โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สร้างพื้นที่สวนยางพาราให้เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยชุมชนบ้านทางเกวียน
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สร้างพื้นที่สวนยางพาราให้เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยชุมชนบ้านทางเกวียน |
ภายใต้องค์กร | Node Flagship จังหวัดพัทลุง |
รหัสโครงการ | 65-00232-0021 |
วันที่อนุมัติ | 28 เมษายน 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2565 - 31 สิงหาคม 2566 |
งบประมาณ | 105,000.00 บาท |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายไพรัช เจ้ยชุม |
เบอร์โทรผู้รับผิดชอบโครงการ | |
อีเมล์ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายณัฐพงศ์ คงสง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.378508,100.036858place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 พ.ค. 2565 | 30 ก.ย. 2565 | 1 พ.ค. 2565 | 30 ก.ย. 2565 | 42,000.00 | |
2 | 1 ต.ค. 2565 | 31 มี.ค. 2566 | 1 ต.ค. 2565 | 31 ส.ค. 2566 | 52,500.00 | |
3 | 1 เม.ย. 2566 | 31 ส.ค. 2566 | 10,500.00 | |||
รวมงบประมาณ | 105,000.00 |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สภาพทั่วไป กลุ่มเกษตรสวนยางแปลงใหญ่ยางพาราสหกรณ์กองทุนสวนยางในเขตปฏิรูปที่ดินบ้ารนทางเกวียน จำกัด เกิดจากนโยบายของการยางแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนให้เกษตรกรรวมตัวกันในลักษณะกลุ่มซึ่งที่มาของสมาชิกต้องเป็นสมาชิกของสหกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการทำกิจกรรมของกลุ่มคือ -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกลดค่าใช้จ่ายในการผลิต -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกพัฒนายกระดับคุณภาพผลผลิต -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกสร้างและพัฒนากลไกการตลาดในการจำหน่ายผลผลิต -เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้สมาชิกบริหารจัดการองค์กรให้มีความเข้มแข็ง สหกรณ์กองทุนสวนยางในเขตปฏิรูปที่ดินบ้านทางเกวียน จำกัด ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2537ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด305คน มีพื้นที่สวนยางพาราของสมาชิกทั้งหมด 1,164 ไร่ พื้นที่ทั้งหมดที่เป็นส่วนยางพาราของสมาชิกตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลโคกม่วง ตำบลตะโหมด ตำบลคลองเฉลิม สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบผสมสันเนินกระจายสลับกันไปการทำการเกษตรส่วนใหญ่พี่งพาธรรมชาติเพราะยางพาราเป็นพืชที่ไม่จำเป็นต้องจัดการมากมายไม่ต้องใช้น้ำในการผลิตมากมาย สวนยางพาราของสมาชิกประมาณ800ไร่เป็นสวนยางพาราที่เปิดกรีดแล้วอายุการกรีดอยู่ที่1-20ปีสวนยางของสมาชิกประมาณ 200 ไร่ เป็นสวนยางพาราที่มีอายุการกรีดเกิน25ปีและเกษตรกรเตรียมที่จะล้มยางเพื่อเริ่มปลูกรอบใหม่ ส่วนที่เหลือเป็นสวนยางพาราที่ยังไม่เปิดกรีดมีอายุที่2-6ปี กิจกรรมที่สกย.ดำเนินการอยู่เป็นกิจกรรมธุรกิจซื้อ/ขาย แปรรูปน้ำยางสดของสมาชิกและกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการทำสวนยางพารา เช่นจำหน่ายปุ๋ยให้กับสมาชิกรวมถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิกในการลงทุนประกอบอาชีพและใช้จ่ายในครัวเรือน ปัจจุบันสกย.