้กวาดไม้ไผ่
- ผู้รับผิดชอบโครงการ และผู้ใหญ่บ้านรวมทั้งคณะกรรมการ ร่วมมือกัน นำเสนอ และพูดคุย สรุป ตอบข้อซักถาม ให้ที่ประชุมเข้าใจได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ครัวเรือนปลูกผัก และครัวเรือนที่ทำเกษตรด้านอื่นๆ ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ชมรมผู้สูงอายุ
-
-
-
เพื่อชี้แจ้งรายละเอียดโครงการ และจัดทำปฏิทินโครงการแก่ครัวเรือนทั้งหมดในหมู่บ้าน เพื่อรับสมัครครัวเรือนเข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ความรู้เรื่องพิษภัยจากสารเคมี
เปิดเวทีวันนี้โดยนายณรงค์ อุราโรจน์ผู้ใหญ่บ้าน พูดคุยให้ทราบถึงวัตถุประสงค์และชักชวนให้ครัวเรือนเข้าร่วมโครงการในวันนี้
นายวิรัตน์ ดำเนินผล หัวหน้าโครงการ ชี้แจงเกี่ยวกิจกรรมในโครงการ และงบประมาณของโครงการ
นาย อโนทัย อุตมะพงค์ นักวิชาการสาธารณสุข จาก รพสต.บ้านท่าช้าง ให้ความรู้ชวนครัวเรือน พูดคุย ให้ทราบถึงพิษภัย อันตรายจากสารเคมีที่ตกค้างในพืชผัก อาหารการกิน
นางสิทธิพรรณ เรือนจันทร์ พี่เลี้ยงโครงการ พบปะพูดคุย สร้างความเชื่อมั่นให้ทุกครัวเรือนรับทราบถึงความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ
ครัวเรือนสมัครร่วมโครงการ 50 ครัวเรือน
นายวิรัตน์ ดำเนินผล ชี้แจงกฎ กติกา ของการเข้าร่วมโครงการให้แก่สมาชิกให้ชัดเจน
- กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 100 คนรับทราบวัตถุประสงค์ กิจกรรมและงบประมาณของโครงการผักสวนครัวปลอดสารเคมีวิถีบ้านท่าช้าง
- มีทะเบียนผู้เข้าร่วมโครงการ 50 ครัวเรือน
- กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้เรื่องพิษภัยจากสารเคมีที่ใช้ในครัวเรือน ซึ่งสารเคมีในครัวเรือน ม 5 ต.ช้างซ้ายได้แก่ 1.ประเภทป้องกันหนอนเช่นบาเจาะเกาะ โคระดาน โคลีดอน 2.ประเภทป้องกันรา เช่นโคราเท เบต้ามัยซิน แบรติค"วค์3.ประเภทใช้ฆ่าหญ้า เช่น กรัมม๊อกโซน ซึ่งมีผลต่อสุขภาพ เกิดสารตกค้างในร่างกาย เข้าสู่ร่างกายได้โดยทางทางปาก ทางลมหาย ใจ และทางผิวหนังสัมผัสและวิธีป้องกันตนเองโดยเลิกใช้หากเลี่ยงไม่ได้ ต้องสวมเสื้อผ้า ถุงเท้ารองเท้า ผ้าปิดปากจมูกมิดชิด เวลา ฉีดยาคนต้องอยู่เหนือทิศทางลม และต้องอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายหลังสัมผัสหรือฉีดพ่นยาเคมีทันที และมีความรู้เรื่องการล้างผัก ผลไม้ที่ช่วยลดสารตกค้างโดญการใช้ น้ำส้มสายชู น้ำยาด่างทับทิม และน้ำเกลือ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ปราชญ์ชาวบ้านด้านเศรษฐกิจพอเพียง นายช่วง สิงหพล กลุ่มทำเข่งปลาทู กลุ่มสานกระจาด กลุ่มทำไม้กวาดไม้ไผ่ ครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัวกินเองจำนวน 50 ครัวเรือน คณะกรรมการโครงการ ชมรมผู้สูงอายุ
- การประสัมพันธ์โครงการยังมีน้อย ชาวบ้านบางส่วนยังไม่ทราบ
เพื่อรณรงค์ลดการสูบบุหรี่ในชุมชน ม.5 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช
1.จัดทำป้ายโครงการและสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ เพื่อใช้เพื่อรณรงค์ลดการสูบบุหรี่ในชุมชน ม.5 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 1 ป้ายขนาด3x1.5 เมตร 2. จัดทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่โดยเฉพาะ จำนวน 2 ป้าย ขนาด 60ซม x 150ซม ติดไว้ที่ รพสต. บ้านท่าช้าง และ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน
ป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ทั้ง 3 ป้ายติดตั้งไว้ ในสถานที่่ที่ ประชาชนทั่วไปสามารถมองเห็นได้และเป็นสถานที่ใช้ประชุมในหมู่บ้านเป็นประจำ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สมาชิกชุมชนบ้านท่าช้าง
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อชี้แจ้งรายละเอียดโครงการ การดำนินการตามกิจกรรมแก่คณะกรรมการและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
- นายวิรัตน์ ดำเนินผล ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดโครงการ เกี่ยวกับ ที่มา วัตถุประสงค์กลุ่มเป้าหมาย กิจกรรมการดำเนินโครงการ ปฏิทินโครงการ การประเมินผล และงบประมาณโครงการ โดยมีนางอุบล อากาศโชติ เป็นเลขาบันทึกการประชุม 2.มีแบ่งหน้าที่ รับผิดชอบของคณะกรรมการ และแบ่งโซนพื้นที่ในการทำกิจกรรมเป็น 10โซน 3ซักถามข้อสงสัย และสรุปการประชุมครั้งที่ 1
- มีคณะกรรมการโครงการผักสวนครัวปลอดสารเคมี วิถีบ้านท่าช้างจำนวน 20 คนและทุกคนรับทราบที่มาของโครงการโดยงบสนับสนุนจาก สสส
- คณะกรรมการรับรู้และยินดีดำเนินงานตามกิจกรรมของโครงการอย่างต่อเนื่องตลอดโครงการ
- มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบงาน และแบ่งโซนการรับผิดชอบพื้นที่อย่างชัดเจน เป็น10 โซนโดยใช้แนวถนนในหมู่บ้านเป็นแนวแบ่งโซน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการโครงการ จำนวน 11 คน คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 8 คน อบต. 1 คน
ไม่มี
ปฐมนิเทศผู้รับผิดชอบโครงการ ร่วมกับ สจรส.มอ
เจ้าหน้าที่ สจรส.มอ ร่วมกับพี่เลี้ยงโครงการ อบรมให้ความรู้ แก่คณะกรรมการโครงการในเรื่อง
1. การลงบันทึกกิจกรรมของโครงการในพื้นที่ในเวบไซด์
2.การลงบันทึกปฏิทินโครงการ
3. การทำใบเบิก-จ่าย ใบเสร็จรับเงิน ในกิจกรรมต่างๆ
4. การถ่ายภาพกิจกรรมที่สื่อความหมายได้ดี และการลงภาพถ่ายกิจกรรมในเวปไซด์
ผู้รับผิดชอบโครงการสามารถลงบันทึกปฏิทินโครงการได้ถูกต้องครบถ้วนทุกกิจกรรม และได้ทดลองลงบันทึกกิจกรรมของโครงการในพื้นที่ในเวบไซด์ซึ่งยังทำได้ไม่ครบถ้วนและไม่ครอบคลุมตรงประเด็น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการ/ผู้รับผิดชอบโครงการ
มีการฝึกลงบันทึกกิจกรรมของโครงการในพื้นที่ในเวบไซด์ของผู้รับผิดชอบ และมีการติดตามจากพี่เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อความครอบคลุมและความถูกต้องของข้อมูลการบันทึก