มีทุนดำเนินการที่เกิดจากการลงหุ้นของสมาชิกจำนวน 10,854,500 บาท ใช้ในการลงทุนซื้อขายน้ำยางสดจากสมาชิก จำนวนน้ำยางสดของสมาชิกมีปริมาณต่อวันที่ 6,000กก.คิดเป็นน้ำยางแห้งอยู่ที่1,800กก.คิดเป็นมูลค่า 90,000 บาทต่อวัน ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้แยกออกเป็นของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรสวนยางแปลงใหญ่จำนวน 2,000 กก.คิดเป็นน้ำยางแห้ง 600 กก.คิดเป็นมูลค่า30,000บาท ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่มีสมาชิกทั้งหมด30 คนมีโครงสร้างการทำงานในรูปคณะกรรมการกลุ่ม กลุ่มแปลงสวนยางใหญ่มีเนื้อที่สวนยางพาราทั้งหมด407.25 ไร่ ในปีที่ผ่านมากลุ่มสวนยางแปลงใหญ่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกคือกิจกรรมอบรมให้ความรู้กับสมาชิกในการพัฒนายกระดับอาชีพและผลผลิตน้ำยาง รวมถึงการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกในการสร้างอาชีพแก่สมาชิกของกลุ่ม สภาพปัญหา ช่วงเวลา10ปีที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนยางพาราต้องเผชิญกับปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำลงมามากเพราะสาเหตุอาจมาจากการที่ภาครัฐสนับสนุนให้มีการปลูกยางพารามากเกินไปและรวมถึงระบบการจัดการคุณภาพยางพาราที่ส่งผลต่อการตลาดด้วย จึงส่งผลกระทบแก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นวงกว้าง จากการร่วมกันพูดคุยเราค้นพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากปัญหาที่เป็นปรากฏการณ์เพียงอย่างเดียวแท้จริงแล้วปัญหาที่เกษตรกรส่วนใหญ่เผชิญอยู่ในปัจจุบันพบว่า สาเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมและความเชื่อของคน คือ คนนิยมปลูกยางพาราเป็นพืชเชิงเดี่ยวเพราะมีความเชื่อว่าการกรีดยางพาราเพียงอย่างเดียวยังสามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอดได้ เพราะคนขาดความรู้ความเข้าใจในการสร้างรูปแบบสวนยางพาราแบบผสมผสาน คนขาดความตระหนักที่จะจัดการต่อการร่วมกันพันธุ์พืชท้องถิ่นให้อยู่คู่กับชุมชน คนไม่เชื่อว่าหากมีการสร้างสวนยางรูปแบบใหม่จะนำไปสู่การสร้างรายได้และลดรายจ่ายครัวเรือนได้ รวมทั้งการที่คนในชุมชนมัวมุ่งอยู่กับการหาเงินจนไม่มีเวลามาเรียนรู้การสร้างสวนยางพาราในรูปแบบใหม่ สาเหตุที่เกิดจากกลไกและระบบที่หนุนเสริมเชิงนโยบายคือ ในชุมชนยังไม่มีแปลงต้นแบบในการสร้างรูปแบบการจัดการสวนยางพาราในรูปแบบพืชร่วมยางให้คนในชุมชนได้เรียนรู้ ขาดการส่งเสริมและหนุนเสริมจากองค์กรภาครัฐและภาคท้องถิ่น คนในชุมชนมีความรู้แต่ขาดการจัดการให้เกิดการเรียนรู้ของคนในชุมชนชนอีกทั้งในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาภาครัฐมีนโยบายในการสวนยางพาราที่ทำลายพันธุกรรมพืชในชุมชนเองก็ขาดการสร้างการเรียนรู้และขาดการจัดการให้ชาวสวนยางพารามุ่งสร้างสวนยางพาราแบบสวนยางพาราเชิงเดี่ยวด้วยกับการพัฒนาที่มาพร้อมการทำลายจากโครงการของหน่วยงานภายนอกและเกิดจากความไม่รู้เท่าทันของประชาชนในการประกอบอาชีพ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้เริ่มสูญหายไปจากอย่างรวดเร็ว และนับวันยิ่งหายไปจากพื้นที่อาจจะด้วยจากสาเหตุที่มาจากประชาชนในพื้นที่ทำการเกษตรปลูกยางพาราในลักษณะเชิงเดี่ยวที่มุ่งเน้นกำไรเป็นตัวเงินมากกว่าการดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายของพืชพันธ์ต่างๆ ด้วยอาจจะเข้าใจว่าการเกษตรปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียวจะให้ผลตอบแทนที่มากกว่า แต่ในทางกลับกันพบว่าแนวทางการทำการเกษตรแบบผสมผสานปลูกพืชหลายอย่างนั้นทำให้เกิดรายได้จากส่วนต่างๆได้มากกว่าและทำให้ปัจจัยการผลิตจำพวกปุ๋ยนั้นน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช อีกอย่างที่สำคัญคือการใช้ปุ๋ยเคมีโดยขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง จะเป็นสาเหตุที่สำคัญในการนำไปสู่ความเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วของดินและแหล่งน้ำ ทั้งเป็นการทำลายความหลากหลายของพืชพันธุ์ต่างๆในพื้นที่สวนยางพาราและในชุมชนด้วย จนนำไปสู่เรื่องปัญหาสุขภาพของคนในพื้นที่ที่ได้รับการบริโภคพืชผักที่มีสารตกค้างปนเปื้อนเหล่านี้ทั้งทางตรงและทางอ้อมเพราะเมื่อพื้นที่สวนยางพาราถูกสร้างวิธีคิดให้ปลูกยางเพียงอย่างเดียวจึงทำให้พืชอาหารโดยธรรมชาติที่เคยเจริญงอกงามและมีความหลากหลายทางด้านพันธุกรรมหายไปด้วย ผู้คนจึงต้องพึ่งพาพืชอาหารจากแหล่งผลิตอื่นซึ่งไม่สามารถรู้ได้ถึงกระบวนการผลิตและความปลอดภัยในการผลิตของพืชอาหารเหล่านั้นส่งผลให้ไม่สามารถรับรองได้ถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพในการบริโภค ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคายางพาราที่ตกต่ำและประชาชนคิดได้เพียงว่ารายได้นั้นมาจากยางพาราเพียงอย่างเดียว เมื่อเกิดปัญหาราคายางพาราตกต่ำ รวมถึงต้นทุนในการผลิตที่สูงมากทั้งต้นทุนที่เกิดจากการซื้อปุ๋ยมาใช้ในสวนยางพารา ต้นทุนในการขนส่งน้ำยางพารา ต้นต้นในการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางไปประกอบอาชีพกรีดยางของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ดังกล่าวนั้น ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรรายย่อยยังคงประสบปัญหาความยากจนรายได้ไม่เพียงพอในการดำรงค์ชีวิตในปัจจุบันรวมทั้งการที่เกษตรกรต้องเป็นหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายประจำในครัวเรือนและหนี้ที่เกิดจากกระบวนการผลิตภาคการเกษตรในการทำสวนยางพาราซึ่งปัจจุบันสมาชิกยังเป็นหนี้กับสกย.จำนวน2500,000บาท จึงเกิดการพูดคุยรวมตัวกันของกลุ่มคนที่อยากเห็นการพัฒนายกระดับการประกอบอาชีพของเกษตรกรและการเรียนรู้ให้รู้เท่าทันและสามารถรักษาทรัพยากรพืชท้องถิ่นเอาไว้พร้อมทั้งเป็นทางออกให้เห็นว่ามีรายได้ที่เกิดขึ้นจากการปลูกพืชผสมผสานอย่างอื่นในแปลงที่มากกว่ายางพาราเพียงอย่างเดียวด้วย ทางกลุ่มเกษตรกรสวนยางแปลงใหญ่ได้หันมาสนใจผลักดันขับเคลื่อนการสวนเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติโดยการใช้พื้นที่สวนยางพารามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าการกรีดเอาน้ำยางเพียงอย่างเดียวจึงคิดสร้างให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ความหลากหลายทางพันธุกรรมพืชในสวนยางพาราให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยใช้กลุ่มคนที่สนใจนี้เป็นเครื่องมือกลไกในการขับเคลื่อนกระบวนการทำงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ผ่านกระบวนการร่วมคิดร่วมปรึกษาหารือและร่วมกันวางแผนการทำงานและสร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ขยายแนวคิดที่เป็นรูปธรรมปฏิบัติการแล้วไปสู่ชุมชนในระยะต่อไป ทั้งส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ที่ทำสวนอยู่แล้วและผู้คนที่อยู่ในชุมชนที่สนใจได้หันมาตระหนักและร่วมกันสร้างเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติให้มากขึ้น และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในชุมชนโดยใช้การฟื้นฟูและอนุรักษ์ให้กลับมาได้ใช้ประโยชน์ และคาดหวังกันว่าพื้นที่ที่เข้าร่วมการเรียนรู้ในปีนี้จะกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรในสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและสามารถจัดการหมู่บ้านตนเองได้ในระยะยาวต่อไปได้โครงการเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติโดยการใช้พืชร่วมยางพารา จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้เชื่อมโยงการทำงานระหว่างผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ ภาครัฐที่เข้ามาหนุนเสริม และผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการสร้างการเรียนรู้ให้เกิดการทำงานที่ง่ายขึ้น ทั้งยังจะเป็นการสร้างพื้นที่การพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการปฏิบัติการจริงในพื้นที่ การสร้างแรงกระตุ้นและเสริมสร้างศักยภาพการทำงานโดยผ่านเครื่องมือกลไกต่างๆเช่น การลงเก็บข้อมูลสำรวจในพื้นที่จริง การออกแบบการทำงานสร้างกลไกกติกาที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง การพัฒนาพื้นที่ปฏิบัติการให้เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ เป็นต้น และเชื่อว่าในระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการนี้นั้นจะเห็นมิติการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างแน่นอนอีกทั้งกลุ่มสวนยางแปลงใหญ่บ้านทุ่งแสงทองได้รับงบสนับสนุนจาก กยท. ในการสร้างการเรียนรู้เรื่องการจัดการองค์กรให้แก่สมาชิกจนสมาชิกส่วนหนึ่งเกิดการเรียนรู้และสามารถพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ทักษะอื่นในการประกอบอาชีพสวนยางพาราและความรู้อื่นๆที่จะสามารถยกระดับและสร้างรายได้เสริมและลดรายจ่ายในครัวเรือนให้กับสมาชิกกลุ่มสวนยางแปลงใหญ่ตื่นรู้และมีความคิดที่จะริเริ่มการประกอบอาชีพในการทำสวนยางพาราในรูปแบบใหม่โดยทางกลุ่มมีความคาดหวังว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบในการประกอบอาชีพการทำสวนยางพาราจะเป็นทางออกทางรอดของสมาชิกในชุมชนที่จะนำพาครอบครัวให้อยู่รอดได้ในภาวะที่เกิดความถดถอยและราคายางพาราที่ตกต่ำลงไปทุกขณะ แต่ภายใต้การหนุนเสริมของภาครัฐยังไม่ให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่สวนยางพาราเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยให้แก่เกษตรกรมากนัก อีกทั้งเกษตรกรเองก็ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการสร้างสวนยางพารามาเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยให้แก่ครัวเรือนและชุมชน ในขณะที่มีเกษตรกรส่วนหนึ่งพยายามที่จะเริ่มเปลี่ยนสวนยางพาราของตัวเองหันมาปลูกยางพาราแบบป่าร่วมยางแต่ก็ยังประสบปัญหาเรื่องความรู้ด้านวิชาการ ความรู้ด้านพันธุกรรมพืชที่จะสามารถนำมาปลูกร่วมกับยางพาราได้ อีกทั้งพันธุ์พืชในชุมชนหลายชนิดก็เริ่มสูญหายไปจากการทำสวนยางแบบเดี่ยวจึงประสบปัญหาการหาพันธุ์พืชมาปลูกได้ รวมทั้งข้อจำกัดในการใช้น้ำในการปลูกด้วยเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ร่วมโครงการเป็นพื้นที่สวนยางพาราที่อยู่บนที่สูงไม่มีแหล่งน้ำและการจัดการน้ำที่นำไปใช้ในการเพาะปลูกด้วย ทางกลุ่มจึงมีความเห็นร่วมกันที่รับสนับสนุนงบประมาณจากสสส.เพื่อสร้างการเรียนรู้ให้แก่สมาชิกกลุ่มเพื่อให้เกิดการปฏิบัติการเป็นรูปธรรมและประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อสร้างกลไกการจัดการพืชร่วมยางแบบมีส่วนร่วม 1.มีคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการสวนยางแปลงใหญ่กับสหกรณ์ชาวสวนยางที่สามารถชักชวนเกษตรกรมาร่วมดำเนินการและสามารถเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับ กยท.ได้ 2.มีสมาชิกกลุ่มที่ร่วมโครงการไม่น้อยกว่า30รายและมีพื้นที่ร่วมดำเนินการในโครงการไม่น้อยกว่ารายละ2ไร่ 3.มีกติกาของกลุ่มที่เกิดจากการมีส่วนร่วม |
1.00 | |
2 | 2.เพื่อให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการผลิตพืชอาหารปลอดภัยในสวนยางพารา 1.เกษตรกรมีความรู้เรื่องการปลูกพืชร่วมยาง 2.มีแผนการปลูกพืชร่วมยางรายแปลงที่เหมาะสมกับอายุยางและสภาพพื้นที่สวนยาง 3.มีการรวมกลุ่มผลิตปุ๋ย/สารทดแทนสารเคมีและนำไปใช้ในแปลง 4.มีแปลงต้นแบบของสมาชิกในพื้นที่โครงการ |
0.00 | |
3 | 3.เพื่อให้มีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง 1.มีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของกลุ่มตามแผนและกติกาไม่น้อยกว่า3ครั้ง 2.มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกไม่น้อยกว่า3ครั้ง 3.มีบทเรียนการปลูกพืชร่วมยางจากพื้นที่ดำเนินการโครงการ |
0.00 | |
4 | 4.เพื่อเพิ่มพื้นที่ผลิตพืชอาหารปลอดภัยในสวนยางพารา 1.มีการปลูกพืชอาหารในพื้นที่สวนยางพาราของสมาชิกที่ร่วมโครงการเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า5ชนิด 2.มีพื้นที่ร่วมโครงการที่มีการปลูกพืชอาหารปลอดภัยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า60ไร่ 3.มีการลดปริมาณการใช้สารเคมีในสวนยางพาราที่ร่วมโครงการไม่น้อยกว่าร้อยละ30 |
0.00 | |
5 | 5.เพื่อให้คนในชุมชนพัทลุงได้บริโภคอาหารปลอดภัยเพิ่มขึ้น 1.มีผลผลิตพืชอาหารปลอดภัยจากสวนยางพารามาจำหน่ายในชุมชน |
0.00 |
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | |||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 376 | 105,000.00 | 28 | 113,105.00 | |
1 - 9 พ.ค. 65 | ชื่อกิจกรรมที่ 1 ประชุมคณะทำงานโครงการ( กลุ่มเป้าหมายจำนวน10คน) | 10 | 7,800.00 | ✔ | 1,300.00 | |
6 พ.ค. 65 | ค่าเปิดบัญชีธนาคาร | 0 | 0.00 | ✔ | 500.00 | |
9 พ.ค. 65 | ชื่อกิจกรรมที่ 3.ศึกษาดูงาน (กลุ่มเป้าหมายคือสมาชิกจำนวน32คน) | 32 | 15,110.00 | ✔ | 15,110.00 | |
9 พ.ค. 65 | กิจกรรมปฐมนิเทศผู้รับทุน | 3 | 300.00 | ✔ | 300.00 | |
11 พ.ค. 65 | ชื่อกิจกรรมที่ 2.เวทีเปิดโครงการและเรียนรู้ข้อมูลและสถานการณ์( กลุ่มเป้าหมายจำนวน 34คน) | 34 | 2,750.00 | ✔ | 2,750.00 | |
24 พ.ค. 65 | ค่าจัดทำป้ายรณรงค์พื้นที่ปลอดบุหรี่ | 0 | 0.00 | ✔ | 1,000.00 | |
10 มิ.ย. 65 | กิจกรรมที่ 4 เวทีสรุปผลการศึกษาดูงานและวางแผนการปลูกรายแปลง(กลุ่มเป้าหมายคือสมาชิกจำนวน32 คน) | 32 | 6,860.00 | ✔ | 6,820.00 | |
20 มิ.ย. 65 | ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 2 | 10 | 1,300.00 | ✔ | 1,300.00 | |
10 - 25 ส.ค. 65 | กิจกรรมที่ 10 หนุนเสริมการปลูก | 32 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
12 ก.ย. 65 | กิจกรรม งานสมัชชา"พัทลุงมหานครแห่งความสุข" | 5 | 300.00 | ✔ | 300.00 | |
1 ต.ค. 65 | ประชุมคณะทำงานโครงการ ครั้งที่ 3 | 0 | 0.00 | ✔ | 1,300.00 | |
1 พ.ย. 65 | กิจกรรมที่ 9 ประเมินผลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา(ARE)(กลุ่มเป้าหมายจำนวน 15 คน) | 15 | 4,700.00 | ✔ | 2,350.00 | |
9 ธ.ค. 65 | กิจกรรมที่ 5 ออกแบบการปลูกรายแปลง (กลุ่มเป้าหมาย 32 ) | 32 | 7,460.00 | ✔ | 7,460.00 | |
12 ธ.ค. 65 | กิจกรรมที่ 1 ประชุมคณะทำงานโครงการ( กลุ่มเป้าหมายจำนวน10คน) ครั้งที่ 4 | 0 | 0.00 | ✔ | 1,300.00 | |
16 ม.ค. 66 | กิจกรรมที่ 11 ส่งเสริมให้สมาชิกทำปุ๋ยใช้เอง(กลุ่มเป้าหมายคือคณะทำงานโครงการจำนวน 32 คน) | 32 | 15,360.00 | ✔ | 15,360.00 | |
30 ม.ค. 66 | กิจกรรมที่ 7 เยี่ยมเยียนติดตามแปลงของสมาชิก(กลุ่มเป้าหมายคือคณะทำงานโครงการจำนวน 5 คน) ครั้งที่ 1 | 5 | 0.00 | ✔ | 2,150.00 | |
7 มี.ค. 66 | กิจกรรมที่ 6 จัดทำเรือนเพาะชำ(กลุ่มเป้าหมายคือสมาชิกร่วมโครงการ 30 คน) | 30 | 17,000.00 | ✔ | 17,000.00 | |
27 มี.ค. 66 | กิจกรรมที่ 7 เยี่ยมเยียนติดตามแปลงของสมาชิก(กลุ่มเป้าหมายคือคณะทำงานโครงการจำนวน 5 คน) ครั้งที่2 | 0 | 0.00 | ✔ | 2,150.00 | |
30 พ.ค. 66 | ประชุมคณะทำงานโครงการ ครั้งที่ 5 | 0 | 0.00 | ✔ | 1,300.00 | |
6 มิ.ย. 66 | กิจกรรมที่ 8 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิก(กลุ่มเป้าหมายจำนวน 32 คน) | 32 | 14,920.00 | ✔ | 7,460.00 | |
13 มิ.ย. 66 | กิจกรรมที่ 9.กิจกรรมประเมินผลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา(ARE) (กลุ่มเป้าหมายจำนวน15คน) ครั้งที่2 | 0 | 0.00 | ✔ | 2,350.00 | |
30 มิ.ย. 66 | กิจกรรมที่ 12 ให้ความรู้การขายยพัยธุ์พืชและการเลี้ยงดูต้นกล้า(กลุ่มเป้าหมายคือสมาชิกจำนวน32 คน) | 32 | 7,460.00 | ✔ | 7,460.00 | |
20 ก.ค. 66 | ประชุมคณะทำงานโครงการ ครั้งที่ 6 | 0 | 0.00 | ✔ | 1,300.00 | |
22 ก.ค. 66 | กิจกรรมที่ 7 เยี่ยมเยียนติดตามแปลงของสมาชิก(กลุ่มเป้าหมายคือคณะทำงานโครงการจำนวน 5 คน) ครั้งที่3 | 0 | 0.00 | ✔ | 2,150.00 | |
24 ก.ค. 66 | กิจกรรมที่ 8.กิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสมาชิก(กลุ่มเป้าหมายจำนวน 32 คน) ครั้งที่2 | 0 | 0.00 | ✔ | 7,460.00 | |
30 ก.ค. 66 | กิจกรรมที่ 13 สรุปผลการดำเนินงานและจัดนิทรรศการโชว์ผลงานโครงการ(กลุ่มเป้าหมายจำนวน 40 คน ) | 40 | 3,680.00 | ✔ | 3,875.00 | |
15 ส.ค. 66 | เข้าร่วมกิจกรรม พัทลุงมหานครแห่งความสุข ครั้งที่2 | 0 | 0.00 | ✔ | 300.00 | |
31 ส.ค. 66 | รายงานกิจกรรมลงระบบ | 0 | 0.00 | ✔ | 1,000.00 |
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 14:20 น.